รีเซต

วิเคราะห์ 3 ข้อหา "อ.เบียร์ คนตื่นธรรม" กับบทบาทการใช้กฎหมายปกป้องศาสนา

วิเคราะห์ 3 ข้อหา "อ.เบียร์ คนตื่นธรรม" กับบทบาทการใช้กฎหมายปกป้องศาสนา
TNN ช่อง16
9 มกราคม 2568 ( 12:17 )
16

วิเคราะห์ 3 ข้อหา เอาผิด อ.เบียร์ คนตื่นธรรม: การใช้กฎหมายปกป้องคณะสงฆ์


กรณีการแจ้งความดำเนินคดีกับ อ.เบียร์ คนตื่นธรรม โดยทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม ได้กลายเป็นประเด็นที่สังคมจับตามอง เนื่องจากเกี่ยวข้องกับ 3 ข้อหาสำคัญ ได้แก่ การหมิ่นประมาท, การกระทำผิดตาม พ.ร.บ. คณะสงฆ์ พ.ศ. 2505 และ พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ ซึ่งแต่ละข้อหามีความสำคัญและเป็นเครื่องมือในการรักษาความศักดิ์สิทธิ์ของสถาบันพระพุทธศาสนาในประเทศไทย


---


1. ข้อหาหมิ่นประมาท – การปกป้องศักดิ์ศรีคณะสงฆ์


ข้อหาหมิ่นประมาทที่ถูกตั้งขึ้นจากคำพูดของ อ.เบียร์ ในไลฟ์สดเมื่อเดือนกันยายน 2567 ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการวิพากษ์วิจารณ์มหาเถรสมาคม ทนายอนันต์ชัยชี้ว่าเป็นการกล่าวหาในลักษณะที่ส่งผลกระทบต่อศักดิ์ศรีของคณะสงฆ์


การกระทำนี้เข้าข่ายหมิ่นประมาทตามกฎหมายอาญา เนื่องจากมีการกล่าวถึงองค์กรและบุคคลในลักษณะที่อาจทำให้เกิดความเสื่อมเสียในสายตาสาธารณชน คำพูดเช่น “มหาเถรสมาคมใช้อำนาจไปในทางที่ไม่ถูกต้อง” และ “ดูทุเรศทุรัง” อาจถูกตีความว่าเป็นการโจมตีที่ไม่สร้างสรรค์ และก่อให้เกิดความไม่สงบในสังคมที่ให้ความเคารพศรัทธาต่อคณะสงฆ์


---


2. พ.ร.บ. คณะสงฆ์ พ.ศ. 2505 – การรักษากฎระเบียบขององค์กรสงฆ์


พ.ร.บ. คณะสงฆ์ พ.ศ. 2505 เป็นกฎหมายที่ออกมาเพื่อควบคุมและดูแลการปฏิบัติของคณะสงฆ์และบุคคลภายนอก การกล่าวหาว่า อ.เบียร์กระทำผิดตามกฎหมายนี้ มาจากการที่เขาแสดงความคิดเห็นในลักษณะบั่นทอนความน่าเชื่อถือของมหาเถรสมาคม ซึ่งอาจถือเป็นการกระทำที่ละเมิดหลักเกณฑ์ในกฎหมายดังกล่าว


การกระทำที่ส่งผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อยหรือภาพลักษณ์ของสถาบันพระพุทธศาสนา สามารถถูกตีความว่าเป็นการละเมิดกฎหมายนี้ได้ โดยเฉพาะเมื่อมีการเผยแพร่คำพูดผ่านสื่อสาธารณะ เช่น การไลฟ์สด ที่มีผู้ติดตามจำนวนมาก


---


3. พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ – การใช้สื่อออนไลน์อย่างระมัดระวัง


พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่ถูกใช้ในการดำเนินคดีกับ อ.เบียร์ เนื่องจากการเผยแพร่ข้อมูลหรือข้อความที่อาจสร้างความเสียหายต่อบุคคลหรือองค์กรผ่านระบบคอมพิวเตอร์ เช่น การไลฟ์สดในครั้งนี้


ข้อความที่ อ.เบียร์เผยแพร่ในไลฟ์สด อาจเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 14 ของ พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ หากพบว่าเนื้อหาเป็นเท็จ บิดเบือน หรือกระทบต่อความมั่นคงขององค์กรสาธารณะ เช่น มหาเถรสมาคม การนำข้อความดังกล่าวเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ยิ่งเพิ่มน้ำหนักของความผิดในมิติทางกฎหมาย


---


มุมมองทางสังคมและบทบาทของกฎหมาย


กรณีนี้สะท้อนถึงบทบาทสำคัญของกฎหมายในการปกป้องสถาบันพระพุทธศาสนาและควบคุมการแสดงความคิดเห็นในที่สาธารณะ แม้ว่าการวิพากษ์วิจารณ์จะเป็นสิทธิที่พึงมีในระบอบประชาธิปไตย แต่คำวิจารณ์ที่เกินขอบเขตและส่งผลกระทบต่อองค์กรที่เป็นที่เคารพนับถือ อาจถูกมองว่าเป็นภัยต่อความสงบเรียบร้อยของสังคม


ในอีกด้านหนึ่ง กรณีนี้ยังชี้ให้เห็นถึงบทบาทของสื่อออนไลน์ในปัจจุบัน ที่สามารถกลายเป็นเวทีให้ความคิดเห็นถูกเผยแพร่ในวงกว้างได้อย่างรวดเร็ว แต่ในขณะเดียวกัน การใช้สื่อออนไลน์โดยขาดความระมัดระวัง อาจนำมาซึ่งปัญหาทางกฎหมายและผลกระทบต่อสังคม

----------------


3 ข้อหาที่ อ.เบียร์เผชิญอยู่ เป็นกรณีตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงขอบเขตของเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น และบทบาทของกฎหมายในการรักษาสมดุลระหว่างสิทธิส่วนบุคคลและความสงบเรียบร้อยของสังคม กรณีนี้จึงไม่เพียงแต่เป็นการดำเนินคดีทางกฎหมาย แต่ยังเป็นบทเรียนสำคัญสำหรับทุกคนในยุคดิจิทัลเกี่ยวกับการแสดงความคิดเห็นที่ต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคม



ภาพ TNN  / โหนกระแส 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง