รีเซต

#เรื่องนี้ต้องขยาย TASCOเด้งรับสหรัฐจ่อคืนดีเวเนฯ แว่วQ2ฟื้น แต่ 3โบรกมอง...?

#เรื่องนี้ต้องขยาย TASCOเด้งรับสหรัฐจ่อคืนดีเวเนฯ แว่วQ2ฟื้น แต่ 3โบรกมอง...?
ทันหุ้น
18 พฤษภาคม 2565 ( 12:52 )
528
#เรื่องนี้ต้องขยาย TASCOเด้งรับสหรัฐจ่อคืนดีเวเนฯ แว่วQ2ฟื้น แต่ 3โบรกมอง...?

ข่าววันนี้ สำนักข่าว "ทันหุ้น" รายงานว่า #ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว ราคาหุ้น"บริษัท ทิปโก้แอสฟัลท์ จำกัด (มหาชน) หรือ TASCO" ปิดการซื้อขายเช้านี้(17 พ.ค.65) พุ่ง 0.80 บาท แตะ 16.80 บาท คิดเป็น +5% คาดขานรับกระแสข่าวสหรัฐฯเตรียมผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรบางส่วนแก่รัฐบาลเวเนซุเอลาซึ่งเป็นแหล่งน้ำมันดิบหลักของ TASCO เบื้องต้นยังไม่มีความชัดเจน

 

 

**ฟื้นตัวแต่กำไรยังแย่ ลดเกรด 

บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) แนะนำขาย TASCO ราคาเป้าหมาย 14 บาท TASCO ประกาศผลประกอบการ 1Q65 มีกำไรทรุดหนักเหลือเพียง 216 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสก่อน 61%QoQ และ ปีก่อน 49%YoY ถูกกระทบจากปัญหาต้นทุนน้ำมันดิบแพง ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นลดลงเหลือเพียง 6.5% จาก 12.8% ในไตรมาสก่อน และ 13.8% ในปีก่อน จากปัญหาต้นทุนน้ำมันดิบแพง  

ผู้บริหารยังคงเป้าหมายปริมาณขายยางมะตอยในปีนี้ประมาณ 1.2 ล้านตัน ใกล้เคียงปีก่อนที่มีปริมาณขาย 1.24 ล้านตัน  โดยจะกลั่นยางมะตอยเองประมาณ 40% อีก 65% จะซื้อจากโรงกลั่นรายอื่น  ราคายางมะตอยปัจจุบันอ้างอิง Argus ที่สิงคโปร์ ปรับตัวสูงขึ้น 550 เหรียญ/ตัน จากราคาเฉลี่ยใน 1Q65 เท่ากับ 463 เหรียญ/ตัน และ ราคาเฉลี่ยใน 4Q64 เท่ากับ 425 เหรียญ/ตัน  ซึ่งเป็นระดับที่มีกำไร เมื่อเทียบกับต้นทุนน้ำมันดิบปัจจุบัน  ดังนั้น TASCO จึงวางแผนจะสั่งซื้อน้ำมันดิบเข้ามากลั่น 4 Cargo  ประเด็นเวเนซุเอลา ถูกแซงก์ชั่น ซึ่งเป็นแหล่งน้ำมันดิบหลักของ TASCO ในอดีต ปัจจุบันสหรัฐฯยังไม่ผ่อนคลาย ทำให้ TASCO ยังต้องหาน้ำมันดิบจากแหล่งอื่น  

แนวโน้มผลประกอบการ 2Q65 จะดีขึ้น จากราคาขายยางมะตอยที่ปรับตัวสูงขึ้น ตลาดในประเทศจะยังมีการเบิกจ่ายงบประมาณสูง ตลาดต่างประเทศจะเริ่มเข้าสู่ฤดูขาย (Working Season)  นอกจากนี้ตัวเลข Hedging loss ที่ปรากฏในไตรมาสแรกจำนวน 531 ล้านบาท จะบวกกลับมาได้บางส่วนหลังจากที่ขายสินค้าออกไปจริงๆ  แต่เราคาดกำไรจะยังอ่อนแอประมาณ 250-300 ล้านบาท  ภายใต้สถานการณ์ปัจจุบันซึ่งเผชิญกับต้นทุนน้ำมันดิบในระดับสูง  ปี 2565 เราปรับประมาณการอัตรากำไรขั้นต้นลงเหลือ 7.8% จากเดิม 13.4% และ ปรับกำไรลดลง 47% ลงเหลือ 1,134 ล้านบาท ทรุดลง 49%  

 

**รอยกเลิกคว่ำบาตรเวเนฯชัด

บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) ปรับประมาณการปี 2565 ลงเป็น 1,568 ล้านบาทเพื่อสะท้อนผลกระทบจากการซื้อน้ำมันดิบเพิ่มราว 4 คาร์โกในปีนี้ รวมถึงการเพิ่มสัดส่วนการซื้อยางมะตอยจากโรงกลั่นอื่นๆเพื่อมาขายให้กับกลุ่มลูกค้า (GPM น้อยกว่าการกลั่นเอง) 

ผลประกอบการ 2Q65 มีแนวโน้มฟื้นตัว QoQ จากราคาขายยางมะตอยที่เริ่มปรับขึ้นตามราคาน้ำมัน 2) ปริมาณขายทั้งในและต่างประเทศที่สูงขึ้น QoQ และ 3) GPM ที่ดีขึ้นของธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง

ผลจากการปรับประมาณการลงทำให้ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2565 ลดลงเป็น 15.00 บาท มี Downside ราว 6.3% จึงปรับคำแนะนำลงเป็น “Trading”เรามองว่า TASCO ยังขาดปัจจัยหนุนการฟื้นตัวของกำไรในระยะสั้น-กลาง โดยสิ่งที่จะมาหนุนการฟื้นตัวได้คือการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรต่อเวเนซุเอลาของสหรัฐฯซึ่งยังไม่มีพัฒนาการเชิงบวก นอกจากนี้ในกรณีที่สามารถกลับไปซื้อน้ำมันดิบจากเวเนซุเอลาได้ คาดกำไรปกติจะยังไม่ฟื้นกลับไปอยู่ในระดับเดิมแพราะสิทธิประโยชน์ในการซื้ออาจมีการเปลี่ยนแปลง

 

**ไฮซีซั่นยางมะตอย

บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส แนะนำเต็มมูลค่า ราคาพื้นฐาน 13.60 บาท บริษัทให้ Guidance ปริมาณขายปี 22F ทรงตัว YoY ที่ 1.2 ล้านตัน โดยขณะนี้อุปทานมีความตึงตัว และหาวัตถุดิบยาก จำกัดการขยายตลาด ปัจจุบันมีวัตถุดิบผลิตได้ถึง 2Q22Fตั้งเป้าหมายจะซื้อวัตถุดบิ เข้ามาเพิ่ม 4 shipment จากแถบอเมริกาใต้ แต่ราคาวัตถุดิบก็ปรับขึ้นมาก จึงต้องรอเวลาที่เหมาะสม มีแผนซื้อสินค้าจากภายนอกเข้ามาขาย 0.7 ล้านตันในปี 22F เพื่อมาชดเชยกับการผลิตที่ลดลงในมาเลเซีย เราคาดว่าธุรกิจ Trading ปีนี้จะให้มาร์จิ้นต่ำลงเป็น 10.5-11.5% (จาก 18.2% ในปี 21)

  แนวโน้มกำไรสุทธิ 2Q22F คาดว่าจะดีขึ้น QoQ จากการปรับขึ้นราคาขาย, ตลาดยางมะตอยในประเทศอยู่ในช่วง High season, ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างดีขึ้น โดยปรับลดคำแนะนำเป็นเต็มมูลค่า (เดิมถือ) ให้ราคาพื้นฐาน 13.60 บาท โดยคาดกำไรสุทธิปี 22F หดตัว -52% เพราะมาร์จิ้นที่แคบลง การจัดหาวัตถุดิบยากขึ้น ทำให้ปริมาณขายจำกัด ส่วนในปี 23F คาดว่ากำไรสุทธิจะฟื้นตัว+13%

 

**Q2ฉายแววฟื้น

นายชัยวัฒน์ ศรีวรรณวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ TASCO คาดว่ายอดขายไตรมาส 2/65 เติบโตกว่าไตรมาส 1/65 เนื่องจากราคาขายยางมะตอยในปัจจุบันยังคงอยู่ในระดับสูงตามทิศทางราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ประกอบกับตลาดภายในประเทศยังมียอดขายค่อนข้างดีเพราะอยู่ในช่วงที่ภาครัฐเร่งเบิกจ่ายงบประมาณในการซ่อมและสร้างถนนต่อเนื่องจากช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ ส่วนตลาดในต่างประเทศคาดว่าจะเริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้นจากช่วงไตรมาส 1/65 แน่นอน ซึ่งบริษัทจะเน้นขายกลุ่มรีเทลในประเทศที่บริษัทมีโรงงานหรือคลังสินค้าอยู่เป็นหลัก ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้าปริมาณยอดขายปีนี้ราว 1.2 ล้านตัน ใกล้เคียงกับปีก่อนที่ทำได้ 1.24 ล้านตัน แบ่งเป็นยอดขายในประเทศ 48% ต่างประเทศ 52% ซึ่งมาจากต้นทุนน้ำมันดิบที่มีอยู่ในคลังที่ซื้อไว้ช่วงที่ผ่านมา

นอกจากนี้บริษัทเตรียมหาซื้อน้ำมันดิบเข้ามาเพิ่มเติมอีก 4 ลำเรือภายในช่วงที่เหลือของปีนี้ หลังจากในช่วงที่ผ่านมาได้หยุดการสั่งซื้อไป เนื่องจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้นจนไม่สามารถทำกำไรได้ อย่างไรก็ตามตอนนี้บริษัทกำลังหาซื้อน้ำมันดิบอีกครั้ง เพราะราคายางมะตอยที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นจนสามารถกลับมาทำกำไรได้

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง