วัคซีนโควิด-19 "ชนิดสูดดม" ฝีมือจีน ทดลองในมนุษย์ระยะแรกปลอดภัย
วันนี้ (31 ก.ค.64) สำนักข่าวซินหัวของทางการจีน รายงานเมื่อวานนี้ว่า วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แบบใช้อะดิโนไวรัส ไทป์ 5 เป็นตัวนำพา หรือ Ad5-nCoV ร่วมพัฒนาโดยสถาบันการแพทย์ทหาร โรงพยาบาลจงหนานแห่งมหาวิทยาลัยอู่ฮั่น และสถาบันอื่นๆ ของจีน
การทดลองในสัตว์ก่อนหน้านี้ชี้ว่าวัคซีน Ad5-nCoV โดสเดียว สามารถป้องกันการแบ่งตัวของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่ยังไม่กลายพันธุ์ในทางเดินหายใจส่วนบน โดยภูมิคุ้มกันเยื่อเมือกมีส่วนช่วยกระตุ้นเยื่อเมือกและระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ซึ่งสามารถป้องกันเชื้อไวรัสบุกโจมตีผิวเยื่อเมือกได้
รายงานที่เผยแพร่ในวารสาร The Lancet Infectious Diseases ทางออนไลน์เมื่อเดือนกันยายนปีก่อน ระบุว่ามีอาสาสมัคร 130 คน เข้าร่วมการทดลองโดยสุ่มแบ่งออกเป็น 5 กลุ่ม เพื่อรับวัคซีนด้วยวิธีฉีดเข้ากล้ามเนื้อ วิธีสูดดม หรือทั้งสองวิธี
กลุ่มผู้เข้าร่วมทดลองด้วยวิธีสูดดม จำนวน 2 กลุ่ม ได้รับวัคซีน Ad5-nCoV ในปริมาณสูงหรือต่ำในวันแรก ตามด้วยวัคซีนโดสกระตุ้นชนิดเดิมในวันที่ 28 ของการทดลอง ขณะกลุ่มที่รับวัคซีนแบบผสมได้รับวัคซีนชนิดฉีดเข้ากล้ามเนื้อในวันแรก ตามด้วยวัคซีนโดสกระตุ้นชนิดสูดดมในวันที่ 28 ของการทดลอง ส่วนกลุ่มที่รับวัคซีนชนิดฉีดเข้ากล้ามเนื้ออย่างเดียวได้รับวัคซีน Ad5-nCoV จำนวน 1 หรือ 2 โดสในวันแรก
ผลการทดลองพบว่าวัคซีนชนิดสูดดมนั้น มีความทนทานดี ใช้ปริมาณเพียง 1 ใน 5 ของวัคซีนชนิดฉีดเข้ากล้ามเนื้อ และกระตุ้นให้เกิดการตอบสนองที่แข็งแกร่ง ด้านวัคซีนโดสกระตุ้นชนิดสูดดมในวันที่ 28 ของการทดลอง หลังรับวัคซีนชนิดฉีดเข้ากล้ามเนื้อเป็นโดสแรก สามารถกระตุ้นการตอบสนองของแอนติบอดีได้อย่างแข็งแกร่ง
โฮ่วลี่หัว นักวิจัยจากสถาบันฯ กล่าวว่า Ad5-nCoV เป็นวัคซีนแบบไม่ต้องฉีดเข้ากล้ามเนื้อ จึงไม่ก่อให้เกิดอาการข้างเคียงใดๆ เช่น ปวดแขนและบวม ซึ่งอาจช่วยให้ประชาชนเต็มใจเข้ารับวัคซีนกันมากขึ้น
ขณะเดียวกันปริมาณยาที่ใช้ในวัคซีนชนิดสูดดมอยู่ในระดับต่ำมาก ซึ่งเทียบเท่ากับว่าช่วยเพิ่มการผลิตวัคซีนและแก้ปัญหาขยะทางการแพทย์ เช่นเข็มฉีดวัคซีน
ปัจจุบันวัคซีน Ad5-nCoV กำลังอยู่ระหว่างการทดลองทางคลินิก ระยะที่ 2