อุทยานทับลาน เตือนชาวบ้าน อย่าเพิ่งเข้าป่าหาเห็ด หลังมีเสือโคร่งกัดควายตาย

เมื่อวันที่ 6 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีเกิดเหตุการณ์เสือโคร่งจากเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน ก่อเหตุกัดควายชาวบ้านตายสองตัวในรอบสองสัปดาห์ โดยเหตุการณ์ครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม พบควายแม่ลูกอ่อนมีร่องรอยถูกเสือโคร่งกัดเข้าที่บริเวณขาหลังและก้น ในพื้นที่ป่าตลาดวัว อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าครบุรี ห่างจากแนวเขตอุทยานแห่งชาติทับลานประมาณ 2.5 กิโลเมตร

ส่วนเหตุการณ์ที่สองเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 กันยายน พบควายเพศเมียตัวเต็มวัยท้องแก่ ถูกกัดเข้าที่บริเวณขาหลังและสะโพก ในพื้นที่ป่าคลองนกโกโร่ ในพื้นที่ทำกินของชาวบ้าน ห่างจากแนวเขตอุทยานแห่งชาติทับลานประมาณ 3 กิโลเมตร และห่างจากแหล่งชุมชนประมาณ 3 กิโลเมตร นอกจากนี้ยังมีควายท้องแก่ได้รับบาดเจ็บมีร่องรอยถูกเสือตะปบเข้าที่ขาหลังด้านสายเป็นแผลเหวอะหวะอีกหนึ่งตัวด้วยนั้น

ล่าสุด นายประวัติศาสตร์ จันทร์เทพ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทับลาน มีความเป็นห่วงว่าจะมีประชาชนที่ยังไม่ทราบข่าวอาจจะเดินทางเข้าไปเพื่อหวังจะเก็บหาของป่าโดยเฉพาะเห็ดป่าที่เริ่มออกมาแล้งหลังมีฝนตกต่อเนื่อง ขณะเดียวกันทางเจ้าหน้าที่ก็ยังนำกำลังสามชุดเข้าไปทำการผลักดันเสือให้กลับเข้าสู่ป่า ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้เวลาอีก 1 – 2 วัน

นายประวัติศาสตร์ กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ทางเจ้าหน้าที่ขอประกาศแจ้งเตือนประชาสัมพันธ์ห้ามประชาชนเข้าไปในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ก่อนเป็นการชั่วคราว เพื่อความปลอดภัย เพราะอาจจะเกิดอันตรายได้ โดยจะประชาสัมพันธ์ทั้งในพื้นที่ ทั้งอำเภอครบุรี และอำเภอใกล้เคียง ซึ่งทราบว่ามีประชาชนจากหลายพื้นที่เข้ามาหาเห็ด หาของป่าในพื้นที่ป่าแถบนี้เป็นจำนวนมาก ฉะนั้นหากแจ้งเฉพาะประชาชนในพื้นที่ข่าวก็จะไม่ทั่วถึง ซึ่งอาจจะต้องแจ้งไปถึงจังหวัดใกล้เคียงอย่างบุรีรัมย์ ด้วย

หลังจากนั้นเราก็จะมีมาตรการเพิ่มเติม ซึ่งจะต้องหารือกับทางกรมป่าไม้ เนื่องจากพื้นที่ที่พบซากควายถูกเสือโคร่งทำร้าย อยู่ในพื้นที่เขตป่าสงวนแห่งชาติป่าครบุรี ซึ่งเข้าใจว่าการห้ามประชาชนไม่ให้เข้าไปในพื้นที่ป่านั้นทำได้ยาก ดังนั้นจึงอาจจะมีมาตรการผ่อนคลายได้ส่วนหนึ่ง อย่างเช่นอาจจะเข้าไปได้ แต่ไม่ควรเข้าไปลึก หรือการจัดโซนให้ชุมชนใช้ประโยชน์ได้ เป็นต้น