GUNKUL ไตรมาส 3/68 กำไร พุ่ง 20.48% บอร์ดฯ เคาะจ่ายปันผล 0.04 บาท/หุ้น

GUNKUL ไตรมาส 3/68 กำไร พุ่ง 20.48% บอร์ดฯ เคาะจ่ายปันผล 0.04 บาท/หุ้น
#ทันหุ้น #SET #GUNKUL บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) GUNKUL รายงานผลการดำเนินงานรวมสำหรับไตรมาส 3 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2568 โดยมีกำไรสุทธิส่วนของบริษัทใหญ่ 457.12 ล้านบาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีกำไรสุทธิ 379.41 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 77.71 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 20.48% โดยมีสาเหตุหลักมาจากการดำเนินธุรกิจที่ดีขึ้น
โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจพลังงาน ทั้งโครงการพลังงานลม โครงการพลังงานแสงอาทิตย์ รวมถึงรายได้จากดอกเบี้ยรับตามสัญญาเช่าการเงินและรายได้อื่น ๆ ที่เติบโตขึ้น อีกทั้งยังมาจากการบริหารจัดการต้นทุนทางการเงินและต้นทุนการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นสำหรับไตรมาส 3 อยู่ที่ 38.36% เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่ 31.20% หรือเพิ่มขึ้น 7.16%
อย่างไรก็ตาม กำไรจากการดำเนินงานปกติอยู่ที่ 456.17 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 472.96 ล้านบาท หรือลดลง 3.55%
รายได้รวม
รายได้รวมของบริษัทฯ สำหรับไตรมาส 3 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2568 อยู่ที่ 1,837.55 ล้านบาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่ 2,370.33 ล้านบาท ลดลง 532.78 ล้านบาท หรือคิดเป็นลดลง 22.48%
กำไรสำหรับงวด 9 เดือน
บริษัทฯ มีผลการดำเนินงานรวมสำหรับงวด 9 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2568 โดยมีกำไรสุทธิส่วนของบริษัทใหญ่ 1,308.61 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1,140.84 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 167.77 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 14.71%
โดยมีสาเหตุมาจากการบริหารจัดการต้นทุนการดำเนินงานที่ดีขึ้นในทุกธุรกิจ ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นสูงขึ้น รวมถึงรายได้จากดอกเบี้ยรับตามสัญญาเช่าการเงินและรายได้อื่น ๆ ที่เพิ่มขึ้นจากการดำเนินธุรกิจหลัก โดยเฉพาะในธุรกิจพลังงาน ทั้งโครงการพลังงานลม โครงการพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน และโครงการพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคาที่ทำสัญญากับลูกค้าภาคเอกชน
กำไรจากการดำเนินงานปกติอยู่ที่ 1,380.56 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่ 1,253.96 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 126.60 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 10.10%
รายได้รวม 9 เดือน
รายได้รวมของบริษัทฯ สำหรับงวด 9 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2568 อยู่ที่ 5,923.85 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่ 7,475.64 ล้านบาท หรือลดลง 1,551.79 ล้านบาท หรือคิดเป็นลดลง 20.76%
ภาพรวมธุรกิจและความคืบหน้าโครงการที่อยู่ระหว่างพัฒนา
ปัจจุบันบริษัทฯ มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดรวม 1,599 เมกะวัตต์ (Gross MW) โดย 52% หรือ 832 เมกะวัตต์ เป็นโรงไฟฟ้าที่ตั้งอยู่ในประเทศไทยและอยู่ระหว่างการพัฒนาและก่อสร้าง ซึ่งรายได้และกำไรของโครงการดังกล่าวยังไม่สะท้อนอยู่ในงบการเงินปัจจุบันของบริษัทฯ
โครงการพลังงานสะอาดขนาด 832 เมกะวัตต์ดังกล่าวจะเริ่มทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2569 เป็นต้นไป ซึ่งจะส่งผลให้สัดส่วนรายได้และกำไรจากธุรกิจพลังงานเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
เมื่อโครงการทั้งหมดแล้วเสร็จ GUNKUL จะมีศักยภาพผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนรวม 1,599 เมกะวัตต์ ซึ่งจะทำให้บริษัทฯ มีพอร์ตพลังงานหมุนเวียนที่สร้างรายได้มั่นคงระยะยาว โดยคาดว่าสัดส่วนกำไรจากธุรกิจพลังงานจะเพิ่มขึ้นจาก 71% เป็น 85% สะท้อนรายได้ระยะยาวต่อเนื่อง 25 ปี ภายใต้สัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาว
บริษัทฯ ยังคงตั้งเป้าการเติบโตเฉลี่ย 10–15% ต่อปี ในช่วงปี พ.ศ. 2568–2570 โดยได้รับแรงหนุนจากมูลค่างานในมือ (Backlog) ด้านการจำหน่ายอุปกรณ์ระบบไฟฟ้าและงานก่อสร้างกว่า 8,000 ล้านบาท รวมถึงธุรกิจพลังงานทดแทนแบบครบวงจร ตั้งแต่การผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ไฟฟ้า ธุรกิจก่อสร้าง และธุรกิจพลังงาน ซึ่งเป็นจุดแข็งสำคัญที่ทำให้บริษัทฯ สามารถสร้างรายได้ตั้งแต่ช่วงพัฒนาโครงการจนถึงระยะดำเนินการเชิงพาณิชย์
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังขับเคลื่อนกลยุทธ์ “New S-Curve” เพื่อต่อยอดสู่ธุรกิจใหม่ที่มีศักยภาพเติบโตสูง เช่น ธุรกิจศูนย์ข้อมูลสีเขียว (Green Data Center) และโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure Development) ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ พร้อมร่วมลงทุนกับพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ เพื่อสร้างโอกาสใหม่ภายใต้แนวคิด “สมการแห่งความก้าวหน้า” ที่ผสานจุดแข็งของธุรกิจเดิม ความคล่องตัวในการดำเนินงาน และการเติบโตอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีแผนใช้เงินลงทุนไม่น้อยกว่า 30,000 ล้านบาทในช่วง 5 ปีข้างหน้า โดยมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนอยู่ในระดับต่ำ รองรับการเติบโตทุกด้าน เพื่อสร้างรายได้และผลกำไรให้บรรลุตามเป้าหมายและวิสัยทัศน์อย่างต่อเนื่อง
นางสาวนฤชล ดำรงปิยวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บอกว่า ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 7/2568 เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2568 มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากกำไรสะสมสำหรับงวดสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2568 ในอัตราหุ้นละ 0.04 บาท ให้แก่ผู้ถือหุ้นสามัญที่มีสิทธิออกเสียง (หักจำนวนหุ้นทุนซื้อคืนจำนวน 280,920,000 หุ้น) คิดเป็นจำนวนหุ้นรวมทั้งสิ้น 8,601,610,974 หุ้น รวมเป็นเงินปันผลทั้งสิ้นไม่เกิน 345,000,000 บาท
เพื่อประโยชน์ในการให้ข้อมูลแก่ผู้ถือหุ้น เมื่อรวมกับการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากกำไรสะสมสำหรับงวดสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2568 ในอัตราหุ้นละ 0.08 บาท และการจ่ายเงินปันผลในครั้งนี้ในอัตราหุ้นละ 0.04 บาท ส่งผลให้บริษัทฯ มีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield)* โดยประมาณ 6.56% ทั้งนี้ การคำนวณอัตราผลตอบแทนดังกล่าวพิจารณาจากเงินปันผลรวม 0.12 บาทต่อหุ้น เทียบกับราคาหุ้นเฉลี่ย 1.83 บาทต่อหุ้น ณ วันที่ 12 พฤศจิกายน 2568
บริษัทฯ กำหนดวันปิดสมุดทะเบียนเพื่อรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2568 กำหนดวันไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) ในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2568 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 11 ธันวาคม 2568
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
