CPALL ติดชาร์ตหุ้นเด่นค้าปลีก โบรกฯ เปิด 3 เหตุผลเชียร์เก็บ
บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) ส่องหุ้น CPALL ยังคงเป็น Top Pick ของฝ่ายวิจัยในกลุ่มค้าปลีก คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 79 บาท (DCF, WACC 7.3%, Growth 3%) ประเมินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดใหม่จะช่วยส่งเสริมการบริโภคซึ่งจะส่งผลดีต่อ CPALL ในฐานะผู้นำตลาดธุรกิจร้านสะดวกซื้อ ธุรกิจค้าส่งและค้าปลีกของไทย พรีเซนเตอร์ใหม่ช่วยเพิ่มยอดขายให้ร้านเซเว่นฯ ขณะที่การขยายสาขาอย่างต่อเนื่องจะหนุนการเติบโตอย่างมั่นคง
เตรียมรับอานิสงส์มาตรการกระตุ้นศก.
การจัดตั้งรัฐบาลใหม่จะส่งผลดีต่อกลุ่มค้าปลีก คาดว่าจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใน Q4/66 หรือ Q1/67 เช่น Digital Wallet (10,000 บาท/คน โดยให้ใช้จ่ายในรัศมี 4 กม. จากที่อยู่อาศัย) แม้ยังไม่ชัดเจนว่ามาตรการดังกล่าวจะนำไปใช้กับโมเดิร์นเทรดได้หรือไม่ แต่กำลังซื้อที่เพิ่มขึ้นจะช่วยส่งเสริมการบริโภคโดยรวมและสนับสนุนการท่องเที่ยวด้วย หาก Digital Wallet ใช้กับโมเดิร์นเทรดได้ CPALL จะได้รับประโยชน์จากการมีร้านเซเว่นฯ จำนวน 14,215 แห่งทั่วประเทศ โลตัส 2,499 แห่ง และแม็คโคร 153 แห่ง
ส่วนการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำจะส่งผลบวกสุทธิต่อ CPALL ซึ่งคล้ายกับการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำครั้งใหญ่ในปี 55 และ 56 เนื่องจากค่าใช้จ่ายด้านค่าแรงที่เพิ่มขึ้นถูกชดเชยโดย SSSG ที่แข็งแกร่งขึ้น ซึ่งได้แรงหนุนจากกำลังซื้อที่สูงขึ้น
ไม่มีแสตมป์ แต่มี Jackson Wang GOT7
ฝ่ายวิจัยคาดว่า CPALL จะมีกำไร Q3/66 เติบโตแข็งแกร่ง YoY แม้ปีนี้ร้านเซเว่นฯ ไม่ได้ออกแคมเปญแสตมป์ ซึ่งปกติจะช่วยกระตุ้นยอดขายในช่วงโลว์ซีซั่นของไตรมาส 3 แต่โมเมนตัมการขายยังคงเป็นบวก ส่วนหนึ่งเนื่องมาจากพรีเซนเตอร์คนใหม่ คือ Jackson Wang GOT7 ไอดอลเกาหลีที่มีผู้ติดตาม IG ถึง 33 ล้านราย โดย QTD SSSG ของร้านเซเว่นฯ ยังคงเป็นบวกได้เล็กน้อยแม้จะมีฐานสูงใน Q3/65 อัตรากำไรขั้นต้นจะได้รับแรงหนุนจากราคาสินค้าที่เพิ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงปลาย Q3/65 ขณะที่ค่าไฟที่ลดลงในเดือน พ.ค. และ ก.ย.จะช่วยทำให้อัตรากำไรเพิ่มสูงขึ้น
ยังมีโอกาสขยายสาขาได้อีกมาก
CPALL เปิดร้านเซเว่นฯ 337 สาขาใน 1H66 ทำให้มีสาขารวมทั้งหมดเป็น 14,215 สาขา ซึ่งเป้าหมายในการขยายสาขา 700 สาขาในปีนี้น่าจะเป็นไปตามเป้า ฝ่ายวิจัยเชื่อว่าผู้บริหารจะยังคงเป้าหมายการขยายสาขาไว้ที่ 700 สาขาต่อปีในอีกหลายปีข้างหน้า โดยจำนวนประชากรต่อร้านสะดวกซื้อ ในประเทศไทยยังคงหนาแน่นที่ 3,800 คนต่อร้าน เทียบกับ 1,000-2,300 คนต่อร้านในสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น ไต้หวัน และเกาหลีใต้