รีเซต

เปิดไทม์ไลน์ผู้ติดเชื้อโควิดเสียชีวิต รายที่ 81-82 พบมีโรคประจำตัวเบาหวาน ไต ความดัน

เปิดไทม์ไลน์ผู้ติดเชื้อโควิดเสียชีวิต รายที่ 81-82 พบมีโรคประจำตัวเบาหวาน ไต ความดัน
TNN ช่อง16
15 กุมภาพันธ์ 2564 ( 05:01 )
155
เปิดไทม์ไลน์ผู้ติดเชื้อโควิดเสียชีวิต รายที่ 81-82 พบมีโรคประจำตัวเบาหวาน ไต ความดัน

วันนี้ (15 ก.พ.64) พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษก ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 143 ราย ประกอบด้วย ผู้ติดเชื้อในประเทศจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯ 64 ราย จากค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 68 ราย และผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 11 ราย


ทั้งนี้ จำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมในประเทศล่าสุดอยู่ที่ 24,714 ราย แบ่งเป็นผู้ป่วยที่ติดเชื้อภายในประเทศ 8,077 ราย และการตรวจคัดกรองเชิงรุก 13,990 ราย ส่วนผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 2,647 ราย โดยมีผู้ป่วยรักษาหายแล้ว 22,883 ราย เพิ่มขึ้น 772 ราย มีผู้เสียชีวิต 2 ราย ทำให้ยอดสะสมเสียชีวิตเพิ่มเป็น 82 ราย


สำหรับผู้เสียชีวิต รายที่ 81 เป็นชายไทย อายุ 62 ปี อาชีพค้าขายผัก ที่ จ.อุบลราชธานี มีโรคประจำตัว โรคเบาหวาน โรคไต โรคความดันโลหิตสูง เริ่มไอเมื่อวันที่ 5 ม.ค. และต่อมาวันที่ 8 ม.ค.อาการทรุด ไอมากขึ้น มีเสมหะมากขึ้น หอบเหนื่อย วันที่ 9 ม.ค. ผลเอ็กซเรย์พบปอดอักเสบอย่างรุนแรง ทางโรงพยาบาลตรวจพบเชื้อโควิด-19 จึงได้นำผู้ป่วยเข้าห้องความดันลบ และเสียชีวิตในวันที่ 14 ก.พ. เวลา 9.15 น.


ส่วนผู้เสียชีวิต รายที่ 82 เป็นชายไทย ชาวสมุทรสาคร อายุ 78 ปี เป็นพ่อบ้าน ส่วนใหญ่อยู่กับบ้านไม่ได้ไปไหน วันที่ 16-17 ม.ค. พบว่า ลูกสาวที่มีผลยืนยันเป็นผู้ป่วยโควิด-19 มาเยี่ยมที่บ้าน และรับประทานอาหารร่วมกัน หลังจากนั้น วันที่ 19-20 ม.ค. เริ่มมีอาการไอแห้ง เจ็บคอ ต่อมา วันที่ 22 ม.ค. มีอาการไอมากขึ้น จึงไปรพ.ตรวจพบเชื้อโควิด-19 และเอ็กซเรย์ปอดพบว่ามีการอักเสบอย่างรุนแรง วันที่ 30 ม.ค. อาการเหนื่อยหอบมากขึ้นจึงต้องใส่ท่อช่วยหายใจ จากนั้นมีภาวะติดเชื้อในกระแสเลือดร่วมด้วย วันที่ 7 ก.พ. อาการแย่ลงจนถึงขั้นมีภาวะไตวายเฉียบพลัน ความดันโลหิตลดลง หัวใจเต้นผิดจังหวะ และเสียชีวิตวันที่ 13 ก.พ. เวลา 18.19 น.


ภาพประกอบจากแฟ้มข่าว

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง