KCARพอร์ตรถมือสองขายดี หนุนงบไตรมาส4โตต่อเนื่อง

#KCAR #ทันหุ้น – KCAR แนวโน้มผลงานไตรมาส 4/2568 ยังเติบโตขึ้น YoY จากการที่มีรถครบอายุสัญญากลับเข้ามาเป็นจำนวนมาก และบริษัทได้นำไปขายต่อเป็นรถมือสอง ส่งผลให้งบของบริษัทมีการเติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่การเติบโตในปี 2569 ยังทรงตัว สวนทางกับอุตสาหกรรมรถเช่าที่หดตัว
นายพิชิต จันทรเสรีกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท กรุงไทยคาร์เร้นท์ แอนด์ ลีส จำกัด (มหาชน) หรือ KCAR ผู้ให้บริการสัญญาเช่ารถยนต์เพื่อการดำเนินงาน เปิดเผยกับ “ทันหุ้น” ว่า แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4/2568 คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องกว่าปีที่แล้ว แต่ยังถูกกดดันจากเรื่องรถยนต์ไฟฟ้า (EV) จากราคาที่ปรับตัวลดลง ทั้งนี้ภาพรวมธุรกิจยังเติบโตได้ดีโดยประเมินว่าธุรกิจรถยนต์ให้เช่าจะหดลงประมาณ 2% เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจ
ขณะที่ยอดขายรถยนต์มือสองจะเติบโตขึ้นเกือบเท่าตัวอยู่ที่ประมาณ 3,000 คัน จากที่ก่อนที่ทำได้ราว 1,000 คัน จึงทำให้บริษัทมีสัดส่วนรายได้จากรถยนต์ให้เช่าลดลงเหลือ 40% และมีสัดส่วนรายได้จากการขายรถยนต์มือสองเพิ่มขึ้นเป็น 60% เพราะว่าการขายรถยนต์รับรู้รายได้เป็นเงินก้อนใหญ่ รายได้จากค่าเช่ารับรู้เป็นรายเดือน
@ลุยขายรถหมดสัญญา
อีกทั้งยอดขายรถยนต์มือสองที่เติบโตขึ้น ส่งผลให้ผลงานของบริษัทมีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากมีรถยนต์ที่ครบอายุสัญญากลับเข้ามาเป็นจำนวนมากและบริษัทได้นำกลับไปขายต่อเป็นรถยนต์มือสอง แม้ว่าภาวะตลาดรถยนต์มือสองจะยังไม่ค่อยดี แต่บริษัทก็ยังสามารถจำหน่ายรถยนต์มือสองได้ เช่น ขายรถยนต์ผ่านบริษัทลูกค้าที่เป็นดีลเลอร์ Toyota Sure โดยไม่ได้เน้นขายเข้าเต็นท์
ขณะที่แผนการเติบโตในปี 2569 จะมีรถยนต์ครบอายุสัญญาคืนเข้ามา แต่ปริมาณจะไม่มากเท่าปีนี้ เนื่องจากปีนี้มีล็อตใหญ่เป็นพิเศษผลจากการเติบโตเมื่อ 4-5 ปีที่แล้ว ดังนั้นจึงคาดว่าภาพรวมผลประกอบการยังค่อนข้างทรงตัว จากสภาพเศรษฐกิจไม่ดีและลูกค้ามีการต่ออายุสัญญามากขึ้น ขณะเดียวกันจะมีลูกค้ากลุ่มใหม่ที่หันมาเช่ารถยนต์แทนการซื้อรถยนต์ใหม่
ทั้งนี้กลุ่มลูกค้าหลักของบริษัท คือ กลุ่ม Corporate เช่น องค์กร, รัฐวิสาหกิจ, เอกชน โดยจะเน้นเอกชนรายใหญ่ ซึ่งบริษัทมีฐานลูกค้าในธุรกิจรถยนต์ให้เช่าประมาณ 10,000 กว่าบริษัท
@รักษาการเติบโต
โดยปัจจุบันบริษัทมีพอร์ตรถยนต์ประมาณ 10,000 คัน คาดว่าจะมีเติมรถยนต์เข้าพอร์ตราว 1,800-2,000 คัน และจะมีการขายรถยนต์ออกไปประมาณกว่า 2,000 คันเช่นกัน ทำให้ภาพรวมยังเติบโตเติบได้ดีกว่าอุตสาหกรรม อย่าวงไรก็ตามคาดว่าตลาดรถยนต์ให้เช่าจะหดตัวลง ซึ่งบริษัทใช้กลยุทธ์ฃรักษาการให้บริการที่ดีทำให้ลูกค้าหันมาใช้บริการของบริษัทแม้ตลาดจะมีการแข่งขันด้านราคาอย่างรุนแรงมา 3-4 ปีแล้วก็ตาม
ด้านแนวโน้มตลาดรถยนต์มือสองปีหน้าคาดว่าอาจจะดีขึ้นหรือทรงตัว ขึ้นอยู่กับนโยบายภาครัฐ และคาดว่าการแข่งขันเรื่องราคาของรถยนต์ EV จะน้อยลงในปีหน้า ซึ่งสถานการณ์ตลาดมือสองไม่ค่อยมีผลกระทบต่อบริษัทมากนักเพราะ ซัพพลาย (Supply) ของบริษัท 70% มาจากรถยนต์ให้เช่า ทำให้มีข้อได้เปรียบในการบริหารจัดการ
อย่างไรก็ดีบริษัทได้รับอัตราดอกเบี้ยที่ลดลงในปีนี้ เนื่องจากอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนลดลงและผลประกอบการดีขึ้น หากคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีการลดดอกเบี้ยอีกจะเป็นผลบวกต่อบริษัททำให้ต้นทุนหนี้ใหม่ถูกลง ในส่วนการบริหารจัดการหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา
จากมาตรการการคัดพิจารณาสินเชื่อที่เข้มข้นขึ้น และการทำงานใกล้ชิดกับลูกค้า มีการแนะนำลูกค้าที่เครดิตไม่แข็งแรงให้เช่ารถยนต์มือสองหรือทำสัญญาสั้นลง เพื่อลดภาระของลูกค้า รวมถึงมีการยืดหยุ่นและผ่อนผัน การชำระหนี้ในบางช่วงเวลา โดยร่วมมือกับลูกค้าอย่างใกล้ชิดเพื่อหลีกเลี่ยงการเป็นหนี้เสีย
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
