รีเซต

‘แบงก์’สินเชื่อวูบ5ไตรมาส ยันสำรอง-สภาพคล่องสูง

‘แบงก์’สินเชื่อวูบ5ไตรมาส ยันสำรอง-สภาพคล่องสูง
ทันหุ้น
19 พฤศจิกายน 2568 ( 08:00 )

#ธปท. #ทันหุ้น - ธปท. ชี้ แบงก์แกร่ง “สำรอง-สภาพคล่อง” สูง แม้การปล่อยสินเชื่อจะหดตัว 5 ไตรมาสติด ด้านกำไรสุทธิรวมไตรมาส 3/2568 ที่ 6.6 หมื่นล้านบาท ลดลง 7% จากช่วงเดียวกันปีก่อน   ส่วนหนี้เสียเพิ่มเล็กน้อยอยู่ที่ 2.94% พร้อมจับตาภาวะการเงินตึงตัว -การชำระหนี้ของเอสเอ็มอี-ครัวเรือน ท่ามกลางเศรษฐกิจชะลอตัว ด้านโบรก มอง KTB เด่นสุด

นายสมชาย  เลิศลาภวศิน ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แถลงสรุปภาพรวมธนาคารพาณิชย์ ไตรมาส 3/2568 ว่า ระบบแบงก์พาณิชย์ยังมั่นคงและมีเสถียรภาพดี แต่มีประเด็นต้องติดตามทั้งภาวะการเงินที่ตึงตัว ความสามารถในการชำระหนี้ของเอสเอ็มอีและและครัวเรือน ท่ามกลางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวจากมาตรการภาษีตอบโต้ของสหรัฐ รวมถึงรายได้ที่ฟื้นตัวช้า แต่โครงการคุณสู้เราช่วย ได้เข้ามาบรรเทาภาระหนี้ของเอสเอ็มอีและกลุ่มเปราะบาง

@สภาพคล่องแกร่ง

“ในภาพของแบงก์พาณิชย์นั้น ตัวเงินสำรองและสภาพคล่องสูงถือเป็นจุดแข็ง ส่วนระบบสินเชื่อมีการหดตัวแต่ใกล้เคียงกับไตรมาสที่ผ่านมา โดยผลสินเชื่อเอสเอ็มอีและสินเชื่ออุปโภคบริโภคก็เป็นไปตามความเสี่ยงเครดิต ขณะที่ สินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ดีขึ้น”

ทั้งนี้เงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มขึ้น โดยอยู่ที่ 21.3% จากไตรมาส 2 ที่อยู่ 21% ด้านสภาพคล่องทรงตัว โดยการดำรงสินทรัพย์สภาพคล่องเพื่อรองรับสถานการณ์ด้านสภาพคล่องที่มีความรุนแรงหรือ LCR อยู่ที่ 204% สูงกว่ามาตรฐาน ส่วนเงินสำรองหนี้เสียเพิ่มขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ 179.8% จากไตรมาส 2 อยู่ที่ 174.4%

สำหรับผลประกอบการของแบงก์พาณิชย์ไตรมาส 3/2568 มีกำไรสุทธิ 6.6 หมื่นล้านบาท ลดลง 7% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 7.1 หมื่นล้านบาท 9%  และลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2568  ผลจากรายได้ดอกเบี้ยที่ลดลง จากสินเชื่อและดอกเบี้ยที่ลดลง ส่วนรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นเป็น 7.7 หมื่นล้านบาท ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้าที่มีรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยที่ 8.1 หมื่นล้านบาท ขณะที่ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยก็ลดลงจาก 2.72% มาอยู่ที่ 2.66%

@NPL ทรงตัว

สำหรับสถานการณ์หนี้เสียถือว่า ค่อนข้างทรงตัว และหนี้เสียรายใหม่ไหลมาน้อยลง เป็นผลฐานสินเชื่อที่หดตัว ส่วนสินเชื่อสเตท 2 ปรับเพิ่มขึ้น มีเหตุผลจากการจัดชั้นหนี้และคุณภาพหนี้รายใหญ่ไม่ได้กระจายตัว โดยหนี้เสียอยู่ที่ 2.94% จากไตรมาสสองอยู่ที่ 2.89% โดยหนี้เสียธุรกิจขนาดใหญ่ลดลงจากลูกหนี้บางรายกลับมาชำระหนี้คืน ขณะที่หนี้เสียของเอสเอ็มอีเพิ่มขึ้นในอัตราชะลอลง ส่วนหนี้เสียสินเชื่ออุปโภคบริโภคโดยรวมทรงตัว

ทั้งนี้ หนี้เสียสินเชื่ออุปโภคทรงตัวจาก 3.29% เป็น 3.28% หนี้เสียสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่อยู่ที่ 1.34% จาก 1.35% หนี้เสียเอสเอ็มอีอยู่ที่ 9.13% จาก 8.92% หนี้เสียสินเชื่อบ้าน ลดลงจาก 3.86% เป็น 3.83% หนี้เสียสินเชื่อส่วนบุคคลจาก 3.10% เป็น 3.11% หนี้เสียสินเชื่อเช่าซื้อจาก 2.22% เป็น 2.17%  หนี้เสียสินเชื่อบัตรเครดิตจาก 3.10% เป็น 3.11%

สำหรับการปล่อยสินเชื่อธนาคารพาณิชย์รวมกับบริษัทลูกหดตัวใกล้เคียงเดิมจากสินเชื่อธุรกิจเอสเอ็มอีและสินเชื่ออุปโภคบริโภคที่ยังหดตัวต่อเนื่องตามความเสี่ยงด้านเครดิตของเอสเอ็มอีและครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง

@สินเชื่อรวมปีนี้หดตัว

ทั้งนี้ สินเชื่อรวมหดตัวมาอยู่ที่ 8.78% จาก 7.90% ซึ่งเป็นการหดตัวลงติดต่อกัน 5 ไตรมาส  โดยเริ่มหดตัวตั้งแต่ไตรมาส 3/2567  โดยสินเชื่อธุรกิจขยายตัวจาก 6.88% มาอยู่ที่ 7.24%  ส่วนสินเชื่ออุปโภคบริโภคลดลงจาก 7.9% มาอยู่ที่ 7.87% ด้านสินเชื่อขนาดใหญ่ขยายตัวได้มากจาก 0.5% เป็น 0.7% โดยการปล่อยสินเชื่อรวมทั้งปีนี้จะติดลบ

ส่วนหนี้ครัวเรือนต่อจีดีพีปรับลดลง จากสินเชื่อที่ชะลอลง โดยฝั่งแบงก์พาณิชย์เลือกปล่อยสินเชื่อลูกหนี้ที่มีศักยภาพและครัวเรือนระมัดระวังการก่อหนี้ ณ สิ้นไตรมาส 2 หนี้ครัวเรือนต่อจีดีพี ลดลงมาอยู่ที่ 86.8%

@ชู KTB เด่นสุด

ด้านบริษัทหลักทรัพย์  หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่า  หุ้นกลุ่มธนาคารที่น่าสนใจ  เนื่องจากมีสัดส่วนลูกหนี้ที่มีหลักประกัน ราว 26% จะได้รับผลดีจากโครงการแก้ปัญหาหนี้เสียผ่านการซื้อหนี้รายย่อยของ AMC และมีพื้นฐานแข็งแรงมี  ROE และดิวิเดนด์ยิลด์ อยู่ในเกณฑ์ดี โดยให้ราคาเหมาะสมที่ 32 บาทต่อหุ้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง