โฆษก ศบค. ยอมรับโควิด-19 ระบาดรอบใหม่ หนักกว่าครั้งแรก

 วันนี้(27 ธ.ค.) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 (ศบค.) กล่าวระหว่างการแถลงข่าวที่ทำเนียบรัฐบาลว่า จากตัวเลขจำนวนผู้ติดเชื้อที่เห็น ภายในไม่กี่วันที่เพิ่มขึ้นเป็นหลักหลายพัน ยอมรับว่าการระบาดของเชื้อโควิด-19 รอบใหม่นี้ หนักกว่ารอบแรก แต่ก็มีความรู้มากกว่าเดิม มีสรรพกำลังมากกว่าในการเตรียมการกันมาแล้ว ถ้าย้อนกลับไปตอนเดือนกุมภาพันธ์ มีนาคม หน้ากากอนามัย หยูกยา มีไม่พอ เตียงจะเป็นอย่างไร คนป่วยหนักต้องรักษาแบบไหนไม่รู้ เพราะไม่รู้จักโรค แต่ตอนนี้ได้เตรียมกำลังไว้พอสมควร และที่สำคัญที่สุดก็คือมีหน้ากากผ้า หน้ากากอนามัยใช้กันทุกคน โรงงานหน้ากากอนามัยมีกำลังผลิตที่เพียงพอ วันละ 4-5 ล้านชิ้น แต่ก็คงต้องขอความร่วมมือให้ทุกคนใส่ 100% ด้วย

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า ในจังหวัดที่มีการติดเชื้อสูง ก็ไม่ควรมีการเคลื่อนย้ายไปไหน ซึ่งขณะนี้มีอยู่ 30 กว่าจังหวัด และเป็นจังหวัดที่เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด 2 จังหวัด คือ สมุทรสาคร และระยอง ซึ่งคนที่อยู่ในระยองถ้าอยู่ห่างไกลจากจุดที่มีการเล่นพนันผิดกฎหมาย(ที่เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19) ก็ยังสามารถที่จะดูแลกันได้ เราไม่ต้องการใช้มาตรการที่เข้มเกินไป แต่ต้องทำตามคำสั่งของผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นหลัก ส่วนการเดินทางข้ามจังหวัดใน 30 กว่าจังหวัดที่ยังไม่มีผู้ติดเชื้อก็ยังสามารถทได้ เพื่อให้เศรษฐกิจไม่ตึงตัวจนเกินไป

ทั้งนี้ จังหวัดระยองถูกยกระดับการควบคุมเชื้อโควิด-19 เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด เช่นเดียวกับจังหวัดสมุทรสาคร หลังจากมีการพบผู้ติดเชื้อเมื่อวานนี้ 45 ราย ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่เคยเข้าไปเล่นการพนันในบ่อนกลางเมือง โดยมีมาตรการ อาทิ การจำกัดเวลาปิด-เปิดสถานประกอบการ ปิดสถานประกอบการที่มีความเสี่ยง ห้ามแรงงานต่างด้าวเคลื่อนย้ายเข้า-ออกจากพื้นที่โดยเด็ดขาด ควบคุมการเข้า-ออกของยานพาหนะและบุคคลคนไทย ใช้มาตรการทำงานจากที่บ้าน สถานศึกษาปรับรูปแบบการเรียนการสอนเป็นแบบออนไลน์ งดจัดกิจกรรมที่มีการรวมคนจำนวนมากทุกรูปแบบ บริเวณโรงงานและที่พักหากไม่สามารถดำเนินการได้ตามมาตรการที่กำหนดให้พิจารณาหยุดการดำเนินการ

เมื่อจังหวัดระยองเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด จังหวัดที่อยู่ติดกันจะกลายเป็นพื้นที่ควบคุมทันที ได้แก่ ชลบุรี จันทบุรี และฉะเชิงเทรา ซึ่งจะมีมาตรการให้พิจารณาปิดหรือจำกัดเวลาปิด-เปิดสถานกระกอบการที่มีความเสี่ยง ห้ามแรงงานต่างด้าวเคลื่อนย้ายเข้า-ออกจากพื้นที่ ,ให้ประสานจัดตั้งด่านคัดกรองกับจังหวัดพื้นที่สีแดงตามความเหมาะสม ให้ใช้มาตรการทำงานจากที่บ้าน สำหรับบุคคลที่มาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุด ให้สถานศึกษาพิจารณาหยุดการเรียนการสอน หรือการเรียนการสอนแบบออนไลน์ หลีกเลี่ยงจัดกิจกรรมที่มีการรวมคนจำนวนมากทุกรูปแบบ เป็นต้น