"ตร." เรียกหนุ่มคนสนิทสอบปากคำ ลังคู่ขาหายตัวลึกลับหลายวัน แม่สงสัยถูกทำร้าย
เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 2564 ความคืบหน้ากรณี นายณัฎฐกรณ์ หรือต่อ ฉะนำกลาง อายุ 38 ปี ชาว ต.เจริญสุข อ.เฉลิมพระเกียรติ หายตัวไปอย่างลึกลับ ตั้งแต่วันที่ 3 ธ.ค.ที่ผ่านมา แม่และญาติคิดว่าไปอยู่กับเพื่อนชายคนสนิทต่างอำเภอ
อย่างไรก็ตามเมื่อวันที่ 12 ธ.ค. มีชาวบ้านที่ไปหาเก็บเห็ดบนเขาอังคาร เห็นรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นฟิราโน่ สีเหลือง หมายเลขทะเบียน 1 กค 6092 บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นรถของนายต่อ ที่หายตัวไป จอดทิ้งไว้ในป่าด้านทิศตะวันตกของหมู่บ้านเจริญสุข เขตรอยต่อบ้านถาวร ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 2 กิโลเมตร ทำให้แม่และญาติติดต่อเจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือและเริ่มทำการค้นหา กระทั่งมีคลิประทึกระหว่างการทำพิธีเบิกป่า เพื่อขอให้เจอคนที่สูญหาย เนื่องจากญาตินายต่อ เห็นภาพของนายต่อ เดินออกมาจากป่าพุ่งมาหาตัวเอง ก่อนจะเสียงหวีดร้องวิ่งหนีชุลมุน
ล่าสุด ร.ต.อ.ชัยรัตน์ บุญชู รองสารวัตร(สอบสวน)สภ.เฉลิมพระเกียรติ อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ได้เชิญตัวนายจารุพันธ์ หรือต้น ตรวจมรรคา อายุ 33 ปี เลขที่ 85/1 ม.9 ต.โคกว่าน อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ คู่รักแบบชายรักชาย มาให้ปากคำ เพื่อหาข้อมูลของการหายตัวไปของนายต่อ
โดยนายต้น ให้การว่า ตนกับต่อ รักกันมานานกว่า 2 ปี ต้นมักจะมานอนค้างที่บ้านเป็นประจำ เมื่อประมาณ 4-5 เดือนที่ผ่านมา ต้นปฏิเสธการร่วมรัก ตนคิดว่าต้น น่าจะมีชายใหม่
ต่อมาตนได้รู้จักชายอีกคนอยู่ อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ กระทั่งมีการนัดหมายจะมาเปิดห้องที่ อ.เฉลิมพระเกียรติ เมื่อต่อทราบเรื่อง ได้ขอตามมาด้วย หวังจะสวิงกิ้งร่วมกัน 3 คน เมื่อมาเจอหน้ากัน ต้นไม่ชอบชายที่มาจากสุรินทร์ จึงเปิดห้องแยกกันโดยให้ชายที่มาจากสุรินทร์ เปิดห้องนอนคนเดียวต่างหาก เช้ามาหนุ่มสุรินทร์ ก็เดินทางกลับ ส่วนต่อไปนอนที่บ้านตน
เมื่อวันที่ 6 ธ.ค.ตนกับต่อ ทะเลาะกันอย่างรุนแรง เรื่องหึงหวง ตนจึงไล่ต่อ ออกจากบ้าน พร้อมกับเก็บข้าวของไปด้วย โดยต่อได้เก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าแล้วออกจากบ้านไป แล้วไม่ได้ติดต่อกันอีกเลยกระทั่งมาทราบว่า หายตัวไปดังกล่าว ส่วนตัวยังรักและเป็นห่วง ถ้ายังมีชีวิตอยู่ขอให้กลับบ้าน
ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านของนายต่อ พบนางปภาดา ฉะนำกลาง อายุ 61 ปี โดยแม่ของนายต่อ เล่าว่า ตอนนี้ตนสงสัยนายต้น เพื่อนของลูกชาย เพราะเคยทำร้ายเป็นประจำ จึงอยากให้ตำรวจเร่งติดตามหาตัวลูกชายมาโดยเร็ว เพราะจะได้กระจ่าง