ASIANอาหารสัตว์ทำเงิน ปรับเป้ารายได้ใหม่โต19%
#ASIAN #ทันหุ้น – ASIAN ปรับเป้ารายได้ปีนี้โต 19% จากเดิมตั้งเป้าโต 12% หลังไตรมาสแรกมีกำไร 248 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% มีรายได้จากการขายและบริการอยู่ที่ 2,837 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35% ชูอาหารสัตว์เติบโตแรง บวกรับอานิสงส์ค่าเงินบาทอ่อน ส่วนบริษัทย่อย AAI คาดเข้าตลาดหุ้นปลายไตรมาส 3-4 ปีนี้
นายเอกกมล ประสพผลสุจริต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการเงิน บริษัท เอเชี่ยนซี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ASIAN เปิดเผยว่า บริษัทเพิ่มเป้ารายได้ปี 2565 เติบโต 19% จากเดิมที่คาดว่าจะเติบโต 12% จากปีก่อนที่มีรายได้ 9,593.14 ล้านบาท หลังผลประกอบการไตรมาส 1/2565 เติบโตได้ดี โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงที่มียอดขายเติบโตได้ดี และมีออเดอร์จากกลุ่มประเทศสหรัฐอเมริกาและยุโรป เพิ่มขึ้น
*ลุยแบรนด์อาหารสัตว์เลี้ยง
นอกจากนี้ยังเดินหน้าในการผลักดัน “monchou” แบรนด์อาหารสัตว์เลี้ยงระดับพรีเมียมของบริษัท มียอดขายเพิ่มขึ้นถึง 133% ในไตรมาส 1/2565 โดยปีนี้จะขยายตลาดอินโดนีเซียเพิ่มขึ้น จากขณะนี้ที่มีการขยายตลาดจีน ซึ่งแบรนด์สินค้าของบริษัทเป็นกลุ่มที่ให้มาร์จิ้นสูง ดังนั้นปีนี้คาดว่าสัดส่วนรายได้จากกลุ่มธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงจะอยู่ที่ประมาณ 45-46%
ส่วนต้นทุนอาหารสัตว์เลี้ยงที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นบริษัทพยายามบริหารจัดการต้นทุน และมีการปรับราคาขายให้สะท้อนกับต้นทุนที่แท้จริง แต่ก็ยอมรับว่าได้รับผลกระทบจากต้นทุนบ้างทำให้คาดว่าปีนี้อัตรากำไรขั้นต้นจะอยู่ที่ระดับ 17-18% แต่ก็ยังได้รับอานิสงส์จากค่าเงินบาทอ่อนค่ามาเป็นปัจจัยหนุน
ขณะที่ธุรกิจอาหารแช่เยือกแข็ง มีการเติบโตดีมาก โดยในไตรมาส 1/2565 มียอดขายผลิตภัณฑ์กลุ่มหมึกเพิ่มขึ้นถึง 90% จากการที่อุปสงค์ในตลาดยุโรปฟื้นตัว ในขณะที่ของทอดแช่เยือกแข็งเติบโตขึ้น 44% จากการที่อุปสงค์ในตลาดสหรัฐอเมริกายังแข็งแกร่ง ดังนั้นเชื่อว่าจะมีการเติบโตต่อเนื่องในปีนี้ โดยสัดส่วนรายได้จากธุรกิจนี้คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 35-36% และส่วนที่เหลือจะมาจากกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์น้ำประมาณ 10% และที่เหลือมาจากขายทูน่า ซึ่งอาจจะเห็นการลดลงเล็กน้อยจากปีก่อน
*ดันบริษัทย่อยเข้าตลาด
ส่วนอีกทั้งบริษัท เอเชี่ยนอะไลอันซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ AAI ซึ่งประกอบธุรกิจรับจ้างผลิตผลิตภัณฑ์กลุ่มอาหารสัตว์เลี้ยงและทูน่า (จดทะเบียนแปลงสภาพเป็นบริษัทมหาชนเมื่อวันที่ 10 มี.ค. 2565) ได้ยื่นไฟลิ่งเพื่อเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (SET) ต่อสำนักงานก.ล.ต. โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน คาดว่าจะสามารถเข้าจดทะเบียนได้ในช่วงปลายไตรมาส 3/2565 ถึงต้นไตรมาส 4/2565
สำหรับแผนการลงทุนในปี 2565 บริษัทคาดว่าจะใช้งบประมาณ 660 ล้านบาท แบ่งเป็นงบลงทุนในการปรับปรุงประสิทธิภาพและขยายกำลังการผลิตในกลุ่มธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง 520 ล้านบาท เพื่อรองรับคำสั่งซื้อได้มากขึ้น โดยกำลังการผลิตสูงสุดจะเพิ่มเป็น 42,000 ตัน ในไตรมาส 2/2565
สำหรับผลประกอบการไตรมาส 1/2565 มีกำไรสุทธิ 248 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% YoY มีรายได้จากการขายและบริการอยู่ที่ 2,837 ล้านบาท เพิ่มขึ้นราว 35% YoY กลุ่มอาหารสัตว์เลี้ยงรายได้เติบโตสูงมากถึง 63% ในขณะที่กลุ่มอาหารทะเลแช่ เยือกแข็งมียอดขายเติบโตถึง 51% จากผลิตภัณฑ์ในกลุ่มหมึกและของทอดแช่เยือกแข็ง อย่างไรก็ดี กลุ่มอาหารสัตว์น้ำมียอดขายลดลงมากถึง 31% จากนโยบายการปรับสัดส่วนฐานลูกค้า (Customer Portfolio)ไปพร้อมกับการปรับปรุงคุณภาพอาหารปลา ในขณะที่กลุ่มทูน่ายอดขายลดลง 7%
*รับอานิสงส์บาทอ่อน
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ระบุถึง ASIAN ว่า มีมุมมองเป็นบวกต่อผลประกอบการไตรมาส 1/2565 โดยกำไรสุทธิออกมาใกล้เคียงกับที่คาดอยู่ที่ 248 ล้านบาท (เติบโต 15% YoY, ลดลง 6% QoQ โดยยังคงประมาณการกำไรปี 2565 ที่ 1,256 ล้านบาท (+21% YoY) จาก Product Mix ที่ดีขึ้นจากสัดส่วนของอาหารทอดแช่เยือกแข็ง และอาหารสัตว์เลี้ยงที่เพิ่มขึ้น รวมถึงคาดว่าบริษัทจะได้รับประโยชน์จากเงินบาทที่อ่อนค่าในไตรมาส 2/2565 คงคำแนะนำ “ซื้อ ” ที่ราคาเป้าหมายปี 2565 ที่ 22.80 บาท อิง P/E 15 เท่า