รีเซต

สปสช.เผย 3 ช่องทาง ผู้ติดโควิดเข้าระบบ HI รักษาที่บ้าน มีหน่วยติดตามอาการส่งยาของจำเป็นให้

สปสช.เผย 3 ช่องทาง ผู้ติดโควิดเข้าระบบ HI รักษาที่บ้าน มีหน่วยติดตามอาการส่งยาของจำเป็นให้
ข่าวสด
21 กุมภาพันธ์ 2565 ( 14:12 )
81
สปสช.เผย 3 ช่องทาง ผู้ติดโควิดเข้าระบบ HI รักษาที่บ้าน มีหน่วยติดตามอาการส่งยาของจำเป็นให้

สปสช.เผย 3 ช่องทาง ผู้ติดโควิดเข้าระบบ HI รักษาที่บ้าน โทรสายด่วน 1330 ติดต่อผ่านไลน์ หรือสแกน QR code ลงทะเบียน มีหน่วยติดตามอาการส่งยาของจำเป็นให้

 

เมื่อวันที่ 21 ก.พ.65 ผศ.ภญ.ยุพดี ศิริสินสุข รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวถึงแนวโน้มสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 มีแนวโน้มจำนวนผู้ติดเชื้อที่สูงมากขึ้นเรื่อยๆ

 

ซึ่งล่าสุดจำนวนผู้ติดเชื้อทำนิวไฮ (New High) กว่า 18,000 รายต่อวัน ยังไม่รวมที่ตรวจ ATK แล้วพบผลบวกอีกเกือบ 10,000 รายต่อวัน อย่างไรก็ดี ผู้ติดเชื้อส่วนมากไม่มีอาการรุนแรง ดังนั้น สถานการณ์จึงยังไม่หนักมากเมื่อเทียบกับช่วงการระบาดก่อนหน้านี้ ซึ่งแนวทางของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) คือ ประชาชนที่ตรวจ ATK แล้วขึ้น 2 ขีด หรือผลเป็นบวกเข้าข่ายว่าติดเชื้อโควิด-19 นั้น จะเข้าสู่ระบบการรักษาที่บ้านทันที โดยไม่จำเป็นต้องไปตรวจ RT-PCR ซ้ำอีก

 

ผศ.ภญ.ยุพดี กล่าวต่อว่า ในส่วนของการจัดระบบเพื่อรองรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มมากขึ้นนี้ หากเป็นผู้ป่วยที่อาการไม่รุนแรง จะเน้นที่การดูแลรักษาที่บ้าน หรือ Home Isolation (HI) ก่อน โดย สปสช.มีเครือข่ายหน่วยบริการที่เพียงพอในการดูแลผู้ป่วยในระบบ HI

 

อีกทั้งอยู่ระหว่างการจัดหาหน่วยบริการเพิ่มเติมเพื่อรองรับจำนวนผู้ป่วยที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต อย่างไรก็ดี ในกลุ่มผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง ผู้ป่วยจะถูกส่งตัวเข้ารักษาในโรงพยาบาล (รพ.) ตามปกติ หรือหากผู้ป่วยที่รับการดูแลในระบบ HI รู้สึกว่าอาการรุนแรงมากขึ้น ก็สามารถโทรประสานหน่วยบริการที่ให้การดูแลเพื่อประสานส่งตัวเข้ารับการรักษาใน รพ. หรือ โทร.1330 ก็ได้

 

“โฮมไอโซเลชั่น คือการดูแลที่บ้าน ไม่ใช่ปล่อยทิ้งไว้ที่บ้าน เราจะมีหน่วยบริการคอยติดตามอาการและจัดส่งยาหรืออุปกรณ์ที่จำเป็นให้ ดังนั้น ถ้าอยู่บ้านได้ก็อยากแนะนำให้รักษาตัวที่บ้านก่อนเพราะมีความสะดวกและสบายใจสำหรับตัวผู้ป่วย และถ้าหากเราเอาคนที่อาการไม่รุนแรงไปนอน รพ.เตียงใน รพ.ก็จะเต็ม และทำให้ไม่มีที่รักษาคนที่มีอาการรุนแรง ซึ่งผู้ที่เหมาะกับการดูแลแบบ HI คือคนไข้ที่ยังไม่มีอาการรุนแรง เช่น คนหนุ่มสาว ผู้ที่มีแค่อาการไข้ แต่ถ้าเป็นกลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้สูงอายุ คนอ้วน มีโรคประจำตัว กลุ่มนี้เป็น กลุ่มที่ต้องเฝ้าระวังและควรเข้ารับการดูแลในส่วนที่เหนือกว่า HI” ผศ.ภญ.ยุพดี กล่าว

 

สำหรับกระแสข่าวที่มีการระบุว่าจะถอดโรคโควิด-19 ออกจากโรคฉุกเฉินนั้น ผศ.ภญ.ยุพดี กล่าวย้ำว่า การรักษาโรคโควิด-19 นี้ ประชาชนทุกสิทธิจะยังได้รับการรักษาฟรี อีกทั้งผู้ที่เข้าระบบ HI ก็สามารถขอใบรับรองแพทย์ได้ตามปกติ

 

รองเลขาธิการ สปสช. กล่าวว่า ช่องทางสำหรับผู้ที่ตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด-19 และต้องการเข้ารับการรักษาตัวในระบบ HI จะมี 3 ช่องทางหลักๆ คือ 1.โทรศัพท์เข้าสายด่วน 1330 กด 14 2.ไลน์ออฟฟิศเชียล สปสช. @nhso หรือคลิก https://lin.ee/zzn3pU6 และ 3.ลงทะเบียนด้วยตัวเองด้วยการสแกน QR code ที่อยู่บนเว็บไซต์ สปสช. หรือคลิกที่ลิงค์ https://crmsup.nhso.go.th/#TicketHI

ผศ.ภญ.ยุพดี กล่าวว่า ในส่วนของการโทรเข้าสายด่วน 1330 กด 14 นั้น สามารถโทรเข้ามาขอรับการประสานงานเพื่อจัดหาหน่วยบริการมาดูแลแบบ HI ได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย สามารถโทร.ได้จากทุกจังหวัดและโทรได้ทุกสิทธิสุขภาพ

อย่างไรก็ดี เนื่องจากเป็นช่องทางที่ประชาชนเห็นว่าติดต่อง่ายที่สุด จึงมีประชาชนโทรเข้ามาเป็นจำนวนมาก โดยช่วงหลังวันตรุษจีนเป็นต้นมาจำนวนสายโทรเข้าเพิ่มขึ้นจาก 17,000 สาย เป็น 20,000 สายต่อวันแล้ว ซึ่งด้วยปริมาณการโทร.มากขนาดนี้ แม้จะเพิ่มคู่สายและจำนวนเจ้าหน้าที่แล้วก็อาจจะประสบปัญหาโทรติดยาก อย่างไรก็ตาม ขอให้มั่นใจว่า แม้จะโทร.ไม่ติด แต่หลังจากนั้นสักพักจะมีเจ้าหน้าที่โทร.กลับไปหาเพื่อสอบถามข้อมูลแน่นอน

ในส่วนของช่องทางที่ 2 ไลน์ออฟฟิเชียล @nhso คลิก https://lin.ee/zzn3pU6 ในกรณีที่โทร 1330 ไม่ติด ก็สามารถ Add friend หรือพิมพ์เพิ่มเพื่อน @nhso ซึ่งในนั้นจะมีเมนูเกี่ยวกับโควิด-19 ให้เข้าไปกรอกข้อมูลเพื่อรับการดูแลแบบ Home Isolation ได้เช่นกัน หรือหากทำไม่เป็นก็สามารถพิมพ์สอบถามแอดมินได้ระหว่างเวลา 08.00-20.00 น. หรือการส่งข้อความ inbox เข้ามาที่เฟซบุ๊ก สปสช. ก็ได้ https://www.facebook.com/NHSO.Thailand

สำหรับช่องทางที่ 3. ลงทะเบียนด้วยตัวเองด้วยการสแกน QR code ที่อยู่บนเว็บไซต์ สปสช. หรือคลิกที่ลิงค์ https://crmsup.nhso.go.th/#TicketHI เมื่อสแกนแล้วจะมีแบบฟอร์มให้กรอกชื่อ เบอร์โทร ที่อยู่ปัจจุบัน โรคประจำตัว น้ำหนัก ส่วนสูง เมื่อบันทึกข้อมูลแล้ว 15-20 นาที ก็สามารถตรวจสอบได้เลยว่าจะมีหน่วยบริการไหนมารับดูแลทำ Home Isolation ให้

จากนั้นสแกนอีกครั้งเพื่อยืนยันตัวตนและรอการติดต่อจากหน่วยบริการเพื่อรับยา อุปกรณ์ปรอทวัดไข้ เครื่องวัดออกซิเจนในเลือด อาหาร และการดูแลจากแพทย์ผ่านระบบ tele health ต่อไป

“อยากแนะนำให้ลงทะเบียนด้วยตัวเองด้วยการสแกน QR code หรือลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ตามลิงค์ที่ระบข้างต้นก่อน หรือหากหา QR code ไม่เจอ ก็เข้าไป @nhso เพื่อกรอกข้อมูล ถ้าทำไม่เป็นพิมพ์ถามแอดมินในไลน์ก็ได้ เพราะจะได้ไม่ต้องเจอปัญหาโทรไม่ติด และช่องทางที่ 3 คือโทรสายด่วน 1330 กด 14 และนอกจาก 3 ช่องทางนี้แล้ว ประชาชนยังสามารถโทรติดต่อไปที่หน่วยบริการประจำตัวของตัวเองได้โดยตรง เพราะเมื่อ สปสช.ได้รับแจ้งจากผู้ติดเชื้อ ก็จะส่งข้อมูลให้หน่วยบริการเหล่านี้เข้ามาดูแลเรื่องการทำ Home Isolation ให้อยู่แล้ว” ผศ.ภญ.ยุพดี กล่าว

ที่มา มติชนออนไลน์

ข่าวที่เกี่ยวข้อง