จำลองเหตุการณ์ 'น้องกองบิน' ติดในรถตู้ดูมุมอับเบาะบัง สืบหาเหตุทำไมลืมเด็ก!
จากเหตุการณ์ศูนย์เด็กเล็กลืม “น้องกองบิน” เด็กชายวัย 2 ขวบเอาไว้บนรถตู้นานกว่า 6 ชั่วโมง ก่อนที่ผู้ปกครองนั้นจะตามหาไม่พบ จนไปเจอว่าเด็กยังอยู่บนรถตู้ จึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลอาการโคม่า ซึ่งทางบิดา-มารดา ยังคงหวังว่าจะมีปาฏิหารย์ และตอนนี้อยู่ในอาการเสียใจอย่างมาก
ก่อนที่เด็กจะเสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม เวลา 17.20 น. โดยแพทย์แจ้งว่าน้องกองบินมีอาการตับ ไต ไม่ทำงาน และต้องใช้เครื่องช่วยหายใจตลอดเวลา ซึ่งผู้ปกครองยินยอมให้แพทย์ถอดเครื่องช่วยหายใจ ตามที่เคยมีการเสนอข่าวมาก่อนหน้านี้ อ่านต่อที่นี่
เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่น้องกองบินจะเสียชีวิต น.ส.สุวภัทร และนายธวัชชัย ยอดมณี แม่และพ่อของน้องกองบิน เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.พิปูน ให้ดำเนินคดีกับ หัวหน้าศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ในต.กะทูน อ.พิปูน จ.นครศรีธรรมราช และครูผู้ขับขี่ ครูประจำรถที่มารับน้องกองบินในวันเกิดเหตุด้วย
โดยเมื่อคืนวันที่ 15 สิงหาคม ที่โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช พบว่าครอบครัวและญาตอยู่ในอาการเศร้าโศกเสียใจ โดยรอรับศพของน้องกองบิน เพื่อนำไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านต่อไป อ่านต่อที่นี่
พ่อน้องกองบิน เปิดเผยว่า ตอนนี้เสียใจกับการสูญเสียครั้งนี้ เพราะตนมีลูกคนเดียว ปกติตนทำงานที่เกาะสมุย จ.สุราษฎ์ธาธานี ส่วนน้องกองบิน ภรรยาเป็นคนดูแล แต่ตนจะวิดีโอคอลและโทรคุยกับลูกทุกวัน ส่วนเรื่องคดีตอนนี้ยังไม่ขอพูดถึง และขอจัดงานศพลูกให้เสร็จเรียบร้อยก่อน
ทีมข่าว อมรินทร์ทีวี ได้ทำการจำลองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยปกติรถรับส่งนักเรียนจะวิ่งออกมารับเด็กนักเรียนเวลา 07.00 น. และกลับเข้าโรงเรียนก่อน 08.00 น. ระยะทางไปกลับรวม 16 กม.
ทีมข่าวจำลองเหตุการณ์ขณะที่ครูเวรเปิดประตูให้นักเรียนลงจากรถ โดยมีน้องการ์ตูนวัย 3 ขวบ สูง 100 ซม. แทนน้องกองบิน และวัดความสูงจากพื้นของรถตู้ ถึงปลายพนักพิง 108 ซม. จากพื้นของรถตู้ถึงเบาะนั่ง มีความสูง 43 ซม. วัดจากเบาะนั่งถึงปลายพนักพิง มีความสูง 72 ซม. และเมื่อน้องการ์ตูนที่มีความสูง 100 ซม. ขึ้นไปนั่งเบาะพบว่าขาจะลอย และปลายพนักพิง จะสูงกว่าศีรษะของน้อง ซึ่งหากวัดจากศีรษะของน้องขึ้นไปที่ปลายพนักพิง เหลือ 28 ซม.
จำลองเหตุการณ์แรก เมื่อครูเวรลงจากรถตู้มาแล้วเปิดประตู โดยผลักไปในสุดครูจะยืนอยู่ตรงบริเวณเลยหน้าเบาะแถวแรก เพื่อให้เด็กนักเรียนเดินลงไป ซึ่งจะหันหน้าเข้าประตู แล้วเอียงตัว 45 องศา มุมดังกล่าวจะไม่สามารถมองเห็นตำแหน่งที่นั่งของน้องกองบินได้ เนื่องจากถูกที่นั่งแถวแรกบัง และเมื่อนักเรียนลงหมดแล้ว ครูเดินมาดึงประตูเพื่อจะปิด จะสามารถมองเห็นน้องกองบินได้ ไม่ว่าน้องจะนั่งหรือนอน
จำลองเหตุการณ์แบบที่ 2 เมื่อครูเวรลงจากรถตู้มาแล้วเปิดประตู โดยหันใช้มือผลักเปิดประตูไปให้สุด แล้วไปยืนอยู่ตรงหลังช่องทางเดินของเบาะแถวสอง ซึ่งจะไม่สามารถมองเห็นข้างในรถได้ แต่สามารถนับเด็กที่ลงมาจากรถตู้ได้ เมื่อเด็กลงหมดก็ปิดประตู โดยผลักประตูไปข้างหน้า ซึ่งจะไม่สามารถมองเห็นน้องกองบินได้
ขอบคุณที่มา https://www.amarintv.com/news/detail/42526