เปิดมุมมอง 3 โบรกฯ ส่องกลยุทธ์ลงทุน พร้อมเสิร์ฟหุ้นเด่นวันนี้
ทันหุ้น - บล.คิงส์ฟอร์ด จำกัด มองดัชนี SET ได้ฟื้นตัวจากจุดต่ำสุดราว +3.50% ใกล้แนวต้านบริเวณ 1,620 – 1,630 กอปรติดวันหยุดยาว แนะนำขายทำกำไรราว 20% ของพอร์ต ระหว่างรอผลการประชุมFed, ECB, BOE ในสัปดาห์หน้า
TACC* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 9.50 บาท) แนวโน้มผลประกอบการ 4Q64 เติบโตขึ้นต่อเนื่อง QoQ. YoY ตามการบริโภคที่ฟื้นตัวหลังรัฐผ่อนคลายล็อกดาวน์ ส่งผลให้คนเข้า 7-11 มากขึ้น โดยบริษัทออกเครื่องดื่มโถกดรสชาติใหม่ได้รับการตอบรับที่ดี ขยายช่องทางการขายนอกร้าน 7-11 ส่วนผลิตภัณฑ์กัญชงคาดชัดเจนมากขึ้นในช่วง 2Q65
ASIAN* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 22.20 บาท) หุ้นกลุ่มส่งออกรับปัจจัยหนุนจากเงินบาทที่อ่อนค่า ขณะที่ธุรกิจหลักของ ASIAN* ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงยังเป็นหนึ่งในธุรกิจที่รับความผันผวนได้ดีจากปัจจัย Covid-19 โดยกำไรสุทธิในช่วง 3Q64 ที่ผ่านมาอยู่ที่ 271 ลบ. +34.0%YoY, -7.6%QoQ ยังเติบโตได้ดีจากยอดขายอาหารสัตว์เลี้ยง สำหรับการดำเนินงานช่วงถัดๆไปยังมีความน่าสนใจจาก ภาพรวมอุตสหกรรมธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงโลกที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง รวมถึงแผนที่จะนำบริษัท เอเชี่ยน อะไลอันซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (AAI) เข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปีหน้า ทั้งนี้ตลาดคาด กำไรสุทธิจะเติบโตได้อย่างต่อเนื่องและ EPS ปี64 และ ปี65 จะอยู่ที่ 1.36 บาท/หุ้น, และ 1.49 บาท/หุ้น ตามลำดับ
**บล.ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) คาดแนวโน้มตลาดวันนี้ SET Index แกว่ง Sideways ในกรอบ 1,610-1,625 จุด โฟกัสของตลาดสัปดาห์นี้อยู่การประชุมธนาคารกลางใหญ่ทั่วโลกทั้ง FED ECB BoE โดยไฮไลท์อยู่ที่ FED ซึ่งคาดเร่งลด QE เป็น U$3 หมื่นล้านต่อเดือนและปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วขึ้น ส่วนประเด็นโอมิครอนตลาดเริ่มมองข้ามและไม่ให้น้ำหนักเชิงลบเหมือน 2 สัปดาห์ก่อนจากความรุนแรงที่ต่ำ
ภาพรวมจึงประเมินกลุ่ม Reopening Play จะทยอยฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง กลยุทธ์ระยะกลาง-ยาวเราแนะนำ “ถือลงทุน” ต่อเนื่องที่ให้ทยอยสะสม 2 ระดับ ได้แก่ 1,590-1,600 จุดและ 1,550-1,570 จุด สำหรับ Domestic และ Reopening Play ระยะสั้นเน้นเก็งกำไรหุ้นที่ปรับลงแรงใน 2 สัปดาห์ก่อนและการฟื้นตัวยัง Laggard กลุ่มฯและตลาดโดยรวม
กลยุทธ์ : เลือกลงทุนในหุ้นที่กระทบจาก COVID-19 จำกัด และ Reopening Play ที่ยัง Laggard
หุ้นเด่นเดือนธ.ค. : BCH, JWD, MEGA, NSL, SYNEX
หุ้นเด่นวันนี้: DITTO
• แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 21 บาท
• แนวโน้ม 4Q21 อาจอ่อนตัว Q-Q ตามฤดูกาลแต่ยังโตต่อเนื่อง Y-Y และเป็นหนึ่งผู้ได้ประโยชน์โดยตรงจากเทรนด์ Digital Transformation และ Paperless ในระยะยาว
• เราคาด EPS ปี 2021 +10% Y-Y และเร่งขึ้น +35% Y-Y ในปี 2022 โดยอยู่ระหว่างประมูลงานมูลค่ากว่า 1 พันลบ. และหลายงานจะประกาศผู้ชนะเดือนนี้เป็น Catalyst บวก
• แนวรับ 17-16.80//7.35 บาท แนวต้าน 17.50-17.70//18.50 บาท
**บล.เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน) แนะสัปดาห์นี้เราถือเงินสดไว้ที่ 15% ประเมินกรอบดัชนีฯ สัปดาห์นี้ไว้ที่ 1610-1640 จุด การประชุม FOMC เป็นไฮไลท์หลักของตลาด และติดตามการระบาดของ Omicron สถานการณ์การระบาดของ Omicron ทั่วโลกเริ่มดีขึ้น และจะเป็นสัปดาห์ที่รอดูว่าการระบาดจะจำกัดวงหรือไม่ คาดว่าตลาดหุ้นจะดีขึ้น บวกต่อหุ้นอิงการท่องเที่ยวทั่วโลก อีกทั้งในสัปดาห์นี้รอลุ้นผลการประชุมธนาคารกลางของหลายแห่ง หลัก ๆ จะเป็นการประชุม FOMC และ ECB ที่เป็น Event ใหญ่ส่งท้ายปี คาดว่า Fed จะไม่มีการพูดที่ทำให้ตลาดเกิดเซอร์ไพรส์ หลังจากการประชุมน่าจะมีแรงซื้อหุ้นขนาดใหญ่กลับเข้ามา ขณะที่ ECB มีการปรับนโยบายการเงินไปแล้วก่อนหน้านี้ ในการประชุมครั้งนี้จึงคาดว่าไม่น่าจะมีการออกมาตรการใหม่ ๆ
ตัวแปรในประเทศ คาดว่า ครม. น่าจะมีการพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ที่เกี่ยวข้องกับการใช้จ่าย หุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์ คือ กลุ่มค้าปลีก และรวมไปถึงการออกมาตรการ EV ด้วย ทางด้านของ Flow หากสถานการณ์ Omicron ดีขึ้น และทิศทางนโยบายการเงินชัดเจนขึ้น Flow อาจจะไหลกลับเข้ามาในตลาดเอเซียอีกครั้ง ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตาม ตัวเลขขอรับสวัสดิการว่างงานสหรัฐฯ, ประชุม ECB(16), ประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น, FTSE Rebalancing(17)
หุ้นแนะนำประจำสัปดาห์นี้ คาด Omicron & FOMC จะจบสวย ช่วงสองสัปดาห์ข้างหน้าตลาดจะดี ดัชนีฯมีโอกาสเห็น 1650 หรือ มากกว่านั้น ทำให้ยังคงแนะนำให้ถือหุ้น หรือเลือกเก็บหุ้นเข้าพอร์ตกันต่อ การขึ้นรอบนี้ อาจไม่ได้พากันขึ้นทุกกลุ่ม เราให้น้ำหนักหุ้นเด่น ๆ ของแต่ละกลุ่มอาทิ KBANK, KTB, AOT, PTT, ASIAN รัฐบาลเตรียมมาตรการกระตุ้นการใช้จ่าย (คนมีเงิน) ส่งท้ายปี’21 ดีต่อหุ้นห้างฯ สินค้าไอที ชอบ CRC, COM7 หุ้น 3 ตัวที่ราคาลงมาลึกจนน่าสนใจ SCC, OSP, EASTW พอร์ตหุ้นวันนี้นำ IRPC, WICE, TU ออก และเพิ่ม COM7, XPG* เข้ามาแทน พอร์ตหุ้นประกอบด้วย COM7(10%), XPG*(15%), KTB(10%), TKN(10%), ORI(10%), CRC*(15%), PTT*(15%)
COM7: (เป้าเชิงกลยุทธ์ 82.00 บาท) “คาดยอดขายปลายปีพุ่ง, มาตรการรัฐหนุนการใช้จ่าย”
• ประเมินกำไร 4Q21 โตทั้ง YoY และ QoQแรงซื้อสินค้า IT และ Brand Apple จะเด่นช่วงปลายปี ลุ้นมาตรการรัฐหนุนการใช้จ่าย
• มาร์จิ้นจากการขายปรับตัวดีขึ้นจากการปรับ Product Mix (เพิ่มสัดส่วน Android) ประเมินยอดขายต่อสาขาฟื้นตัวหลังเปิดเมือง
• KTBST ประเมินกำไรสุทธิปี 2021-2022 ที่ 2.46 พัน ลบ. และ 2.9 พัน ลบ. +65%YoY, +18%YoY ตามลำดับ