เกาะติดสถานการณ์ 'รัสเซีย-ยูเครน' (22 มี.ค.2565)
ข่าววันนี้ สถานการณ์วิกฤต "รัสเซียยูเครน" ยังคงขัดแย้งอย่างต่อเนื่อง วันนี้เข้าสู่วันที่ 26 แล้ว ล่าสุด อ่านต่อ เกาะติดสถานการณ์ 'รัสเซีย-ยูเครน' (21 มี.ค.2565)
เกาะติดสถานการณ์ 'รัสเซีย-ยูเครน' (22 มี.ค.2565)
ยูเครนชี้ทหารรัสเซียมีอาหาร-น้ำมัน-กระสุน อยู่ได้อีกแค่ 3 วัน
กระทรวงกลาโหมยูเครนระบุว่า กองทัพรัสเซียที่เข้ามาในยูเครนมีอาหาร กระสุน รวมถึงน้ำมันเชื้อเพลิง เพียงพอที่จะใช้งานอีกไม่เกิน 3 วันเท่านั้น
กระทรวงกลาโหมยูเครนบอกด้วยว่า กองทัพรัสเซียยังเหลือเชื้อเพลิงเพียงพอสำหรับใช้แค่ 3 วัน ซึ่งเชื้อเพลิงเหล่านั้นจะถูกเติมจากรถบรรทุกน้ำมัน แต่พวกเขาไม่มีความสามารถที่จะสนองความต้องการที่จำเป็นของกองกำลังได้
ขณะที่กระทรวงกลาโหมอังกฤษก็ชี้ว่า กองทัพรัสเซียกำลังเผชิญกับการหยุดนิ่งอยู่กับที่ เนื่องจากได้รับชัยชนะจำกัด
ด้านทวิตเตอร์ของกระทรวงกลาโหมอังกฤษระบุว่า กองกำลังยูเครนยังคงขับไล่ความพยายามของรัสเซียที่จะเข้ายึดเมืองมารีอูปอล ซึ่งเป็นหนึ่งในเมืองที่ยังมีการต่อสู้กันอย่างดุเดือดที่สุดจนถึงขณะนี้
ข้อมูล : มติชน
UN ชี้ ชาวยูเครนกว่า 10 ล้าน เผชิญชะตากรรมเลวร้าย ทั้งอพยพ ไร้ที่อยู่ นับแต่รัสเซียส่งทหารบุกยูเครน
UNHCR เผย มีชาวยูเครนอพยพออกนอกประเทศแล้วเกือบ 3.5 ล้านคน และไร้ที่อยู่อาศัยอยู่ภายในยูเครนอีกหลายล้านคน
สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ หรือ UNHCR แถลงเมื่อวันจันทร์ (21 มีนาคม) ว่า ขณะนี้ มีชาวยูเครนเกือบ 3.5 ล้านคนแล้วที่อพยพหลบหนีออกนอกประเทศ หลังกองทัพรัสเซียเริ่มปฏิบัติการทางทหารในยูเครน
พร้อมชื่นชมยกย่องประเทศเพื่อนบ้าน ที่แสดงความเห็นอกเห็นใจอย่างท่วมท้น ต่อ “ชะตากรรมอันเลวร้าย” ของพวกเขา โดยจนถึงตอนนี้ มีประชาชนมากกว่า 10 ล้านคน ซึ่งกว่า 1 ใน 4 อยู่ในพื้นที่ควบคุมของฝ่ายรัฐบาลยูเครน เชื่อว่าทิ้งบ้านเรือนหลบหนี และหลายล้านคนไร้ที่อยู่อาศัยในประเทศ
UNHCR ระบุว่า ชาวยูเครน 3,489,644 คน หลบหนีออกนอกประเทศ ตั้งแต่รัสเซียเริ่มโจมตีเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งเฉพาะวันอาทิตย์ (20 มีนาคม) ที่ผ่านมา เพียงวันเดียว มีมากถึง 100,600 คน
ฟิลิปโป กรานดี ผู้อำนวยการ UNHCR กล่าวว่า ในช่วง 4 สัปดาห์ที่ผ่านมา โลกจับตามองด้วยความไม่เชื่อ ชีวิตนับไม่ถ้วนต้องสูญเสีย ในขณะที่คนอื่น ๆ อีกหลายล้านคนได้รับผลกระทบอย่างหนัก แต่เราก็ยังได้เห็นการต้อนรับและความเห็นอกเห็นใจอย่างมากมาย จากบรรดาประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งประชาชนในท้องถิ่น ที่ได้เปิดใจและเปิดบ้านรับชาวยูเครน
เขากล่าวอีกว่า ผู้คนหลายล้านคนทั่วโลกรับทราบถึงชะตากรรมอันเลวร้ายของชาวยูเครน โดยอ้างถึง “ความเจ็บปวดและความเศร้าโศก ความสูญเสียและความทุกข์ทรมาน” ของพวกเขา และช่วยเหลือด้วยการหาที่ปลอดภัย และลดความกังวลเกี่ยวกับอนาคตที่ไม่แน่นอน
ทั้งนี้ จากจำนวนผู้อพยพทั้งหมด ประมาณ 90% เป็นผู้หญิงและเด็ก ส่วนชายชาวยูเครนอายุ 18-60 ปี อาจได้รับการเรียกตัวไปเป็นทหารรับใช้ชาติ และไม่สามารถเดินทางออกนอกประเทศ
กองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ หรือ องค์การ UNICEF ระบุว่า มีเด็กมากกว่า 1.5 ล้านคนอยู่ในกลุ่มผู้อพยพออกนอกประเทศ
ส่วนองค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน (International Organization for Migration) หรือ IOM ระบุว่า จนถึงเมื่อวันพุธที่ผ่านมา มีประชาชนประมาณ 6.48 ล้านคนในยูเครนไร้ที่อยู่อาศัย และอีกหลายล้านคน อาจได้รับผลกระทบเพิ่มขึ้น หากวิกฤตครั้งนี้ยังไม่ยุติ
ข้อมูล : TNN World
เซเลนสกี ย้ำต้องพบ ปูติน เท่านั้น จึงจะยุติวิกฤตได้
ประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน กล่าวเมื่อวานนี้ (21 มีนาคม) ว่า ข้อตกลงใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการเจรจาสันติภาพ เพื่อยุตวิกฤตยูเครน-รัสเซียนั้น จะต้องผ่านการลงประชามติรับรองจากชาวยูเครน ส่วนข้อตกลงประนีประนอมจะจบในรูปแบบใด ขึ้นอยู่กับผลการเจรจาสันติภาพระหว่างยูเครนกับรัสเซียที่กำลังดำเนินอยู่
เซเลนสกีระบุด้วยว่า เขาพร้อมทำทุกอย่างที่จำเป็น หากชาวยูเครนสนับสนุนการตัดสินใจของเขา
ผู้นำยูเครนเรียกร้องซ้ำอีกครั้ง ถึงความจำเป็นที่จะต้องพบกับประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ไม่ว่าจะพบกันในรูปแบบใดก็ตาม เพื่อยุติการสู้รบในยูเครน เซเลนสกีเชื่อว่า หากไม่ได้พบกับปูติน จะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเข้าใจว่า รัสเซียพร้อมที่จะทำอะไรบ้าง เพื่อยุติความขัดแย้งครั้งนี้
เซเลนสกียังกล่าวถึงการที่รัสเซียขีดเส้นตายเมื่อวานนี้ (21 มีนาคม) ให้เมืองท่ามารีอูโปลของยูเครน รวมไปถึงกรุงเคียฟและคาร์คิฟให้ยอมแพ้ด้วยว่า การยื่นคำขาดของรัสเซียจะทำได้ ก็ต่อเมื่อยูเครนถูกทำลายลงแล้วเท่านั้น
หากถึงเวลานั้น การยอมแพ้จะเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติเอง แต่การที่รัสเซียเรียกร้องขอกรุงเคียฟ มารีอูโปล คาร์คิฟนั้น แม้แต่ชาวเมืองทั้งสามเอง รวมถึงตัวเขาซึ่งเป็นประธานาธิบดี ก็ไม่อาจทำได้
เซเลนสกียังชี้ด้วยว่า แม้แต่เมืองที่รัสเซียยึดไปแล้ว แต่ชาวเมืองยังคงไม่ยอมจำนน ทหารรัสเซียชักธงชาติขึ้น แต่ชาวเมืองเหล่านั้น ก็ไปดึงลงมา
เซเลนสกีกล่าวถึงองค์การนาโตด้วยว่า เขายอมรับแล้วว่า เป็นไปไม่ได้แล้ว ที่ยูเครนจะเข้าเป็นสมาชิกนาโต และยูเครนจำเป็นต้องได้รับการรับประกันด้านความมั่นคงในรูปแบบอื่นที่ไม่ใช่นาโต
ทั้งนี้ ผู้นำยูเครนเผยด้วยว่า ขณะนี้มีประเทศสมาชิกนาโตบางประเทศ ที่แสดงความต้องการจะให้การรับประกันความมั่นคงแก่ยูเครน
ข้อมูล : TNN World
--------------------
เกาะติดสถานการณ์โควิด-19 ทันความเคลื่อนไหว ได้ความรู้ที่ถูกต้อง ส่งตรงถึงมือคุณ
คลิกเลย!! >>> รู้ทันกันโควิด <<< หรือ กด *301*35# โทรออก
กดเลย >> community แห่งความบันเทิง
ทั้งข่าว หนัง ซีรีส์ ละคร ดนตรี และศิลปินไอดอล ที่คุณชื่นชอบ บนแอปทรูไอดี