ASK โค้งแรกสินเชื่อดีโต20% น้ำมันพุ่งมีแผนช่วยลูกค้า
ข่าววันนี้ ASK คาดยอดปล่อยสินเชื่อใหม่ไตรมาส 1/65 โต 20% หลังเห็นความต้องการรถบรรทุกขยายตัวต่อเนื่อง วางเป้าปล่อยสินเชื่อใหม่ปี 65 ไม่น้อยกว่า 3.6-3.8 หมื่นล้านบาท คุมเข้ม NPL ต่ำระดับ 3%วางแผนช่วยลูกค้าที่กระทบราคาน้ำมันพุ่งขยายระยะเวลาผ่อนชำระ
นายดนัย ลาภาวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่การเงิน บริษัท เอเซียเสริมกิจลีสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ ASK เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจในช่วงไตรมาส 1/2565 เชื่อว่าจะมีการเติบโตที่ดีได้ตามเป้าหมายไม่น้อยกว่า 20%เมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อน และคาดว่าจะมีการขยายตัวได้ดีอย่างต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากมองเห็นถึงความต้องการสินเชื่อโดยเฉพาะรถบรรทุกเพื่อการขนส่งยังคงมีการขยายตัวที่ดี ทำให้ยอดการปล่อยสินเชื่อใหม่ (New Loan) ช่วง 2 เดือนแรกปีนี้เพิ่มขึ้น
พอร์ตโต20%
ทั้งนี้ ในปี 2565 บริษัทวางเป้าหมายยอด New Loan และพอร์ตสินเชื่อคงค้าง เติบโตไม่ต่ำกว่า 20% หรืออยู่ที่ระดับเฉลี่ยไม่น้อยกว่า 37,000-38,000 ล้านบาท และ 66,000-67,000 ล้านบาท ตามลำดับ จากสิ้นปี 2564 ที่มียอดNew Loan อยู่ที่ 30,844 ล้านบาท และพอร์ตสินเชื่อคงค้าง 55,729 ล้านบาท นอกจากนี้ จากการเพิ่มไลน์ผลิตภัณฑ์สินเชื่อใหม่ โดยเฉพาะสินเชื่อจำนำทะเบียนรถแบบที่โอนเล่ม และไม่โอนเล่ม เบื้องต้นคาดว่าจะมียอด New Loan ในปีนี้อยู่ที่ราว 2,500-2,700ล้านบาท และมีสัดส่วนในพอร์ตคงค้างอยู่ที่ประมาณ 4,000 ล้านบาท
ขณะที่ธุรกิจนายหน้าประกันโดยจะพ่วงไปกับการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อ (Hire Purchase) ที่มีขนาดพอร์ตใหญ่กว่า 90% ของพอร์ตสินเชื่อรวม แบ่งเป็นยอดสินเชื่อรถบรรทุก 63% รถยนต์ 10% เครื่องจักร 9% และอื่นๆ 18% เป็นต้น ในปีนี้ยังคงมีแนวโน้มที่จะขยายตัวเพิ่มขึ้นได้อีกมาก เพราะมองว่าความต้องการโดยเฉพาะรถบรรทุกเพื่อการขนส่งยังมีโอกาสขยายตัว สอดคล้องตามการเติบโตของอีคอมเมิร์ซ อีกทั้งด้วยปัจจัยราคาสินค้าภาคเกษตรปรับตัวเพิ่มขึ้น ทำให้คาดว่ากลุ่มเกษตรจะฟื้นตัว
ส่วนการบริหารจัดการหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ในปี 2565 นั้น บริษัทจะควบคุมให้อยู่ที่ไม่เกิน 3% จากสิ้นปี 2564 ที่ระดับ 2.71% และมี Credit cost ไม่เกิน 2% จากปีก่อนที่ระดับ 1.68%สำหรับกลุ่มลูกหนี้ที่เข้าร่วมโครงการเยียวยาจากภาครัฐตามที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 คิดเป็นมูลค่าประมาณ 10,000 ล้านบาทของพอร์ตรวมในปัจจุบัน ขณะที่แผนการลงทุนในปีนี้นั้น บริษัทอาจยังไม่มีการเปิดสาขาใหม่เพิ่มเติม จากปัจจุบันที่มี 17 สาขา เพราะมองว่าสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ยังคงมีความไม่แน่นอน
น้ำมันพุ่งกระทบฐานลูกค้า
ประเด็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันโลกนั้น มองว่ายังคงมีความไม่แน่นอนอยู่มาก เนื่องจากสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนยังคงไม่สามารถหาข้อยุติร่วมกันได้ แม้ว่าที่ผ่านมาภาครัฐไทยจะมีการตึงราคาน้ำมันดีเซลไว้ที่ 30 บาท แต่ก็มองว่าอาจจะตึงได้อีกไม่นาน ซึ่งท้ายที่สุดผลกระทบก็จะเกิดขึ้นกับกลุ่มลูกค้าของบริษัท เพราะต้นทุนน้ำมันคิดเป็นกว่า 20-30% ของต้นทุนรวม ดังนั้นบริษัทจึงได้วางแผนที่จะช่วยเหลือลูกค้าด้วยการขยายระยะเวลาในการผ่อนชำระจากเดิม 5ปี เพิ่มเป็น 6ปี
"ในปีนี้เรายังมองว่าความต้องการสินเชื่อเพื่อดำเนินธุรกิจยังคงมีอยู่อีกมาก โดยเรายังคงมุงเน้นการให้สินเชื่อรถบรรทุกเป็นหลักอยู่ อย่างไรก็ดี ปีนี้เราค่อนข้างเป็นห่วงเรื่องของราคาน้ำมันเพราะเป็นต้นทุนหลักของลูกค้า ซึ่งเราก็มีนโยบายช่วยเหลือลูกค้าอย่างต่อเนื่อง"นายดนัย กล่าว