รีเซต

เช็กที่นี่! ฉีดวัคซีนเข็ม 3 ป้องกันโควิด "โอไมครอน" มีวัคซีนอะไรบ้าง?

เช็กที่นี่! ฉีดวัคซีนเข็ม 3 ป้องกันโควิด "โอไมครอน" มีวัคซีนอะไรบ้าง?
Ingonn
21 ธันวาคม 2564 ( 15:26 )
5.3K
เช็กที่นี่! ฉีดวัคซีนเข็ม 3 ป้องกันโควิด "โอไมครอน" มีวัคซีนอะไรบ้าง?

ในที่สุดโควิดสายพันธุ์ใหม่อย่าง โอไมครอน หรือ โอมิครอน (Omicron) ก็ได้แพร่ระบาดไปหลายประเทศทั่วโลก จนทำให้องค์กรอนามัยโลก (WHO) ประกาศเตือนให้หยุดกิจกรรมการรวมตัว เช่น งานปีใหม่ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด

 

การแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์ โอไมครอน หรือ โอมิครอน เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นสองเท่าในทุก 1 - 3 วัน ซึ่งเป็นอัตราการเพิ่มขึ้นที่มากกว่าการแพร่ระบาดของสายพันธุ์เดลต้า ทำให้ปัจจุบันมีประเทศที่ตรวจพบการติดเชื้อแล้ว 89 ประเทศ

 

โดย WHO ยังคงมีข้อมูลที่จำกัด เฉพาะอย่างยิ่งผลการตรวจหาเชื้อและประสิทธิภาพของวัคซีนในการป้องกันเชื้อโอไมครอน (Omicron) ชัดเจน ทำให้ยังไม่สามารถประเมินถึงสาเหตุของการแพร่ระบาดที่รวดเร็ว โดยเฉพาะในประเทศที่มีการฉีดวัคซีนจำนวนมากจนเกิดภูมิคุ้มกัน รวมทั้งผลกระทบต่อสุขภาพของผู้ได้รับเชื้อแม้จะได้รับการฉีดวัคซีนแล้วเช่นกัน ทั้งนี้ ด้วยอัตราการแพร่ระบาดที่เพิ่มขึ้นอย่างคงที่ ทำให้อีกไม่นานเชื้อโอมิครอน จะกลายเป็นสายพันธุ์หลักที่มีการแพร่ระบาดมากที่สุดแทนสายพันธุ์เดลต้า

 

สิ่งที่ต้องรู้เกี่ยวกับ "โอไมครอน"

  1. สายพันธุ์โอไมครอนแพร่เร็วกว่าสายพันธุ์เดลต้า 2-5 เท่า
  2. โอไมครอน มี 3 สายพันธุ์ย่อย ได้แก่ BA1 BA2 และ BA3
  3. ผู้ติดเชื้อโอไมครอนเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในทุก 1 - 3 วัน
  4. ยังไม่มีข้อมูลอาการหนักหรือเสียชีวิตเพิ่มขึ้น
  5. วัคซีน 2 เข็ม ป้องกันโอไมครอนไม่พอ ต้องฉีดวัคซีนเข็ม 3 เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
  6. กระทบต่อประสิทธิผลของวัคซีน แต่ไม่กระทบต่อการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันทั้งชนิด T Cell และชนิด B Cell

 

วันนี้ TrueID จึงจะพามาสำรวจงานวิจัย “วัคซีนโควิด-19” ที่สามารถป้องกันโควิดโอไมครอนได้ จะมีวัคซีนอะไรบ้าง และวัคซีนที่มีอยู่ในไทยยังสามารถป้องกันโอไมครอน หรือโอมิครอน ได้อยู่หรือไม่


เช็ก! วัคซีนเข็ม 3 ป้องกันโอไมครอนได้

วัคซีนโมเดอร์นา (Moderna)

บริษัทโมเดอร์นา อิงค์ ผู้ผลิตวัคซีนจากสหรัฐอเมริการะบุว่า การฉีดวัคซีนโมเดอร์นา จำนวน 2 โดส และเข็มกระตุ้น ปริมาณ 100 ไมโครกรัม สามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ถึง 83 เท่า ส่วนผู้ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้น ปริมาณ 50 ไมโครกรัม สามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ 37 เท่า ซึ่งสามารถป้องกันอาการป่วยแบบเข้าโรงพยาบาลได้ และสร้างแอนติบอดีหรือระดับถูมิคุ้มกันต่อโอไมครอนได้

 

โดยโมเดอร์นายังคงจะพัฒนาวัคซีนแบบ Multivalent ที่มีประสิทธิภาพป้องกันเชื้อโควิดได้ครอบคลุมถึง 4 สายพันธุ์ รวมถึงโอมิครอน แต่คาดว่าการพัฒนาอาจต้องใช้เวลาอีกหลายเดือน และคาดว่าจะเริ่มทดสอบในมนุษย์ภายในต้นปี 2565

 

วัคซีนไฟเซอร์ (Pfizer)

บริษัทไฟเซอร์ อิงค์และไบออนเทค เปิดผลการทดลองฉีดวัคซีนเข็ม 3 เพิ่มภูมิต้านทานของแอนติบอดีได้ถึง 25 เท่า เมื่อเทียบกับการฉีดวัคซีนเพียง 2 เข็ม ซึ่งสามารถสร้างภูมิคุ้มกันต่อโอไมครอนได้ลดลง เทียบเท่าสายพันธุ์ดั้งเดิม ป้องกันอาการป่วยจากสายพันธุ์โอไมครอนได้ (และสายพันธุ์เดลตาได้ดีมาก)

 

ดังนั้นทางไฟเซอร์จึงต้องการให้ทุกคนฉีดวัคซีนให้ครบ 2 เข็ม และฉีดเข็มกระตุ้น หรือวัคซีนเข็ม 3 เพิ่ม เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 นอกจากนี้ยังระบุว่าสามารถส่งมอบวัคซีนต้านโอไมครอนได้ในเดือนมีนาคม 2565 หากจำเป็น

 

ดังนั้นการฉีดเข็มกระตุ้นจะช่วยเพิ่มประสิทธิผลของวัคซีน แต่ถ้าใครยังไม่แน่ใจว่าฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว จะเริ่มฉีดวัคซีนเข็ม 3 เป็นชนิดใด หรือวัคซีนสูตรไหน ไปเช็กกันได้เลย

 

ฉีดวัคซีนเข็ม 3 หรือ เข็มกระตุ้นชนิดใดได้บ้าง

  1. ผู้ที่ฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 และ 2 เป็น ซิโนแวค-ซิโนแวค หรือ ซิโนฟาร์ม-ซิโนฟาร์ม สามารถฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 เป็น แอสตร้าเซนเนก้า หรือ ไฟเซอร์ หรือ โมเดอร์นา โดยให้เว้นระยะห่างระหว่างจากเข็มที่ 2 และ 3 ตั้งแต่ 4 สัปดาห์ขึ้นไป หลังเข็มที่ 2

  2. ผู้ที่ฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 และ 2 เป็น แอสตร้าเซนเนก้า-แอสตร้าเซนเนก้า สามารถฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 เป็น ไฟเซอร์ หรือ โมเดอร์นา โดยให้เว้นระยะห่างระหว่างเข็มที่ 2 และ 3 ตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไป หลังเข็มที่ 2

  3. ผู้ที่ฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 และ 2 เป็น ไฟเซอร์-ไฟเซอร์ หรือ โมเดอร์นา-โมเดอร์นา สามารถฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 เป็น ไฟเซอร์ หรือ โมเดอร์นา โดยให้เว้นระยะห่างระหว่างเข็มที่ 2 และ 3 ตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป หลังเข็มที่ 2

  4. ผู้ที่ฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 เป็นซิโนแวค หรือ ซิโนฟาร์ม และเข็มที่ 2 เป็นแอสตร้าเซนเนก้า สามารถฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 เป็น แอสตร้าเซนเนก้า หรือ ไฟเซอร์ หรือ โมเดอร์นา โดยให้เว้นระยะห่างระหว่างเข็มที่ 2 และ 3 ตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไป หลังเข็มที่ 2

  5. ผู้ที่ฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 เป็นซิโนแวค หรือ ซิโนฟาร์ม และเข็มที่ 2 เป็นไฟเซอร์ สามารถฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 เป็น ไฟเซอร์ หรือ โมเดอร์นา โดยให้เว้นระยะห่างระหว่างเข็มที่ 2 และ 3 ตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไป หลังเข็มที่ 2

  6. ผู้ที่ฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 เป็นแอสตร้าเซนเนก้า และเข็มที่ 2 เป็นไฟเซอร์ สามารถฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 เป็น ไฟเซอร์ หรือ โมเดอร์นา โดยให้เว้นระยะห่างระหว่างเข็มที่ 2 และ 3 ตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป หลังเข็มที่ 2

 

 

 

 

ข้อมูลจาก ศูนย์ข้อมูล COVID-19 , กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

 

--------------------

เกาะติดสถานการณ์โควิด-19  ทันความเคลื่อนไหว ได้ความรู้ที่ถูกต้อง ส่งตรงถึงมือคุณ
คลิกเลย!! >>> รู้ทันกันโควิด <<< หรือ กด *301*35# โทรออก

 

ทุกประเด็นร้อนข่าวสาร สาระ ทันเหตุการณ์ พูดคุยกันได้ 24 ชม.

คลิกเลย >>> TrueID Community <<<

 

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง