ประกันวินาศเบี้ยปีหน้าโต2.5% กดปุ่มโคเพย์เมนต์มีนาคม68
#สมาคมประกันวินาศภัย#ทันหุ้น- สมาคมประกันวินาศภัย เผยปี 2568 มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง คาดธุรกิจโต 1.5 - 2.5%ปัจจัยท้าทายยังคงมีอยู่แต่เชื่อภาครัฐกระตุ้นเบิกจ่าย -ลงทุนหนุน ส่วนประกันสุขภาพ ระบบร่วมจ่ายหรือ Co-Payment คาดเริ่ม มีนาคมปี 2568 ชี้เป็นตัวเลือกของผู้บริโภค เพราะยังคงมีแผนอื่นเสนอขายไม่ว่าจะเหมาจ่าย แผนดีดักคือรับผิดส่วนแรก
ดร.สมพร สืบถวิลกุล นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย เปิดเผยว่า ตามที่สมาคมประกันวินาศภัยไทย กล่าวถึงแนวโน้มของธุรกิจประกันวินาศภัยในปี 2568 ว่ามีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นราว1.5- 2.5% จากปี 2567ด้วยตัวเลขเบี้ยรับตรงที่ประมาณ 291,240 -294,100 ล้านบาท จากการเร่งเบิกจ่าย และการลงทุนของภาครัฐมากขึ้นเพื่อขับเคลื่อนการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย ภายใต้ความท้าทายต่างๆ จากปัจจัยภายในและปัจจัยนอก ที่ยังคงเป็นแรงกดดัน
โดยปัจจัยภายนอก ยังคงมาจากผลกระทบเรื่องของการกีดกันการค้าระหว่างสหรัฐกับคู่ค้า ต่างๆ ไม่เฉพาะจีน หากยังรวมถึงไทยด้วย รวมถึงสงครามความไม่สงบในภูมิภาคต่างๆ ที่จะปัจจัยกดดันความเชื่อมั่น
*นานปีมีหนอุตสาหกรรมติดลบ
ในส่วนของปัจจัยในประเทศที่เป็นความท้าทาย คือกำลังซื้อ และหนี้ภาคครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง ทำให้มีผลต่อการจับจ่ายใช้สอย อย่างไรก็ตามประเมินว่ามาตรการต่างๆ ที่รัฐออกมาช่วยแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน รวมถึงกระตุ้นเบิกจ่ายงบ จะทำให้ความเชื่อมั่นกลับมา สถาบันการเงินมีโอกาสและแนวทางที่จะลดความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อได้ ทำให้คาดว่าภาพรวมธุรกิจประกันวินาศภัยปี 2568 จะเติบโตได้ต่อเนื่อง จากปี 2567 ที่คาดว่าการเติบโตจะติดลบ0.5-1.5%ซึ่งเกิดขึ้นไม่บ่อยครั้งในอุตสาหกรรมประกันวินาศภัย
ดร.สมพร กล่าวต่อไปว่า ในปี 2568ยังมีการเปลี่ยนแปลงของผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพ ที่จะนำระบบร่วมจ่ายค่ารักษา (Co-Payment)มาใช้ซึ่ง ธุรกิจประกันวินาศ และธุรกิจประกันชีวิตจะเริ่มใช้ระบบดังกล่าวพร้อมกันในเดือนมีนาคม 2568 ทั้งนี้เรื่องของระบบร่วมจ่าย อยู่ในแผนประกันภัยสุขภาพ ส่วนบุคคล แบบมาตรฐาน (New Health Standard)
สำหรับประกันสุขภาพแบบมาตรฐาน (New Health Standard) เป็นแผนที่ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย หรือคปภ.บังคับใช้มาราว 3 ปีแล้ว โดยเงื่อนไขหลักก่อนหน้านี้ที่ชูเรื่องของการห้ามบอกยกเลิกการต่ออายุกรมธรรม์ประกันสุขภาพ ในขณะที่ระบบร่วมจ่ายค่ารักษา (Co-Payment)ก็อยู่แผนประกันสุขภาพแบบมาตรฐานด้วยเช่นกัน แต่ยังไม่ได้มีการหยิบยกขึ้นกล่าวถึงมากนัก
*คาดระบบร่วมจ่ายเริ่มมี.ค.68
สำหรับการนำระบบ Co-Payment มาใช้ ที่จะเริ่มในมีนาคม 2568ภาคธุรกิจจะมีการกำชับ และระบุเงื่อนไขที่ชัดเจนให้กับลูกค้าที่ซื้อกรมธรรม์ได้เข้าใจ ซึ่งการจะเข้าระบบ Co-Payment จะมีการกำหนดในรายละเอียดเช่น เคลมการป่วยเล็กน้อย (Simple diseases) เกินกี่ครั้ง มีอัตราการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนของผู้เอาประกันภัยแต่ละรายในรอบปีกรมธรรม์ตั้งแต่ 200% เป็นต้น
ในส่วนของกรมธรรม์ประกันสุขภาพที่ซื้อก่อน เดือนมีนาคม 2568หากยังไม่มีการเคลมสินไหมเกินที่กำหนดก็จะไม่เข้าเกณฑ์ Co-Paymentแต่เมื่อใดที่มีการเคลมเกินกว่ากำหนด เงื่อนไขจะถูกปรับเป็น Co-Paymentโดยอัตโนมัติ อย่างไรก็ตาม ในอนาคต ระบบร่วมจ่ายจะเป็นหนึ่งในตัวเลือกของการซื้อประกันสุขภาพ ซึ่งผู้ซื้อจะได้เบี้ยที่ถูกกว่าแบบประกันสุขภาพอื่นๆ เช่น เหมาจ่าย ที่ยังคงมีอยู่ในระบบประกันเช่นกัน