รีเซต

7 ข้อที่คุณพลาด ทำให้กรดไหลย้อนเรื้อรัง ไม่หายสักที

7 ข้อที่คุณพลาด ทำให้กรดไหลย้อนเรื้อรัง ไม่หายสักที
TNN ช่อง16
27 พฤศจิกายน 2568 ( 15:50 )
11

หมอเจด นายแพทย์เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา โพสต์ให้ความรู้เกี่ยวกับโรคไหลย้อนที่หลายคนเป็นเรื้อรัง โดยระบุว่า

“เป็นกรดไหลย้อนมาหลายปีเลยค่ะหมอ แก้ยังไงดีคะ”

มีหลายคนถามผมแบบนี้เลยครับ ซึ่งเราถ้าปล่อยให้เรื้อรังนาน ๆ จะยิ่งทำให้หลอดอาหารอักเสบเรื้อรัง จุกแน่นกลางอก คอแห้งเรอเปรี้ยวตอนกลางคืน และบางคนถึงขั้นเสียงแหบ หายใจติดขัด เพราะกรดไปรบกวนสายเสียง บางเคสถึงขั้นเป็นมะเร็งหลอดอาหารเลยนะครับ ปัญหาคือหลายคนพยายามกินยาช่วยลดกรดเป็นปี ๆ แต่อาการก็ยังไม่ดีขึ้นสักที เพราะกำลังทำ “7 พฤติกรรม” ที่กระตุ้นโรคทุกวันโดยไม่รู้ตัว มาดูกันครับว่ามีอะไรบ้าง



1) กินเร็ว เคี้ยวน้อย จนกระเพาะทำงานหนักเกินไป

การกินเร็วทำให้ร่างกายไม่ทันสั่งงานย่อย กระเพาะต้องใช้แรงมากขึ้นในการบดและย่อยอาหารที่ยังเป็นชิ้นใหญ่ ผลคือแรงดันในกระเพาะสูงขึ้น กรดถูกดันย้อนขึ้นง่ายแบบอัตโนมัติ ยิ่งคนที่กินคำใหญ่ ๆ เคี้ยว 3–4 ครั้งแล้วกลืน กระเพาะจะย่อยนานกว่าปกติหลายเท่า ทำให้กรดค้างอยู่นานและไหลย้อนซ้ำทั้งวันครับ

2) มื้อดึก + นอนทันที = คู่อริของกรดไหลย้อน

นี่ถือเป็นเหตุผลอันดับต้น ๆ ที่คนเป็นกรดไหลย้อนเรื้อรังไม่ดีขึ้นเลย เพราะตอนนอนราบ แรงโน้มถ่วงหายไป ทำให้กรดลอยขึ้นหลอดอาหารได้ง่ายมาก แถมกลางคืนยังเป็นช่วงที่กระเพาะย่อยช้ากว่าปกติ ทำให้อาหารตกค้างอยู่นาน จึงยิ่งกระตุ้นให้กรดไหลย้อนซ้ำ ๆ โดยเฉพาะคนที่กินหนักตอนค่ำ เช่น ชาบู หมูกระทะ ของทอด หรือชา–กาแฟมื้อดึก

3) ชา กาแฟ นมเย็น ทำให้หูรูดหลอดอาหาร “คลายตัว”

พวกคาเฟอีน, ไขมันจากนมเย็น, ความเย็นจัด และน้ำตาลที่สูงมาก จะมีผล “คลายกล้ามเนื้อหูรูดหลอดอาหารส่วนล่าง” ซึ่งทำหน้าที่ป้องกันกรดไม่ให้ย้อนขึ้น พอหูรูดอ่อนตัว กรดจะซึมขึ้นตลอดทั้งวันโดยไม่ต้องรอให้กินของผิด ภาพรวมคือเรอเปรี้ยวง่าย แสบท้องง่าย และหลอดอาหารอักเสบเรื้อรัง บางคนดื่มกาแฟ 2 แก้ว + ชาไข่มุกอีก 1 แก้วทุกวัน = โอกาสหายยากมากครับ

4) ความเครียดสะสม ทำให้กรดหลั่งมากผิดปกติ

ความเครียดและการพักผ่อนไม่พอทำให้ระบบประสาทสั่งให้กระเพาะหลั่งกรดมากขึ้นโดยไม่จำเป็น พร้อมทั้งทำให้กล้ามเนื้อย่อยอาหารบีบตัวผิดจังหวะ ผลลัพธ์คือ “แน่นท้อง จุกกลางอก อาหารค้าง กระเพาะโป่ง” ตลอดวัน คนที่เครียดเรื้อรังมักมีอาการกรดไหลย้อนที่แก้เท่าไหร่ก็ไม่ดี เพราะเป็นภาวะที่มากกว่าแค่เรื่องอาหารอย่างเดียวครับ

5) อาหารมันจัด ทอดจัด เผ็ดจัด และหวานจัด

ยิ่งเป็นของมันทำให้กระเพาะปล่อยกรดเพิ่ม + ย่อยช้าลง ของทอดทำให้กระเพาะขยายตัว เพราะไขมันอยู่ในกระเพาะนานที่สุด ส่วนของเผ็ดกระตุ้นการอักเสบของเยื่อบุหลอดอาหาร และน้ำตาลสูงทำให้เกิดการอักเสบเรื้อรัง เมื่อเจอพร้อมกัน เช่น มื้อนึงกินไก่ทอด + น้ำอัดลม หรือ หม้อไฟเผ็ด + ชานมไข่มุก กลายเป็นกระตุ้นกรดไหลย้อน 2–3 ชั้นติดกัน ยิ่งกินตอนเย็นหรือกลางคืน อาการยิ่งเรื้อรังแบบคุมยากมากครับ

6) น้ำอัดลม โซดา ทำให้กระเพาะโป่งทันที

พวกนี้มีแก๊สทำให้กระเพาะพองอย่างรวดเร็วครับ เพิ่มแรงดันในท้องทันที ทำให้กรดดันย้อนกลับขึ้นหลอดอาหาร แถมน้ำตาลสูงยังรบกวนการทำงานของหูรูดหลอดอาหาร ทำให้มันปิดไม่สนิท และยิ่งกระตุ้นการอักเสบอีก หลายคนงดอาหารผิด ๆ แต่ยังจิบโซดา–น้ำหวานทุกมื้อ อาการเลยไม่เคยดีขึ้นจริงครับ

7) น้ำหนักเกิน โดยเฉพาะพุงล้ำ พุงป่อง

ไขมันช่องท้องดันกระเพาะอยู่ตลอดเวลา ทำให้กรดถูกบีบย้อนขึ้นง่าย เป็นเหตุผลสำคัญที่คนอ้วนเป็นกรดไหลย้อนมากกว่าคนผอมหลายเท่า แม้ปรับอาหารดีแค่ไหน อาการมักยังวนกลับมาซ้ำ เพราะแรงดันภายในท้องสูงตลอด นี่คือปัจจัยที่ทำให้กรดไหลย้อนเรื้อรังระดับ “ดื้อต่อการรักษา” 

หยุดวงจรกรดไหลย้อนเรื้อรังได้ แค่ทำตามนี้

  • เริ่มง่าย ๆ จากกินช้าลง และเคี้ยวให้ละเอียดขึ้น
  • ลดมื้อดึกและอาหารเย็นที่หนัก
  • จำกัดกาแฟ–ชา–นมเย็น–เครื่องดื่มหวาน
  • ปรับความเครียดและเพิ่มการพักผ่อน
  • เลี่ยงของมันทอดเผ็ดและน้ำอัดลม
  • ถ้าพุงใหญ่ แนะนำให้ลดลง 3–5 กก. ดูนะครับ
  • และอย่าลืมเติมผัก-ผลไม้ จุลินทรีย์ดีที่มีทั้งโพรไบโอติกและพรีไบโอติกเข้าไปเสริมด้วยนะครับ

ใครที่เป็นกรดไหลย้อนเรื้อรัง ไม่ได้เป็นเพราะยารักษาไม่ดีนะครับ แต่เกิดจาก “พฤติกรรมที่กระตุ้นกรดซ้ำทุกวัน”  โดยเฉพาะ 7 อย่างนี้ที่แทบทุกคนทำโดยไม่รู้ตัว ถ้าเข้าใจต้นตอและปรับพฤติกรรมถูกจุด อาการแสบร้อนกลางอก จุกแน่น คอระคายเรื้อรัง จะดีขึ้นแบบชัดเจนภายในไม่กี่สัปดาห์ และป้องกันไม่ให้หลอดอาหารอักเสบเรื้อรังในระยะยาวด้วยครับ

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง