GPSC โบรกมอง ERU เลื่อนการผลิตส่งผลเชิงลบ ปรับลดราคาเป้าหมายของหุ้นลง
#GPSC #ทันหุ้น – บทวิเคราะห์ โดย บล.กสิกรไทย
โครงการ ERU เลื่อนการเริ่มดำเนินการไปเป็นปี 2571
หน่วยผลิตไฟฟ้า ERU ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการพลังงานสะอาดของไทยออยล์ถูกเลื่อนการเริ่มดำเนินการไปเป็นไตรมาส 3/71 โดยความคืบหน้าอยู่ที่ 83% ณ เดือน พ.ย.67
แม้ว่าต้นทุนโครงการการพลังงานสะอาดของไทยออยล์จะสูงขึ้น แต่ผลตอบแทนจากการลงทุนหน่วยผลิตไฟฟ้า ERU ของ GPSC ยังไม่เปลี่ยนแปลง โดย IRR ยังคงอยู่ที่ 8%
บล.กสิกรไทยคงคำแนะนำ "ซื้อ" แต่ปรับราคาเหมาะสมลงเล็กน้อยเป็น 51.50 บาท โดย GPSC ซื้อขายด้วย PER ล่วงหน้าปี 68 ที่น่าดึงดูดใจที่ 18.7 เท่า และคาดว่ากำไรปกติปี 68 จะเติบโต 40% YoY
Investment Topics
โครงการ ERU เลื่อนการเริ่มดำเนินการไปเป็นไตรมาส 3/2571 หน่วยผลิตไฟฟ้า Energy Recovery Unit (ERU) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการพลังงานสะอาด (Clean Fuel Project หรือ CFP) ของไทยออยล์ จะเริ่มดำเนินการได้ในไตรมาส 3/2571 โดยเลื่อนออกไปจากกำหนดการเดิมในปี 2568 สอดคล้องกับกำหนดการณ์ของโครงการ CFP โดยรวม โดย ณ เดือน พ.ย.2567ความคืบหน้าของการก่อสร้างหน่วยผลิตไฟฟ้า ERU อยู่ที่ 83%
ภาพรวมโครงการ ERU โครงการ ERU ซึ่ง GPSC จะถือหุ้นทั้งหมด เป็นโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมที่มีกำลังการผลิตไฟฟ้า 250เมกะวัตต์ และไอน้ำ 175 ตันต่อชั่วโมง หน่วยผลิตไฟฟ้าแห่งนี้จะใช้กากน้ำมันซึ่งเป็นผลพลอยได้จากโครงการ CFP เป็นเชื้อเพลิงหลัก และมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) กับบริษัท ไทยออยล์ (TOP) เป็นเวลา 25 ปี
ผลตอบแทนจากโครงการ ERU ไม่เปลี่ยนแปลง ท่ามกลางต้นทุน CFP ที่สูงขึ้น ภายใต้ข้อตกลงกับ TOP ต้นทุนการลงทุนทั้งหมดสำหรับโครงการ ERU อยู่ที่ 757 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (2.6 หมื่นลบ.) โดย 80% ของเงินลงทุนจะเป็นการชำระหลังจากโอนกรรมสิทธิ์โครงการจาก TOP ให้กับ GPSC เมื่อโครงการแล้วเสร็จ ในหนังสือแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ของ GPSC เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. GPSC ยืนยันว่าต้นทุนการลงทุนที่เพิ่มขึ้นของโครงการ CFP จะไม่ส่งผลกระทบต่อผลตอบแทนของโครงการ ERU
ผลกระทบต่อ GPSC แม้ว่าจะยังไม่ชัดเจนว่าโครงการ ERU มีต้นทนที่สูงขึ้นหรือไม่ แต่คาดว่าผลตอบแทนจากการลงทุนของ GPSC จะไม่ได้รับผลกระทบจากกรอบสัญญาที่สามารถปรับราคาขายไฟฟ้าตามต้นทุนที่เพิ่มขึ้นได้ ทำให้ IRR ของโครงการจะยังคงอยู่ที่ 8%แม้ว่ากำไรรายปีจากโครงการที่ 700-800 ลบ. จะล่าช้าออกไปเป็นไตรมาส 3/2571 แต่บนสมมติฐานเงินลงทุนโครงการ ERU ที่เพิ่มขึ้น 48% ตามโครงการ CFP โดยรวม ส่วนแบ่งกำไรรายปีอาจเพิ่มขึ้น 40% เป็น 1.0-1.1 พันลบ. หากคิดบนอัตราผลตอบแทนที่เท่าเดิม
ปรับประมาณการกำไรเราปรับประมาณการกำไรปี 2568-69 ลง 7%และ 11% ตามลำดับ จาก 6.1 พันลบ. และ 7.6 พันลบ. เป็น 5.7 พันลบ. และ 6.7 พันลบ. เพื่อสะท้อนการเลื่อนกำหนดการเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ของหน่วยผลิตไฟฟ้า ERU ในการคาดการณ์ของเราจากไตรมาส 3/2568 เป็นไตรมาส 3/2571
แนวโน้มกำไรแม้จะโครงการ ERU จะถูกเลื่อนวันเริ่มดำเนินการออกไป แต่เราคาดว่ากำไรปกติปี 2568 ของ GPSC จะเพิ่มขึ้น 40% YoY เป็น 5.7 พันลบ. โดยได้รับแรงหนุนจากราคาก๊าซที่ลดลง ส่วนแบ่งกำไรที่เพิ่มขึ้นจากโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำไซยะบุรี (XPCL) โครงการพลังงานลมนอกชายฝั่ง Changfang และ Xidao (CFXD) ในไต้หวัน และกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์โครงการ Avaada
Valuation and Recommendation
คงคำแนะนำ "ซื้อ" แต่ปรับราคาเป้าหมายอิงด้วยวิธี SOTP ลงเป็น 51.50 บาท แม้ว่าเราจะปรับราคาเป้าหมายลงเล็กน้อยจาก 52.00 บาท เป็น 51.50 บาทเพื่อสะท้อนความล่าช้าของการก่อสร้างหน่วยผลิตไฟฟ้า ERU แต่เราคงคำแนะนำ "ซื้อ" โดยหุ้นยังคงน่าสนใจ ซื้อขายด้วย PER ล่วงหน้าปี 2568 ที่ 18.7 เท่า ขณะที่การเติบโตของกำไรปี 2568 คาดว่าจะยังคงแข็งแกร่ง
.
บล.เคจีไอปรับลดคาดการณ์กำไรของ GPSC หลังปี 2569 ลง 9-12% และปรับลดราคาเหมาะสมของหุ้นลงจาก 45.00 บาท เหลือ 42.00 บาท จากความล่าช้าในการรับรู้รายได้จากโครงการดังกล่าว โดยบล.เคจีไอคงคำแนะนำ “ถือ” โดยมองว่าผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/67 ยังไม่สดใส จากการที่บอนด์ยีลด์เพิ่มสูงขึ้น และค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง
.
ทั้งนี้ เอนเนอยี รีคอฟเวอรี่ ยูนิต (ERU) เป็นโครงการที่พัฒนาขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เป็นหน่วยสนับสนุนสาธารณูปโภค เพื่อจัดส่งให้กับกระบวนการผลิตของโครงการพลังงานสะอาด (Clean Fuel Project: CFP) ของ บมจ. ไทยออยล์ โดยโครงการ ERU เป็นหน่วยผลิตไฟฟ้าประเภทโคเจนเนอเรชั่น โครงการ ERU นี้ กำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง