โลกอาจไร้ “สัตว์ป่า” หากมนุษย์ไม่หยุดทำลายธรรมชาติ

“มาร์กอต แร็กเก็ตต์” ช่างภาพสัตว์ป่าชื่อดัง เตือนว่า ภูมิทัศน์ของโลกอาจเงียบเหงาไร้สัตว์ป่าหากมนุษย์ยังเดินหน้าทำลายสิ่งแวดล้อมและละเลยการปกป้องธรรมชาติ

“แร็กเก็ตต์” ผู้ก่อตั้งโครงการ “Remembering Wildlife” ซึ่งเป็นชุดหนังสือภาพสัตว์ป่าที่ไม่แสวงหากำไร และระดมเงินสนับสนุนการอนุรักษ์สัตว์ป่ากว่า 1.2 ล้านปอนด์ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา เผยว่า การเปลี่ยนแปลงด้านสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทำให้เธอกังวลเกี่ยวกับอนาคตของโลก “เรารู้สึกเหมือนก้าวถอยหลัง” เธอกล่าว

โครงการ Remembering Wildlife จัดทำหนังสือภาพสัตว์ป่ารายปี เพื่อแสดงภาพสัตว์จากช่างภาพชื่อดังระดับโลก โดยปีนี้ได้เผยแพร่หนังสือชุด Ten Years of Remembering Wildlife พร้อมภาพสัตว์หลายชนิด ทั้งหมีขั้วโลก เสือชีตาห์ และลิ่น ซึ่งมีการตัดภาพสัตว์ออกจากภูมิทัศน์เดิม เพื่อให้เห็นภาพอนาคตหากโลกยังคงเดินหน้าทำลายธรรมชาติ

แร็กเก็ตต์ระบุว่าภาพเหล่านี้ตั้งใจให้เป็นสิ่งที่กระตุ้นความตระหนักรู้ต่อการลดลงของสัตว์ป่าอย่างรวดเร็ว และสะท้อนความเสี่ยงที่ภูมิทัศน์ทั่วโลกอาจปราศจากสัตว์ป่า หากมนุษย์ไม่เร่งดำเนินมาตรการปกป้อง แม้เธอจะทำงานเกือบทั้งหมดในต่างประเทศ เช่น เคนยา แทนซาเนีย และภูฏาน แร็กเก็ตต์ก็แสดงความกังวลต่อสถานการณ์ใกล้บ้าน โดยเฉพาะนโยบายของรัฐบาลสหราชอาณาจักรที่ตั้งเป้าสร้างบ้านใหม่ 1.5 ล้านหลังในช่วงสมัยการปกครองแรก และมีแนวทางเร่งรัดอนุมัติแผนพัฒนาที่ดินในอังกฤษ ซึ่งสร้างความกังวลแก่กลุ่มนักอนุรักษ์

เธอเรียกร้องให้รัฐบาลหยุดชะงักและทบทวนนโยบายการสร้างบ้านอย่างเร่งด่วน เนื่องจากทุกสายพันธุ์มีบทบาทสำคัญในระบบนิเวศ การทำลายพื้นที่ธรรมชาติอาจลดความสามารถของต้นไม้ในการดูดซับคาร์บอนและทำลายความสมดุลของระบบนิเวศ

แรงบันดาลใจในการตั้งโครงการ Remembering Wildlife ของแร็กเก็ตต์ มาจากเหตุการณ์ที่เธอพบช้างถูกล่าสัตว์ในเคนยา ช้างตัวนั้นถูกยิงด้วยลูกศรพิษและถูกหมาป่ากินต่อ ซึ่งทำให้เธอรู้สึกสิ้นหวัง แต่ตัดสินใจลงมือช่วยเหลือสัตว์ป่า

แร็กเก็ตต์ยังกล่าวถึงความพยายามในการปราบปรามการล่าสัตว์ผิดกฎหมายว่า แม้บางส่วนจะได้ผล เช่น การที่จีนห้ามค้าซากงาช้าง แต่ปัญหายังคงแพร่หลาย โดยเฉพาะในเอเชียที่มีการใช้ผลิตภัณฑ์จากสัตว์ป่าในการแพทย์แผนโบราณ

เธอยังรำลึกถึง “เจน กูดดอลล์” นักสัตววิทยา มานุษยวิทยาและวานรวิทยาชาวอังกฤษ ระดับโลกที่เพิ่งเสียชีวิตเมื่อเดือนตุลาคม 2568 ว่าเป็นแรงบันดาลใจและแบบอย่างด้านความมุ่งมั่นในการอนุรักษ์สัตว์ป่า แสดงให้เห็นถึงมรดกอันยิ่งใหญ่ของความรู้ ความมุ่งมั่น และความถ่อมตัวในการทำงานเพื่อสิ่งแวดล้อม

แร็กเก็ตต์ย้ำว่า แม้ว่าจะมีความหวั่นวิตกเกี่ยวกับอนาคต แต่ก็ยังมีกำลังใจจากผู้คนอีกมากที่ห่วงใยและพร้อมร่วมมือในการอนุรักษ์สัตว์ป่า และยืนยันว่าคนรุ่นใหม่จะเป็นตัวกำหนดว่าโลกจะยังคงมีสัตว์ป่าอยู่หรือไม่