ธนารักษ์จับมือ”กรุงไทย-ธอส.” เชื่อมข้อมูลประเมินสินเชื่ออสังหา

ธนารักษ์ จับมือ”กรุงไทย-ธอส.”แลกเปลี่ยนข้อมูลราคาประเมินทรัพย์สิน หวังสร้างความแม่นยำของข้อมูล หนุนประชาชนเข้าถึงสินเชื่อ และ ลดความเสี่ยงในการประเมินราคาทรัพย์สิน ยกระดับระบบประเมินราคาที่ดินของประเทศ บริการประชาชน
#ทันหุ้น นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า กรมธนารักษ์ได้จัดพิธีลงนามความร่วมมือว่าด้วยการบูรณาการแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านประเมินราคาทรัพย์สินระหว่าง กรมธนารักษ์ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) และธนาคารอาคารสงเคราะห์ ซึ่งความร่วมมือนี้ จะเป็นการแลกเปลี่ยน เชื่อมโยง และบูรณาการฐานข้อมูลราคาประเมินทรัพย์สินร่วมกัน เสริมให้กระบวนการประเมินราคาทรัพย์สินมีประสิทธิภาพ แม่นยำ รวดเร็ว และเป็นธรรม มากยิ่งขึ้น
“ความร่วมมือนี้จะเป็นต้นแบบที่ดีในการพัฒนาระบบข้อมูลและการให้บริการของภาครัฐและภาคการเงินในอนาคต”
การเชื่อมโยงในครั้งนี้จะนำสู่การรวบรวมแลกเปลี่ยนข้อมูลการประเมินราคาทรัพย์สิน ข้อมูลด้านอสังหาริมทรัพย์ครั้งใหญ่ ผ่าน API SERVICE ของศูนย์บริหารจัดการราคาประเมินทรัพย์สินแห่งชาติเพื่อนำมาใช้ในการบริหารจัดการราคาประมินทรัพย์สินด้วยเทคโนโลยี Big Data Analytics และ Data Visualizations และรองรับการประมวลผลและเผยแพร่ข้อมูลไปยังระบบประเมินราคาทรัพย์สินของกรมธนารักษ์ เพื่อความสะดวกยิ่งขึ้นของพี่น้องประชาชน
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมธนารักษ์ ภายใต้บันทึกข้อตกลงนี้ กรมธนารักษ์จะมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลให้ทั้งสองหน่วยนำไปใช้เป็นข้อมูลประกอบในการประเมินราคาอสังหาริมทรัพย์ที่ยื่นขอสินเชื่อ ดังนี้ 1. บัญชีราคาประเมินทรัพย์สิน ประกอบด้วย บัญชีราคาประเมินที่ดิน บัญชีราคาประเมินห้องชุด และบัญชี
ราคาประเมินสิ่งปลูกสร้าง 2. ข้อมูลหน่วยที่ดิน ประกอบด้วยชื่อหน่วยที่ดิน ความลึกมาตรฐาน (เมตร) และราคาประเมินที่ดินรายหน่วยที่ดิน(บาทต่อตารางวา)
ในส่วนของธนาคารกรุงไทย และธนาคารอาคารสงเคราะห์จะแลกเปลี่ยนข้อมูลให้กรมธนารักษ์นำไปใช้เป็นข้อมูลในการสอบทานข้อมูลราคาซื้อขายจดทะเบียนเพื่อใช้ในการกำหนดราคาประเมินที่ดินรายหน่วยที่ดิน ดังนี้ 1.ข้อมูลราคาประเมินสินเชื่อของอสังหาริมทรัพย์ที่นำมาใช้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน ประกอบด้วย ที่ดิน
สิ่งปลูกสร้าง และห้องชุด 2. ข้อมูลราคาตลาดแปลงที่นำมาใช้ประกอบการประเมินราคาหลักทรัพย์ ประกอบด้วย ที่ดิน และห้องชุด
นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า ความร่วมมือนี้ ยังก่อให้เกิดประโยชน์ต่อหลายภาคส่วน ทั้งการตรวจสอบทรัพย์สิน คุณภาพลูกหนี้ ด้วยต้นทุนที่ลดลง ช่วยลดความเสี่ยง และสามารถช่วยให้ประชาชนเข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้น ทำให้ช่วยลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึง ด้วยข้อมูลกลางที่ได้มาตรฐาน โดยให้ความสำคัญกับการส่งเสริมให้คนไทยทุกคนเข้าถึงบริการด้านการเงินและการลงทุนอย่างทั่วถึง เท่าเทียม และลดความเหลื่อมล้ำ ตอบโจทย์เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน รวมไปถึง SME ที่สามารถเข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้นด้วยการประเมินหลักทรัพย์ค้ำประกันที่แม่นยำและรวดเร็ว ทำให้เกิดเป็นการบูรณาการแบบองค์รวม
โครงการความร่วมมือนี้ จึงมีเป้าหมาย เพื่อจัดทำฐานข้อมูลกลางและพัฒนากลไกดิจิทัลอ้างอิงราคาประเมินทรัพย์สินให้เป็นมาตรฐานเดียว เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการข้อมูลและรองรับการวิเคราะห์เชิงนโยบายในอนาคต ซึ่งกรมธนารักษ์จะสามารถใช้ข้อมูลจากภาคธนาคารปรับปรุงฐานข้อมูลให้ใกล้เคียงราคาตลาดและวิเคราะห์เชิงพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้การคุ้มครองข้อมูลลูกค้าตาม PDPA
ขณะเดียวกัน ธนาคารกรุงไทยสามารถใช้บัญชีราคาประเมินและแผนที่แปลงที่ดินดิจิทัลจากกรมธนารักษ์ประกอบการพิจารณาสินเชื่อได้อย่างรวดเร็วและครอบคลุมยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยยกระดับคุณภาพฐานข้อมูลให้เกิดประโยชน์ในแง่ของเศรษฐกิจอย่างเป็นรูปธรรม
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
