ประท้วงต่อต้านทรัมป์ทั่วสหรัฐฯ คาดผู้เข้าร่วมกว่า 20,000 คน

ผู้ประท้วงหลายพันคนรวมตัวกันในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. และเมืองต่าง ๆ ทั่วสหรัฐอเมริกาในวันเสาร์ที่ผ่านมา (5 เม.ย.)โดยเป็นส่วนหนึ่งของการประท้วงกว่า 1,200 ครั้ง ที่คาดว่าจะเป็นการประท้วงในหนึ่งวันที่ใหญ่ที่สุดต่อต้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และเพื่อนร่วมอุดมการณ์อย่าง อีลอน มัสก์ นับตั้งแต่พวกเขาเริ่มดำเนินการอย่างรวดเร็วเพื่อปฏิรูปรัฐบาลและขยายอำนาจของประธานาธิบดี
ผู้ประท้วงจำนวนมากหลั่งไหลมายังพื้นที่หญ้าที่ล้อมรอบอนุสาวรีย์วอชิงตันภายใต้ท้องฟ้าที่มืดครึ้มและฝนตกโปรยปราย ผู้จัดงานกล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์สว่าคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมการชุมนุมที่มอลล์แห่งชาติมากกว่า 20,000 คน โดยผู้คนรอบ ๆ อนุสาวรีย์เริ่มรวมตัวกันมากขึ้นตลอดทั้งวัน บางคนถือธงยูเครน บางคนสวมผ้าคลุมคาฟิยะห์ของปาเลสไตน์และถือป้าย ‘Free Palestine’ ในขณะที่สมาชิกพรรคเดโมแครตจากสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ วิจารณ์นโยบายของทรัมป์บนเวที
กลุ่มนักกิจกรรมประมาณ 150 กลุ่มได้ลงทะเบียนเข้าร่วมการประท้วง ตามข้อมูลจากเว็บไซต์ของงาน การประท้วงจัดขึ้นใน 50 รัฐทั่วสหรัฐอเมริกา รวมถึงในแคนาดาและเม็กซิโก
หลายชั่วโมงก่อนที่การประท้วงในสหรัฐฯ จะเริ่มขึ้น ชาวอเมริกันที่ต่อต้านทรัมป์หลายร้อยคนในยุโรปได้ร่วมการประท้วงเพื่อต่อต้านผู้นำสหรัฐฯ
นอกเหนือจากในกรุงปารีสของฝรั่งเศสแล้ว ยังจัดขึ้นในกรุงเบอร์ลินและนครแฟรงค์เฟิร์ตของเยอรมนี กรุงลิสบอนของโปรตุเกสและกรุงลอนดอนของอังกฤษ การชุมนุมประท้วงยังมีแผนจัดขึ้นในแคนาดาและเม็กซิโกอีกด้วย เพื่อแสดงการคัดค้านการเปลี่ยนโฉมนโยบายต่างประเทศและภายในประเทศของสหรัฐฯ ของประธานาธิบดีทรัมป์
ด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ โพสต์ข้อความในสื่อสังคมออนไลน์ทรูธ โซเชียล ระบุให้ประชาชนยืนหยัดต่อสู้เผชิญปัญหาวุ่นวายทางเศรษฐกิจที่เกิดจากมาตรการทางภาษีศุลกากรตอบโต้ที่เขาประกาศออกมาเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ พร้อมกับให้คำสัญญาว่าจะเกิดผลลัพธ์ครั้งประวัติศาสตร์จากสิ่งที่เขาเรียกว่า การปฏิวัติทางเศรษฐกิจ
การออกมาให้คำมั่นของทรัมป์มีขึ้นหลังเกิดความปั่นป่วนในตลาดการเงินโลก หลังเขาประกาศมาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ เมื่อวันที่ ขณะที่ขีดระดับความกลัวของตลาดหุ้นวอลล์ สตรีท ขึ้นไปอยู่ระดับสูงที่สุดในรอบ 5 ปี ส่วนบรรดาผู้บริหารด้านการเงินต่างแสดงความตกใจและเป็นห่วงเรื่องการเติบโตทางเศรษฐกิจ
มาตรการทางภาษีสินค้านำเข้าของทรัมป์ยังทำให้มูลค่าตลาดหุ้นหายไปนับล้านล้านดอลลาร์ เมื่อนักลงทุนบอกว่ารู้สึกกลัวเรื่องความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจ