ASIAN อาหารสัตว์ผงาด มาร์จิ้นเด่นมองเป้า18บ.

ทันหุ้น – ASIAN มั่นใจกลุ่มอาหารสัตว์เลี้ยงมาร์จิ้นสูงโตแรง 32% เดินหน้าเจาะฐานลูกค้าใหม่อัพฐานโกยเงินเพิ่ม เชื่อกำไรขั้นต้นปีนี้ 13-15%ด้านโบรกเกอร์ฟันธงครึ่งหลังกำไรไฉไลรับออเดอร์ขยายตัว กำไรเกินคาด จ่ออัพราคาเป้าใหม่เป็น 18 บาทนายเอกมล ประสพพลสุจริต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงิน บริษัท เอเชี่ยนซี คอร์ปอรเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ASIAN เปิดเผยว่า บริษัทคาดยอดขายปี 2563 ไว้ราว 8.4 พันล้านบาท หลังช่วงครึ่งแรกปีนี้ธุรกิจทำให้ตัวเลขได้แล้วราว 48%ของคาดการณ์ข้างต้น มองทิศทางคำสั่งซื้อ (ออเดอร์) ช่วงครึ่งหลังปีนี้จะออกมาใกล้เคียงกับช่วงครึ่งแรกปีนี้

ทั้งนี้บริษัทคาดธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงซึ่งถือเป็นธุรกิจหลักของ ASIAN มีมาร์จิ้นสูงจะมีทิศทางที่ดีขึ้นอย่างชัดเจนและมียอดขายอยู่ที่ 3.3 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ 2.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 32% ประกอบกับยังได้แรงหนุนจากกลุ่มอาหารสัตว์น้ำคาดว่าจะมียอดขายปีนี้ที่ 1.3 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ 1.1 พันล้านบาท แม้ในกลุ่มธุรกิจทูน่าและอาหารแช่แข็งจะอ่อนตัวลงก็ตามปีนี้มาร์จิ้นตามฝันจากปัจจัยดังกล่าวประกอบกับธุรกิจยังสามารถบริหารจัดการต้นทุนต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงคาดอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Margin) ปี 2563 คงจะเป็นตามเป้าที่ตั้งไว้ราว 13-15% โดยสิ้นไตรมาส 2/2563บริษัทมีกำไรขั้นต้นอยู่ที่ราว 16.6%นอกจากนี้บริษัทยังมีแนวทางทำตลาดลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ เพิ่มเติม เพื่อเสริมรายรับในอนาคต ล่าสุดเมื่อต้นเดือนกันยายน 2563 ที่ผ่านมาบริษัทได้มีการเปิดตัวแบรนด์อาหารสัตว์เลี้ยงใหม่ “Hajiko ฮาจิโกะ” ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์แบรนด์อาหารสุนัขน้องใหม่ หวังเจาะตลาดคนรักสุนัขและสนับสนุนรายได้ของธุรกิจอีกทางหนึ่งสำหรับแนวโน้มค่าเงินบาทที่เคลื่อนไหวอยู่ที่ราว 31.5บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ในปัจจุบัน บริษัทมองไม่ได้มีผลกระทบต่อธุรกิจแต่อย่างใด

เนื่องจากตัวเลขดังกล่าวถือว่าอยู่ในระดับที่ทาง ASIAN ประเมินไว้แล้วสำหรับการบริหารจัดการต้นทุน จึงน่าจะทำให้ภาพรวมธุรกิจเติบโตได้ตามที่วางไว้กำไรเด่นด้านนักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ฝ่ายวิเคราะห์มีมุมมอมเป็นบวกต่อหุ้น ASIAN หลังผลงานในไตรมาส 2/2563 ออกมาดีกว่าที่ฝ่ายวิเคราะห์คาดไว้ ผลมาจากธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงและสัตว์น้ำ โดย ASIAN รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 2/2563 ที่ 300 ล้านบาท เติบโต 1,257%จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ผลมาจากรายได้กลุ่มธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงที่เติบโต 40%ขณะที่ในครึ่งหลังปี 2563ทางฝ่ายวิเคราะห์คาดยังได้ประโยชน์จากความต้องการอาหารสัตว์เลี้ยงที่มีอยู่สูงจากการที่ผู้บริโภคใช้เวลากับสัตว์เลี้ยงและให้อาหารสัตว์เลี้ยงเพิ่มขึ้นรวมถึงความต้องการของผู้บริโภคในด้านของอาหารกระป๋องและ อาหารบรรจุถุง pouch เพราะสถานการณ์โควิดยังคงรุนแรงในต่างประเทศ ซึ่งล้วนสนับสนุนให้คำสั่งซื้อ (ออเดอร์) ของธุรกิจขยายตัวมากขึ้นเล็งอัพเป้าเป็น 18 บ.อย่างไรก็ดี หากทุกอย่างเป็นไปตามที่ประเมินไว้ ทางฝ่ายวิเคราะห์คาดครึ่งหลังปี 2563 แนวโน้มดีกำไรมีโอกาสจะขึ้นไปประมาณ 800 ล้านบาท คิดเป็น EPS ที่ 1.47 บาท ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจริง ทางฝ่ายวิเคราะห์เป้าหมายมีโอกาสปรับไปเป็น 18.00 บาท