FaceBit อุปกรณ์ตรวจสุขภาพบนหน้ากากอนามัย แรงบันดาลใจจาก Fitbit
ในช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 แพทย์, พยาบาล และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอื่น ๆ คือกลุ่มเสี่ยงที่มีโอกาสสัมผัสเชื้อได้ง่าย จึงมีความจำเป็นที่จะต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยอยู่ตลอดเวลาเพื่อป้องกันตนเองและคนรอบข้าง ด้วยเหตุนี้นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยนอร์ธเวสต์เทิร์น จึงได้คิดค้นแกดเจ็ตพิเศษ "FaceBit" ที่สามารถประเมินสุขภาพและแจ้งเตือนการรั่วไหลของอากาศในหน้ากากอนามัยได้
นักวิจัยได้ตั้งนิยามให้กับ FaceBit ไว้ว่า "มันคือ Fitbit สำหรับสวมใส่บนใบหน้า" ซึ่ง Fitbit คือบริษัทผลิตอุปกรณ์สวมใส่อย่าง Smartwatch ที่มาพร้อมฟีเจอร์ในการประเมินสุขภาพของผู้สวมใส่ด้วย นี่จึงเป็นที่มาในการเล่นคำของ FaceBit อุปกรณ์สวมใส่อีกแบบหนึ่งที่สามารถประเมินสุขภาพได้ หากแต่เป็นการนำมาใช้งานร่วมกับหน้ากากอนามัยนั่นเอง
FaceBit เป็นชิปขนาดเท่าเหรียญ 25 เซนต์สหรัฐฯ (ขนาดราว ๆ เหรียญ 5 บาทไทย) สำหรับตัวต้นแบบจะมีวิธีการใช้งานคือ นำ FaceBit มาติดแนบกับหน้ากากอนามัยด้านใน โดยหันด้านที่เป็นวงจรของ FaceBit เข้าหาใบหน้า จากนั้นนำแป้นแม่เหล็กขนาดเล็กมาติดบริเวณหน้ากากอนามัยทางด้านนอกเพื่อยึด FaceBit ให้อยู่กับที่ เท่านี้วงจรก็จะเริ่มติดตามสัญญาณชีพของผู้สวมใส่เพื่อเก็บข้อมูลไว้ประมวลผล
พลังงานที่ใช้ขับเคลื่อน FaceBit จะมาจากแบตเตอรี่ภายในตัว ซึ่งจะรวบรวมพลังงานได้จากแสงสว่าง, การเคลื่อนไหว, ความร้อน และแรงจลน์จากการหายใจออกของผู้สวมใส่ โดยทางนักวิจัยเคลมว่าแบตเตอรี่สามารถอยู่ได้นานถึง 11 วันหลังการชาร์จให้เต็ม 1 ครั้ง ซึ่งจะมีการพัฒนาให้วงจรใช้พลังงานน้อยมาก จนไม่ต้องใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ภายนอกอีก
สำหรับการเก็บข้อมูลของ FaceBit จะวิเคราะห์อัตราการหายใจของผู้สวมใส่จากลมหายใจเข้าออก, ตรวจจับการเคลื่อนไหวและนำมาวิเคราะห์เป็นอัตราการเต้นของหัวใจ ยิ่งไปกว่านั้นมันยังมีเซนเซอร์ตรวจวัดแรงต้านของอากาศที่หายใจออกในหน้ากากอนามัย หากแรงต้านของอากาศลดลงแสดงว่าหน้ากากอนามัยมีรอยรั่วหรือแนบกับใบหน้าไม่สนิท FaceBit ก็จะส่งสัญญาณแจ้งเตือนให้ผู้สวมใส่ปรับหน้ากากอนามัยให้กระชับขึ้น
ข้อมูลที่รวบรวมได้นี้จะถูกส่งไปยังแอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟน เพื่อประเมินเรื่องของความเครียด, ความเมื่อยล้า และความกระชับของหน้ากากอนามัย ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้สวมใส่โดยเฉพาะบุคลากรทางการแพทย์ ที่ต้องทำงานอยู่ตลอดเวลาจนอาจจะลืมใส่ใจกับสุขภาพของตนเอง ในขณะที่พวกเขาจำเป็นต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยอยู่แล้ว การติด FaceBit เข้าไปด้วยก็จะช่วยให้พวกเขาตระหนักถึงสุขภาวะของตนเองได้ดีขึ้น
ขณะนี้ FaceBit ยังอยู่ในขั้นตอนของการพัฒนา โดยนักวิจัยต้องอาศัยผลการศึกษาจากอาสาสมัครอีกจำนวนหนึ่ง เพื่อให้มั่นใจถึงผลลัพธ์อันน่าเชื่อถือได้ ก่อนนำออกมาวางจำหน่ายในเชิงพาณิชย์ ซึ่งก็หวังว่าอุปกรณ์นี้จะเป็นประโยชน์ต่อบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงประชาชนทั่วไปในอนาคตด้วย
ขอขอบคุณข้อมูลจาก TechTimes