รพ.มธ. รพ.สนาม มธ.จัด โครงการ “เตียงทิพย์” ให้ผู้ป่วยรักษาตัวที่บ้าน ระบบ Home Isolation
โรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์ โพสต์ ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก โรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์ เมื่อวันพุธที่ 30 มิถุนายน ระบุข้อความว่า วันที่ 81 ของโรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์และวันที่ 24 ของศูนย์รับวัคซีนธรรมศาสตร์รังสิต
วันนี้และวันต่อๆไปคงเป็นวันที่ไม่ดีสำหรับประเทศ เริ่มจากจำนวนผู้ป่วยใหม่แถวๆ 4700 คนอีกละ และมีผู้เสียชีวิต 53 ราย ทำสถิติใหม่อีกแล้วที่น่าตกใจคือตัวเลขผู้เสียชีวิตทำท่าจะทำลายสถิติต่อไปเรื่อยๆในแต่ละวันในอีกสัปดาห์สองสัปดาห์นี้ โดยเหตุที่จำนวนผู้ป่วยล้นเกินศักยภาพของโรงพยาบาลมานานสักสองสัปดาห์แล้วและไม่มีเตียงผู้ป่วยวิกฤติเหลือพอที่จะรองรับผู้ป่วยวิกฤติที่เพิ่มขึ้นใหม่ในสัปดาห์สุดท้ายนี้ได้
ถ้าพวกเราที่ ธรรมศาสตร์จะยังคงยืนหยัดต่อสู้ต่อไปในสงครามนี้ มีทางเลือกให้เดินแคบๆ อยู่ทางเดียวเท่านั้นคือเพิ่มศักยภาพของการรองรับผู้ป่วยให้มากขึ้น แต่จะทำได้เพียงใด ในภาวะที่บุคลากรทางการแพทย์เหนื่อยล้า อิดโรยและแนวรบถูกขยายออกไปเรื่อยๆโดยไม่มีกำลังคนมาเสริมเพิ่มเติม
วันนี้เราเริ่มต้นเปิดแนวรับใหม่ซึ่งอาจจะกลายเป็นแนวรุกได้ในเวลาต่อไป คือการรับผู้ป่วยเข้าระบบ Home Isolation ซึ่งได้ทดลองในวันแรกนี้ไปหลายรายแล้ว และระบบเดินไปได้ด้วยดีเราจัดเตรียมยา เวชภัณฑ์ทางการแพทย์ อุปกรณ์ป้องกันเป็นชุดสำหรับผู้ป่วยแต่ละรายที่คัดเลือกจากเคสเขียวของรพ.ธรรมศาสตร์ที่มีความพร้อม มารับการตรวจเอกซเรย์ปอด โหลดแอพพลิเคชั่น และพูดคุยแนวทางปฏิบัติกับแพทย์และพยาบาลผู้รับผิดชอบ และกำหนดแนวทางวิธีปฏิบัติในการติดตามผลการรักษาและปรึกษาแพทย์ผ่านแอพทุกวัน แล้วจากนั้นก็ให้ไปกักตัวที่บ้านโดยแยกจากบุคคลอื่นๆในครอบครัว หลังจากการติดตามอาการอย่างใกล้ชิดครบ 14 วันหากผู้ป่วยไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนต้องกลับเข้ามาแอดมิดที่รพ.ในระหว่างทาง ผู้ป่วยจะกลับมาพบแพทย์เพื่อตรวจครั้งสุดท้ายและออกใบรับรองยืนยันการหายป่วยจากโรงพยาบาลอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเป็นแนวปฏิบัติที่จะมีข้อดีในแง่ที่ผู้ป่วยไม่ต้องแยกขาดจากครอบครัวมาอยู่ที่โรงพยาบาล แต่ยังคงได้รับการดูแลเสมือนหนึ่งอยู่ในโรงพยาบาล กับจะช่วยลดจำนวนการครองเตียงในโรงพยาบาลลงด้วย
ความที่หัวหน้างานพยาบาลที่ดูแลรับผิดชอบเรื่องนี้ที่ธรรมศาสตร์ชื่อคุณทิพย์ เราจึงจะเรียกการจัดเตียงให้ผู้ป่วยโควิดเคสเขียวของธรรมศาสตร์ในโครงการ Home Isolation นี้ว่า เป็นการจัด “เตียงทิพย์”ให้กับผู้ป่วยโควิด เพื่อไปกักตัวที่บ้านภายใต้การดูแลใกล้ชิดโดยแพทย์
มาเอาใจช่วยให้โครงการ “เตียงทิพย์”สำหรับผู้ป่วยโควิดของพวกเราประสบความสำเร็จเราจะได้เหลือเตียงในโรงพยาบาลให้กับผู้ป่วยเคสเหลือง ส้ม แดงที่จำเป็นจริงๆได้พอเพียงนะ
ในวันเริ่มต้นโครงการนี้ เราขอขอบคุณผวจ.ปทุมธานีที่มาให้กำลังใจและรับจะขยายโครงการลักษณะนี้ไปในโรงพยาบาลอื่นของจังหวัด ขอบคุณ นพ.โสภณผู้ช่วย รมต.สธ.และ นพ.มนัส รองอธิบดีกรมการแพทย์ที่ช่วยประสานการดำเนินงานในเรื่องการเบิกหรือการขอรับยาต้านไวรัสสำหรับผู้ป่วยโครงการนี้ให้พอเพียงในรพ.ธรรมศาสตร์
พรุ่งนี้ มะรืนนี้ หรือในสัปดาห์ต่อๆไป เรื่องนี้อาจจะเป็นช่องทางสำหรับการจัดการปัญหาผู้ป่วยโควิดล้นโรงพยาบาลทั้งประเทศที่เป็นอยู่ ก็ได้
วันนี้สถานการณ์ที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ยังหนักหนาเหมือนเดิมเมื่อวานมีผู้เข้ารับการตรวจswab 111 รายปรากฏว่ามีผลบวก 28 รายเท่ากับเกือบ 25% แล้วคิวรอแอดมิทวันนี้คือ 35 คิว
พี่รพ.สนามก็หนักหนาไม่แพ้กัน วันนี้รับรีเฟอร์ผู้ป่วยเข้าใหม่จากรพ.ต่างๆรวม 52 คนขณะที่เราส่งกลับบ้านได้เพียง 11 รายเท่านั้น จำนวนรวมของคืนนี้จึงไปอยู่ที่ 297 คน เรากำลังจะผ่านตัวเลข 300 เตียงไปแล้วอย่างรวดเร็วเพียง 4 วันหลังรับรีเฟอร์เข้ามาเพื่อช่วยเพื่อนร่วมรบของเราในที่ต่างๆอีกรอบหนึ่ง
สำหรับงานฉีดวัคซีนให้ภูมิคุ้มกันที่ยิม 4 วันนี้ยังให้บริการต่อเนื่องและได้ให้วัคซีนไป 1324 รายทำให้จำนวนผู้ได้รับ Astra จากเราที่นี่สูงเกินสี่หมื่นคนแล้ว เมื่อรวมกับซิโนแวคที่ฉีดที่รพ.ธรรมศาสตร์อีก กว่าสามหมื่นคน เราน่าจะให้วัคซีนไปแล้วไม่น้อยกว่า 75,000 คนที่รพ.ธรรมศาสตร์เอง
งานเสี่ยงสูงที่เพิ่มขึ้นมาก ที่ทำให้ทั้งล้าและเครียดในหมู่ผู้คนที่อยู่หน้างาน ตามจำนวนป่วยที่เพื่ม ซึ่งแปรผกผันกับจำนวนผู้ปฏิบัติงานที่ลดลงจากการติดเชื้อหรือถูกกักตัว ทำให้บุคลากรทางการแพทย์ทั้งที่นี่และที่อื่นๆทั่วประเทศอยู่ในสภาวะที่มีความกดดันสูง พวกเราต้องขออภัยที่ไม่อาจจะเข้าช่วยเหลือในทุกๆด้านของโควิดได้ทันท่วงทีตามความต้องการของทุกๆฝ่าย แต่พวกเราก็จะพยายาม จะทำให้ดีที่สุด ทำให้ด้วยใจ และอย่างเต็มความสามารถ
อย่าโกรธ หรือต่อว่าพวกเรานะ ถ้าเราตรวจเพิ่มให้ไม่ได้ในวันนั้น หรือไม่มีเตียงพอที่จะรับผู้ป่วยเข้าในโรงพยาบาล หรืออาจจะต้องปิดห้องฉุกเฉิน หรือปิดวอร์ดบางวอร์ดในบางเวลา ที่มาจากเหตุผลในทางการแพทย์ที่ก็อธิบายให้คนข้างนอกทราบไม่ได้ หรือไม่ทันจริงๆ
แต่พวกเราจะยังคงเต็มที่ เต็มใจและจะทำงานหนักขึ้นต่อไปอีกตามที่ผู้คนจำนวนมากฝากความหวังและฝากชีวิตไว้กับพวกเราจริง