หางานต่างประเทศ! ระวังถูกหลอกไปขายบริการ แนะ 5 วิธีถูกกฎหมาย
รัฐบาลเตือน "หางานต่างประเทศ" โดยเฉพาะสื่อช่องทางสังคมออนไลน์ ระวังถูกหลอกไปขายบริการ แนะ 5 วิธีถูกกฎหมาย
นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ประชาสัมพันธ์เตือนผู้ที่กำลังหางาน พึงระวังและอย่าหลงเชื่อขบวนการหลอกลวงคนไทยไปทำงานในต่างประเทศ ผ่านช่องทางต่าง ๆ โดยเฉพาะสื่อช่องทางสังคมออนไลน์ แม้ได้มีการเตือนเป็นระยะๆ แต่ยังพบว่ามีคนไทยถูกหลอกอยู่
ล่าสุด สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้ง ได้ประกาศเตือนคนไทย เน้นย้ำอีกครั้ง “อย่าหลงเชื่องาน PR เมืองป๊อก เมืองลา เล้าไก่ มูเซ ในเมียนมา อ้างรายได้หลักแสน อาจโดนหลอก! ความจริงโดนบังคับขายบริการ โดนบังคับเสพยา ติดหนี้ โดนยึดพาสปอร์ต กลับไทยไม่ได้ ถูกขายต่อ!”
ขณะที่ กระทรวงแรงงานเองก็ได้รับรายงานจากฝ่ายแรงงานประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเตส์ ว่ามีผู้เสียหายจากกรณีถูกสาย-นายหน้าเถื่อน โฆษณาชักชวนไปทำงานในประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ทางสื่อออนไลน์ ชักชวนให้ไปทำงาน โดยอ้างว่ามีรายได้ดี และจะเป็นผู้จัดการเรื่องค่าใช้จ่ายในการเดินทาง โดยเมื่อผู้เสียคนหายหลงเชื่อ และเดินทางไปถึงจะถูกให้เซ็นสัญญาการรับสภาพหนี้ และพาไปทำงานอื่นที่ไม่ได้ตกลงไว้ พร้อมยังยึดหนังสือเดินทางไว้เพื่อไม่ให้หนี
ทั้งนี้ กรมการจัดหางานได้ระบุ 5 วิธี การเดินทางไปทำงานต่างประเทศอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ได้แก่
1. กรมการจัดหางานจัดส่ง
2. บริษัทจัดหางานจัดส่ง
3. นายจ้างในประเทศไทยพาลูกจ้างไปทำงานต่างประเทศ
4. นายจ้างในประเทศไทยส่งลูกจ้างไปฝึกงานต่างประเทศ
5. คนหางานแจ้งการเดินทางไปทำงานต่างประเทศด้วยตนเอง ในกรณีของไต้หวัน มักเป็นการไปทำงานโดยบริษัทจัดหางานที่ได้รับอนุญาตจากกรมการจัดหางานเป็นผู้จัดส่ง
ขอให้คนหางานตรวจสอบรายชื่อบริษัทจัดหางานที่ได้รับอนุญาต ทาง www.doe.go.th/ipd
รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ แม้เคยมีการออกข่าวประชาสัมพันธ์เตือนประชาชนแล้ว แต่ยังเป็นประเด็นที่เป็นปัญหาอยู่ นายกรัฐมนตรีได้สั่งการทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำงาน และประสานงานกันอย่างใกล้ชิด เพื่อการคุ้มครองประชาชนไม่ให้ถูกหลอกลวง และเอารัดเอาเปรียบ ขอให้ผู้ที่สนใจจะเดินทางไปทำงานต่างประเทศนั้นติดต่อโดยตรงกับกรมการจัดหางาน หรือสำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกแห่ง หรือสามารถติดต่อ สถานเอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศนั้น ๆ เพื่อความปลอดภัยและป้องกันการถูกหลอกลวง
ที่มา เว็บรัฐบาล
ภาพจาก AFP