ทหารพม่าถล่มโบสถ์ เมืองลอยแก้ว ชิง 4 ศพที่ตายในเขตอภัยทาน
ทหารพม่าถล่มโบสถ์ - เว็บไซต์ข่าว อิรวดี รายงานว่า ศพพลเรือน 4 ราย ที่เสียชีวิตในโบสถ์เมืองลอยแก้ว รัฐกะยา ถูกทหารพม่าชิงออกไป โดยไม่มีใครกล้าเข้าขัดขวาง เนื่องจากทหารกราดยิงอย่างหนัก
เหตุ ทหารพม่าถล่มโบสถ์ เกิดขณะมีการสู้รบระหว่างกองทัพพม่ากับกองกำลังนักรบรัฐกะยา ภาคตะวันออกของเมียนมา ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่ต่อต้านการรัฐประหาร
การสู้รบเริ่มปะทุตั้งแต่วันศุกร์ที่ 21 พ.ค. หลังกองกำลังกะเหรี่ยงโจมตีกองทัพพม่าจนเสียกำลังพลไปเกือบ 40 นาย
จากนั้นทหารพม่าเปิดฉากโจมตีโบสถ์ดังกล่าวตลอดคืนวันอาทิตย์ที่ 23 พ.ค. จนมาถึงเช้าวันจันทร์ที่ 24 พ.ค.
ทหารพม่ายิงระเบิดและสาดกระสุนเข้าไปในโบสถ์ ของหมู่บ้านคะยันธยา เมืองลอยแก้ว แม้จะเป็นสถานที่หลบภัยของชาวบ้าน แรงระเบิดคร่าชีวิตชาวบ้านข้างใน 4 ราย บาดเจ็บ 8 คน และทำให้โบสถ์เสียหายยับเยิน ก่อนจะชิงเอาศพทั้งสี่ออกไป
"เราไม่กล้าเข้าไป เพราะทหารพม่ากราดยิงทุกอย่างที่เคลื่อนไหว ต่อมาเราทราบว่าทหารนำศพไปทิ้งอยู่ใกล้ฐานทัพ ที่อยู่ใกล้เมืองลอยแก้ว" สมาชิกกะเหรี่ยง PDF ในรัฐกะยา กล่าว
สถานการณ์การสู้รบระหว่างกองทัพพม่ากับชนกลุ่มน้อยเกิดขึ้นเป็นคู่ขนานกับการประท้วงของประชาชนทั่วไปในหลายพื้นที่ คณะรัฐประหารใช้วิธีประกาศเคอร์ฟิวหลายชั่วโมงในช่วงกลางวัน เช่น ที่เมืองผีค้อน รัฐฉาน เคอร์ฟิวตั้งแต่เวลา 9 โมงเช้า ส่วนที่เมืองลอยแก้ว รัฐกะยา เริ่มเคอร์ฟิวตั้งแต่ 11 โมงเช่า
แต่ชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่รู้ เพราะไม่มีคำสั่งประกาศอย่างเป็นทางการ ทำให้ชีวิตตกอยู่ในอันตรายเช่น ที่เมืองลอยแก้ว มีชาวบ้านชายถูกยิงตายตอนเที่ยง เพราะออกนอกบ้าน โดยไม่รู้ว่าประกาศเคอร์ฟิวอยู่ จนเมื่อทหารยิงตายไปแล้ว จึงค่อยบอกว่า เป็นช่วงห้ามออกนอกเคหสถาน
รายงานอิรวดีระบุว่า ช่วงสายของวันจันทร์ที่ 24 พ.ค. ไม่มีเหตุการณ์ปะทะรุนแรง ได้ยินเพียงเสียงปืนของฝ่ายทหาร ส่วนชาวบ้านอพยพหนีเข้าไปในป่า นอกจากนี้ยังเห็นเครื่องบินขนส่งของกองทัพ ลงจอดสองครั้งที่สนามบินเมืองลอยแก้ว คาดว่าส่งกำลังเสริมเข้ามา