เปิดปมปิดโรงงาน! สอบหาคนผิด-ทำสหกรณ์ชาวสวนปาล์มกระบี่เจ๊ง

วันที่ 11 พฤศจิกายน 2563 เวลา 14.00 นาฬิกา จากกรณีที่ชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันจังหวัดกระบี่ ได้ประกาศหยุดกิจการโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มดิบชั่วคราว 2 เดือน ตั้งแต่วันนี้ 11 พฤศจิกายน 2563 และจะเปิดอีกครั้งเดือนมกราคม 2564 โดยผู้บริหารชุมนุมสหกรณ์ดังกล่าวอ้างว่า ขาดสภาพคล่องทางการเงินเนื่องจากขาดทุนอย่างหนัก ไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ ทำให้พนักงานกว่า 300 ชีวิตที่ทำงานอยู่ในโรงงานสกัดปาล์มน้ำมันของชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันจังหวัดกระบี่ ในพื้นที่ตำบลคีรีวง อำเภอปลายพระยา และตำบลคลองท่อมเหนือ อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ จำนวน 2 โรงต้องตกงานกระทัน ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าในเรื่องนี้ นายเชาวลิต เจริญฤทธิ์ สหกรณ์จังหวัดกระบี่ กล่าวว่าทางสหกรณ์จังหวัดในฐานะรองนายทะเบียน ได้ทราบเรื่องที่ทางชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันจังหวัดกระบี่ ได้ประกาศหยุดกิจการชั่วคราวเนื่องจากขาดสภาพคล่อง พร้อมกับได้ติดตามตรวจสอบภาวะขาดสภาพคล่องหรือขาดทุน ว่าได้มีการดำเนินการในส่วนใดบ้างทั้งก่อนและหลังการประสบภาวะขาดทุน และขาดสภาพคล่อง

โดยให้ตรวจสอบที่มาที่ไปว่าเกิดจากอะไร แต่เท่าที่ทราบพบว่าทางชุมนุมสหกรณ์ดังกล่าวบริหารจัดการโดยไม่ได้ยึดตามระเบียบปฎิบัติของสหกรณ์ เบื้องต้นได้ดำเนินการสั่งการให้คณะทีมตรวจการ ของสำนักงานสหกรณ์จังหวัดและคณะจากสหกรณ์เขต เข้าไปตรวจสอบข้อบกพร่อง พบว่ามีคณะกรรมการอยู่ 1 ชุด ดำเนินงานผิดพลาดทำให้สหกรณ์มีลูกหนี้การค้าค้างชำระหนี้ ที่ขายน้ำมันให้กับบริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งทางบริษัทไม่ได้ชำระหนี้ให้กับชุมนุม และได้มีการตรวจสอบและมีการดำเนินการให้ชุมนุม ชดใช้ที่ทำให้เกิดความเสียหาย ไปดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า มีใครที่ต้องรับผิดชอบในส่วนนี้บ้าง ซึ่งได้สั่งการไปแล้ว นอกจากนี้ก็ยังได้มีการติดตามอย่างต่อเนื่อง 

โดยเฉพาะผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ได้สั่งกำชับให้สหกรณ์จังหวัด เร่งดำเนินการใช้อำนาจตามพระราชบัญญัติ พร้อมกันนี้ได้เร่งรัดให้สหกรณ์เร่งรัดติดตามทวงหนี้ 395 ล้านบาท จนถึงวันนี้ทางบริษัทก็ยังไม่ได้ชำระหนี้แต่อย่างใด พร้อมกันนี้ได้นำเรื่องเข้าสู่ขบวนการของกฎหมายอยู่ในขั้นตอนไกล่เกลี่ยในชั้นศาล ทางบริษัทรับปากว่าจะจ่ายหนี้ให้ เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2562 ที่ผ่านมา 

นายเชาวลิต เจริญฤทธิ์ กล่าวอีกว่า ในฐานะรองนายทะเบียนดูแลชุมนุมสหกรณ์ก็ได้ดำเนินการสั่งต่อหาคนรับผิดชอบ สำหรับเหตุการณ์ทั้งหมดเกิดจากคณะกรรมการปล่อยปละละเลยไม่ปฏิบัติให้เป็นไปตามระเบียบที่ชุมนุมจะต้องปฏิบัติ คือต้องติดตามหนี้ที่บริษัทคู่ค้าติดหนี้ในแต่ละงวดๆไป แต่ที่ผ่านมาทางชุมนุมปล่อยให้มีการค้างชำระถึง 4  งวดติด รวมเป็นเงิน 395 ล้านบาท ซึ่งในตรงนี้ทางชุมนุมจะอ้างว่าได้ติดตามแล้ว แต่ในระเบียบจริงๆหากว่าไม่มีการชำระให้ก็ไม่ควรจะขายให้เขาต่อ ซึ่งได้สั่งการให้หาผู้รับผิดชอบแล้ว เพื่อที่จะมาแก้ไขปัญหา ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการของนายทะเบียนที่จะดำเนินการหาผู้รับผิดชอบ