รู้จัก ไลเกอร์-ไทกอน : ลูกผสมที่(ไม่)สมบูรณ์ กฎหมายไทยคุ้มครองหรือไม่?
เคยสงสัยกันหรือไม่ว่า หากเอาสิงโตและเสือโคร่งมาผสมพันธุ์กัน จะได้ลูกออกมาเป็นอย่างไร? คำตอบคือเราจะได้สัตว์ลูกผสมสุดแปลกที่มีชื่อว่า "ไลเกอร์" (Liger) กับ "ไทกอน" (Tigon) โดยความแตกต่างของทั้งสองชนิดนี้ขึ้นอยู่กับว่าพ่อแม่เป็นสิงโตหรือเสือโคร่ง และนั่นก็ทำให้ลูกที่ออกมามีลักษณะแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดเลยทีเดียว!
ไลเกอร์-ไทกอน: เจ้าป่าเลือดผสม ความยิ่งใหญ่ที่แลกมาด้วยสุขภาพ
ไลเกอร์ มักจะมีขนาดใหญ่กว่าไทกอน เพราะว่า 'เสือโคร่ง' ไม่มียีนที่ควบคุมการเจริญเติบโตเหมือนสิงโต เมื่อผสมพันธุ์เป็นไลเกอร์แล้ว ลูกจะไม่มียีนควบคุมขนาดตัว ทำให้มันเติบโตได้อย่างไม่หยุดยั้งจนมีขนาดมหึมา บ้างก็มีน้ำหนักเท่ากับพ่อกับแม่รวมกันเลยทีเดียว โดยไลเกอร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกชื่อ "เฮอร์คิวลีส" มีน้ำหนักถึง 922 ปอนด์ หรือราว 418 กิโลกรัม
ส่วนไทกอน แม้จะเล็กกว่าไลเกอร์ แต่ก็ใหญ่พอๆ กับพ่อเสือหรือแม่สิงโต ไทกอน เพศผู้มักมีแผงขนเล็กๆ เหมือนสิงโตเพศผู้ แต่สั้นกว่า และมีลายพาดกลอนจากเสือ ถือเป็นการผสมผสานลักษณะเด่นของทั้งสองสายพันธุ์เข้าด้วยกันอย่างลงตัว
อย่างไรก็ตาม ความยิ่งใหญ่ของสัตว์ผสมพันธุ์เหล่านี้ ก็มาพร้อมกับปัญหาสุขภาพตามมาด้วย ซึ่งมักพบในสัตว์ลูกผสมข้ามสายพันธุ์ทั่วไป ทั้งโรคข้ออักเสบ ข้อสะโพกผิดปกติ ปัญหาระบบสืบพันธุ์ และอายุขัยที่สั้นกว่าสัตว์ธรรมดา จนทำให้ไลเกอร์และไทกอนส่วนใหญ่ไม่แข็งแรงพอที่จะอยู่รอดจนโตเป็นตัวเต็มวัย และมีอายุขัยเพียงไม่กี่ปีเท่านั้น
ธรรมชาติ มิเคยสร้าง ไลเกอร์ หรือ ไทกอน เพราะสิงโตกับเสือโคร่ง ไม่เคยอยู่ร่วมถิ่นและผสมพันธุ์กันเอง สัตว์ทั้งสองชนิดมีนิสัยและพฤติกรรมแตกต่างกันมาก ดังนั้น ไลเกอร์ และ ไทกอน ที่พบส่วนใหญ่จึงเป็นฝีมือการผสมเทียมของมนุษย์ทั้งสิ้น บ้างก็เพื่อความบันเทิงในคณะละครสัตว์ บ้างก็หวังผลประโยชน์จากการนำมาจัดแสดง
เมื่อกฎหมายยังไม่พร้อม จริยธรรมต้องนำทาง
ในประเทศไทย ยังไม่มีกฎหมายที่คุ้มครองไลเกอร์และไทกอนโดยเฉพาะ เนื่องจากสัตว์ทั้งสองชนิดนี้เป็นสัตว์ลูกผสมที่เกิดจากการผสมพันธุ์โดยมนุษย์ ไม่ได้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ อย่างไรก็ตาม ไลเกอร์และไทกอนอาจได้รับความคุ้มครองทางอ้อมจากกฎหมายอื่นๆ เช่น พ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ. 2557 ที่คุ้มครองสัตว์จากการถูกเลี้ยงดูอย่างไม่เหมาะสมหรือถูกกระทำให้ได้รับความทุกข์ทรมาน รวมถึงกฎหมายท้องถิ่นที่อาจมีข้อบัญญัติเกี่ยวกับการเลี้ยงสัตว์ครอบคลุมถึงไลเกอร์และไทกอนด้วย
แต่ที่สำคัญกว่ากฎหมาย คือการตระหนักในประเด็นทางจริยธรรมของการผสมพันธุ์สัตว์ข้ามสายพันธุ์เพื่อให้กำเนิดไลเกอร์และไทกอน เนื่องจากสัตว์เหล่านี้มักมีปัญหาด้านสุขภาพและต้องเผชิญกับความท้าทายในการดำรงชีวิตมากกว่าสัตว์ที่เกิดตามธรรมชาติ แม้จะยังไม่มีกฎหมายเฉพาะคุ้มครอง แต่การให้ความสำคัญกับสวัสดิภาพสัตว์และการปฏิบัติต่อพวกมันอย่างมีจริยธรรม ด้วยการเลี้ยงดูอย่างเหมาะสม ให้ได้มีคุณภาพชีวิตที่ดี เป็นสิ่งสำคัญที่สังคมไม่ควรมองข้าม
ไลเกอร์-ไทกอน: ผลพวงจากความอยากรู้อยากเห็นของมนุษย์ สู่คำถามจริยธรรม
การผสมพันธุ์ข้ามสายพันธุ์แบบนี้ จึงถูกตั้งคำถามด้านจริยธรรมขึ้นมา มนุษย์มีสิทธิ์เข้าไปแทรกแซงและสร้างสิ่งมีชีวิตรูปแบบใหม่ตามใจชอบหรือไม่ แค่เพียงเพื่อความสนุกหรือเงินทอง แต่กลับทำให้สัตว์เหล่านั้นต้องทนทุกข์ทรมานจากโรคภัยที่ติดตัวมาแต่กำเนิด สวัสดิภาพของสัตว์เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องคำนึงถึง
ในเมื่อเราไม่สามารถย้อนเวลากลับไปแก้ไขสิ่งที่เกิดขึ้นได้ แต่อย่างน้อยเราก็ควรเรียนรู้จากบทเรียนและไม่ทำซ้ำอีก ปล่อยให้ธรรมชาติดำเนินไปตามครรลองของมัน ปกป้องถิ่นที่อยู่ตามธรรมชาติของสิงโตและเสือโคร่งไม่ให้สูญหาย เพื่อให้พวกมันสามารถสืบเผ่าพันธุ์ของตนเองต่อไปได้ นั่นคือสิ่งที่เราควรทำเพื่อชดเชยความผิดพลาดในอดีต เพื่อให้เจ้าป่าทั้งสององค์ได้อยู่คู่กับผืนป่าตลอดไป
เรียบเรียงโดย ยศไกร รัตนบรรเทิง บรรณาธิการ TNN
อ้างอิง
ประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช