เปิดตัว Jabra Elite 10 หูฟัง Dolby Atmos พร้อม Elite 8 Active หูฟังทนทานที่สุด
RTB Technology ร่วมกับ Studio7 เปิดตัวหูฟังแบบ True Wireless ระดับเรือธง 2 รุ่นจาก Jabra คือ “Jabra Elite 10” ที่เน้นคุณภาพเสียง ซึ่งมาพร้อมระบบ Dolby Atmos และ “Jabra Elite 8 Active” ที่เน้นเรื่องความทนทาน ป้องกันฝุ่นกันน้ำระดับ IP68
Jabra Elite 10 สำหรับคนรักเสียง
Jabra Elite 10 ถือเป็นหูฟังไร้สายแบบ TWS ตัวท็อปสุดของแบรนด์ โดยมาพร้อม Dolby Atmos ที่ให้เสียงได้รอบทิศทางรวมถึงเสียงจากเหนือศีรษะ พร้อมเทคโนโลยี Dolby Head Tracking เพื่อปรับตำแหน่งเสียงในหูฟังให้สอดคล้องกับการเคลื่อนที่ของศีรษะ แน่นอนว่ารองรับเสียงแบบ Spatial Sound เพื่อให้คุณดื่มด่ำกับเสียงเพลงได้อย่างเต็มอิ่ม รวมถึง Jabra Advanced Active Noise Cancellation เทคโนโลยีตัดเสียงรบกวนภายนอกที่ดีที่สุดและมีประสิทธิภาพสูงสุด ดีขึ้นกว่าเดิมถึง 2 เท่า เมื่อเทียบกับมาตรฐานเดิมของ Jabra
Jabra Elite 10 มาพร้อมไดร์เวอร์ขนาด 10 มม. และไมโครโฟน 6 ตัว สำหรับรับเสียงพูดและตัดเสียงรบกวนทำให้เสียงสนทนาคมชัด สดใส ขณะที่ตัวหูฟังออกแบบมาให้พอดีกับสรีระ ผสานเทคโนโลยี Jabra ComfortFit ที่ช่วยลดแรงดันภายในหู จุกหูฟังเป็นรูปไข่ทำให้ใส่สบาย ขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา จึงสวมใส่ได้สบายตลอดทั้งวัน
ขณะเดียวกันยังรองรับ Bluetooth Multipoint Connection ช่วยให้คุณเชื่อมต่อ 2 อุปกรณ์ได้พร้อมกัน และสามารถสลับการใช้งานระหว่างอุปกรณ์ได้อย่างง่ายดาย รวมถึงสามารถปรับแต่ง EQ และรูปแบบการใช้งานได้อย่างอิสระผ่านแอปพลิเคชัน Jabra Sound+ พร้อมมาตรฐานป้องกันละอองน้ำและฝุ่น IP57 และยังมี Google Fast Pair และ Microsoft Swift Pair ช่วยให้คุณเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ผ่านบลูทูธได้อย่างรวดเร็ว แบตเตอรี่ใช้งานได้นานถึง 6 ชม. และเพิ่มเป็น 27 ชม.เมื่อใช้ร่วมกับตลับชาร์จ (เปิด ANC)
Jabra Elite 10 ราคา 9,500 บาท มีให้เลือก 3 สี คือ Cream, Titanium Black และ Cocoa
Jabra Elite 8 Active สำหรับคนใช้งานโหดๆ
Jabra Elite 8 Active จะลดสเปกด้านเสียงลงมานิดหน่อย แล้วเสริมสเปกด้านความทนทานเข้าไปแทน กลายเป็นหูฟังที่อึดที่สุดของจาบร้า เหมาะสำหรับผู้ชอบออกกำลังกายทุกประเภท เพราะทนต่อทุกสภาพอากาศ สามารถใช้งานได้ในที่ๆ มีอุณหภูมิตั้งแต่ -20 ถึง 45 องศาเซลเซียส ผ่านการทดสอบมาตรฐานทางการทหารจากสหรัฐอเมริกา (MIL-STD-810h) ตัวหูฟังได้รับมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP68 สามารถกันน้ำได้ลึกถึง 1.5 เมตร รองรับแรงกระแทกจากการตกจากที่สูงได้ถึง 1 เมตร และเป็นครั้งแรกที่ตัวเคสได้รับมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP54 อีกด้วย
ขณะเดียวกันมาพร้อมไดร์เวอร์ขนาด 6 มิลลิเมตร และระบบเสียง Spatial Sound Powered by Dolby ช่วยให้เสียงที่คุณได้ยินสมจริงและมีมิติมากยิ่งขึ้น พร้อมเทคโนโลยี Adaptive Hybrid Active Noise Cancellation ที่ให้ประสิทธิภาพการตัดเสียงรบกวนภายนอกดีขึ้น 1.6 เท่า เมื่อเทียบกับมาตรฐานเดิมของ Jabra ดังนั้น ไม่ว่าจะเดินในที่ลมแรง หรือเป่าผมในห้องแต่งตัว เสียงจากภายนอกก็จะไม่เข้าไปรบกวนคุณ นอกจากนี้ยังมาพร้อมไมโครโฟนที่สามารถตัดเสียงรบกวนได้ 6 ตัว ช่วยให้เสียงสนทนาของคุณคมชัด สดใส ในทุกๆ สภาพแวดล้อม
ในเรื่องการสวมใส่มีเทคโนโลยี Jabra ShakeGrip™ ซึ่งจะช่วยเพิ่มการยึดเกาะกับหูฟัง ใส่ออกกำลังกายก็ไม่หลุด และรองรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ทวอชผ่านเทคโนโลยี Bluetooth 5.3 และสั่งงานด้วยเสียงผ่าน Siri และ Google Assistant ทำให้คุณไม่ต้องพกโทรศัพท์ระหว่างออกกำลังกายอีกต่อไป แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้นานต่อเนื่อง 8 ชั่วโมง เมื่อเปิด ANC และเพิ่มเป็น 32 ชั่วโมง เมื่อใช้ร่วมกับตลับชาร์จ
Jabra Elite 8 Active ราคา 7,690 บาท มีให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ Navy, Caramel และ Dark Grey
ภาพรวมตลาดหูฟังในไทย
ดร.บรรพต วัฒนสมบัติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาร์ทีบี เทคโนโลยี จำกัด เปิดเผยว่า แม้ภาพรวมเศษฐกิจและกำลังซื้อยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ แต่ความต้องการหูฟังมีอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่นอกจากจะชื่นชอบการดูหนังฟังเพลงแล้วยังต้องการใช้หูฟังในการทำงาน เพื่อการประชุมต่าง ๆ บ่อยครั้ง รวมถึงผู้บริโภคยุคใหม่ยังใส่ใจสุขภาพ ทำให้การใช้หูฟังในการออกกำลังกายแพร่หลายมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้หูฟังที่มีคุณภาพได้รับการตอบรับดีมากขึ้น
สำหรับการทำตลาดหูฟังในช่วงไตรมาสที่ผ่านมา ดร.บรรพต กล่าวว่า “อาร์ทีบีฯ ได้วางกลยุทธ์เข้มข้นด้วยการนำเสนอหูฟังและลำโพงหลากหลายรุ่นเข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อเติมเต็มความสมบูรณ์แบบให้แก่กลุ่มธุรกิจหูฟัง พร้อมทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ให้ครอบคลุมทุกแพลตฟอร์มทั้งออฟไลน์และออนไลน์ เพื่อให้ผลิตภัณฑ์เข้าถึงลูกค้าได้ในวงกว้าง”
ทางด้าน Mr.Ashim Mathur รองประธานฝ่ายการตลาดภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจาก Dolby Laboratories กล่าวว่า “เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้ทำงานร่วมกับจาบร้า เพื่อเปิดตัว Jabra Elite 8 Active ที่มาพร้อมระบบเสียง Dolby Audio และ Jabra Elite 10 ที่มาพร้อมระบบติดตามการเคลื่อนไหวของศีรษะ Dolby Head Tracking เพื่อมอบประสบการณ์เสียงที่น่าทึ่งให้กับลูกค้าในประเทศไทย”
นางสาววิมลมาลย์ วัฒนสมบัติ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท อาร์ทีบี เทคโนโลยี จำกัด กล่าวว่า จาบร้าเป็นแบรนด์ที่ไม่หยุดนิ่งและมุ่งมั่นที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตอบรับกับความต้องการและไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคอยู่เสมอ จนเป็นที่มาของการพัฒนาหูฟัง 2 รุ่นล่าสุด โดย Jabra Elite 10 เป็นสุดยอดหูฟัง True Wireless พรีเมียมระดับที่ออกแบบมาเพื่อรองรับทั้งการทำงานและการใช้ชีวิตทุกรูปแบบ โดยเป็นหูฟังตัวแรกของตระกูล Elite ที่รองรับระบบเสียง Dolby Atmos และเทคโนโลยี Dolby Head Tracking ซึ่งจะช่วยให้คุณได้ยินเสียงที่คมชัดสมจริงเสมือนอยู่ในสถานที่จริง