ทำไม Microsoft ในจีน สั่งแบน Android และให้พนักงานใช้แค่ iPhone ?
ข่าวความเคลื่อนไหวที่น่าจับตามองอีกเรื่องในวงการเทคโนโลยีโลก คือการที่บริษัทเทคยักษ์ใหญ่อย่างไมโครซอฟต์ (Mocrosoft) ในประเทศจีน ประกาศสั่งห้ามพนักงานใช้สมาร์ตโฟนระบบปฏิบัติการณ์แอนดรอยด์ (Android) และให้เปลี่ยนไปใช้แค่ไอโฟน (iPhone) เท่านั้น มาตรการนี้เริ่มใช้ในเดือนกันยายน 2024 นี้ ตามการรายงานของสำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg)
คำถามคือ ทำไม Microsoft จึงเคลื่อนไหวในทิศทางนี้ ?
เว็บไซต์บิสซิเนส อินไซเดอร์ (Business Insider) เผยว่า เหตุผลหลักคือเป็นในเรื่องการยกระดับความปลอดภัยต่อการป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์ เนื่องจากก่อนหน้านี้ Microsoft โดนแฮกเกอร์โจมตีหลายครั้ง เช่น เมื่อเดือนเมษายน 2024 แฮกเกอร์จากรัสเซียและจีนพบช่องโหว่ด้านความปลอดภัยของ Microsoft ทำให้กลุ่มแฮกเกอร์จากรัสเซียที่ชื่อว่า มิดไนต์ บลิซซาร์ด (Midnight Blizzard) สามารถเข้าถึงเครือข่ายองค์กรของ Microsoft ได้เป็นระยะเวลา 1 เดือน และสามารถเข้าถึงข้อมูลที่เก็บซอร์สโค้ดและระบบภายใน
รวมไปถึงเมื่อเดือนมีนาคม 2023 คณะกรรมการพิจารณาความปลอดภัยทางไซเบอร์ของสหรัฐฯ (US Cyber Safety Review Board : CSRB) ก็ได้เผยแพร่รายงานที่พบว่า Microsoft มีจุดบกพร่องด้านความปลอดภัยหลายจุด โดย CSRB พบว่าเมื่อปีที่แล้ว แฮกเกอร์สามารถเข้าถึงบริการอีเมลบนคลาวด์ของไมโครซอฟต์ (Microsoft Exchange Online mailboxes) ได้ และส่งผลกระทบต่ออีเมลส่วนตัวของพนักงานขององค์กรอื่น ๆ กว่า 22 องค์กร โดยเฉพาะอย่างยิ่งพบว่า แฮกเกอร์สามารถดาวน์โหลดอีเมลจากกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ ไปได้มากถึง 60,000 ฉบับ
และเหตุการณ์ต่าง ๆ เหล่านี้ ก็ทำให้ Microsoft จำเป็นที่จะต้องยกระดับความปลอดภัย โดยเมื่อปลายปีที่แล้ว ได้ประกาศมาตรการที่เรียกว่า การริเริ่มความปลอดภัยแห่งอนาคตของไมโครซอฟต์ (Microsoft Secure Future Initiative) โดยจะเป็นการมุ่งพัฒนาทางด้านวิศวกรรมใน 3 ด้าน คือ 1. การพัฒนาด้านซอฟต์แวร์ 2. การใช้การป้องกันตัวตนแบบใหม่ 3. กระบวนการตอบสนองต่อช่องโหว่อย่างรวดเร็ว
โฆษกของ Microsoft ได้ให้สัมภาษณ์กับ Business Insider เมื่อเดือนเมษายนว่า “เหตุการณ์ล่าสุดได้แสดงให้เห็นถึงความจำเป็นในการสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางวิศวกรรมใหม่แก่องค์กรของเรา”
ในขณะที่เมื่อเดือนพฤษภาคม Microsoft ก็ได้ประกาศว่า จะขยายขอบเขตของมาตรการ Secure Future Initiative โดยจะยกระดับมาตรการด้านความปลอดภัย รวมถึงการป้องกันการเข้าถึงบัญชีด้วยการให้ยืนยันตัวตนแบบหลายปัจจัย (Multifactor Authentication) เพื่อป้องกันการฟิชชิ่ง (Phishing) หรือก็คือการที่แฮกเกอร์หลอกล่อเอาข้อมูล เช่น ยูสเซอร์เนม, พาสเวิร์ด, หมายเลขบัตรเครดิต (ส่วนใหญ่ปลอมเป็นเจ้าหน้าที่ที่น่าเชื่อถือ) จากนั้นพยายามเข้าถึงบัญชีส่วนตัว
ทั้งนี้สื่อ Business Insider ได้ติดต่อไปยังตัวแทนของ Microsoft เพื่อสอบถามความคิดเห็นหลังการเคลื่อนไหวสั่งแบน Android และให้ใช้เฉพาะ iPhone ครั้งนี้แล้ว แต่ทาง Microsoft ยังไม่มีการตอบสนองแต่อย่างใด
ที่มาข้อมูล BusinessInsider, TechSpot
ที่มารูปภาพ Reuters