รีเซต

ไขปริศนา "หวังชิง" หายตัว! จากสุวรรณภูมิ สู่เมียนมา เกิดอะไรขึ้น?

ไขปริศนา "หวังชิง" หายตัว! จากสุวรรณภูมิ สู่เมียนมา เกิดอะไรขึ้น?
TNN ช่อง16
7 มกราคม 2568 ( 18:28 )
38

คดี "“ซิงซิง” " บนเส้นแบ่งแดนไทย-เมียนมา


ต้นเดือนมกราคม 2568 เรื่องราวการหายตัวไปของ "หวังชิง" หรือ "ซิงซิง" นักแสดงหนุ่มชาวจีนที่มีผลงานเป็นที่รู้จักจากซีรีส์ "นักจิตวิทยาหญิง" และ "สื่อรักปีศาจจิ้งจอก" กลายเป็นกระแสที่จุดประกายคำถามถึงความปลอดภัยและการค้ามนุษย์บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา


จุดเริ่มต้น: การเดินทางที่กลายเป็นปริศนา


คืนวันที่ 2 มกราคม 2568 เวลา 21.00 น. "หวังชิง" ออกเดินทางจากสนามบินผู่ตง ประเทศจีน มุ่งหน้าสู่ประเทศไทย โดยเขาเดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิในวันที่ 3 มกราคม เวลา 03.00 น. การเดินทางครั้งนี้เริ่มต้นจากการติดต่อให้มาแคสบท ทันทีที่ถึงสนามบิน มีชายขับรถเก๋งมารับตัวไป โดยหวังชิงจ่ายค่าเดินทาง 5,000 บาท


ไทม์ไลน์การเดินทางของหวังชิง จากสุวรรณภูมิสู่ชายแดน


วันที่ 2 มกราคม 2568

- หวังชิง ออกเดินทางจากสนามบินผู่ตง ประเทศจีน


วันที่ 3 มกราคม 2568

- 03.00 น. - หวังชิงถึงประเทศไทย ที่สนามบินสุวรรณภูมิ จากนั้นมีชายขับรถเก๋งมารับตัว

- 07.00 น. - กล้องของตำรวจทางหลวงสามารถจับภาพรถเก๋งที่ขับพาหวังชิงเดินทางถึงจังหวัดชัยนาท

- 10.00 น. - รถเก๋งคันดังกล่าวพาหวังชิงผ่านด่านห้วยยะอุ ตำบลด่านแม่ละเมา อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก

- 11.00 น. - หวังชิงขาดการติดต่อกับเจียเจีย หลังก่อนหน้านี้ยังสามารถติดต่อกับเจียเจียได้ตั้งแต่ช่วงเช้า จนกระทั่งหวังชิงส่งพิกัดสุดท้ายมาให้ระบุว่าอยู่บริเวณชายแดนแม่สอด จังหวัดตาก ก่อนขาดการติดต่อไป


หมายเหตุ: โฆษก ตร.พบข้อมูลทางชุดสืบสวนว่า หวังชิงเข้าพักในพื้นที่อำเภอแม่สอด เป็นระยะเวลา 1 วัน ก่อนที่จะหายตัวไป และพล.ต.ต.สัมฤทธิ์ เอมกมล ผบก.จว.ตาก ยืนยันว่าหวังชิงว่าจ้างรถเพื่อเดินทางไปอำเภอแม่สอดด้วยเงิน 5,000 บาท


การค้นหาและการสืบสวน


วันที่ 5 มกราคม "เจียเจีย" แฟนสาวของหวังชิง โพสต์ขอความช่วยเหลือผ่านเว่ยป๋อ (Weibo) เปิดเผยว่ามีคนอ้างเป็นตัวแทนค่ายบันเทิงใหญ่ของไทยติดต่อหวังชิงมาแคสบท เธอกังวลว่าแฟนหนุ่มอาจตกเป็นเหยื่อการหลอกลวง จึงได้ติดต่อสำนักงานความมั่นคงเซี่ยงไฮ้ สถานทูตจีนในไทย และสถานกงสุลใหญ่จีนในเชียงใหม่


วันที่ 6 มกราคม เจียเจียเดินทางมาถึงประเทศไทยและเข้าแจ้งความที่ สภ.สุวรรณภูมิ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) ตรวจสอบและยืนยันการเข้าประเทศของหวังชิงผ่านระบบไบโอเมตริกซ์ พร้อมทั้งพบว่าเขาได้เข้าพักในพื้นที่แม่สอดหนึ่งวันก่อนหายตัวไป


พบตัวในพม่า ความจริงที่รอการเปิดเผย


วันที่ 7 มกราคม 2568 พ.ต.หม่องวิน รองผู้บัญชาการกองกำลังพิทักษ์ชายแดน (BGF) รายงานว่าพบตัวหวังชิงที่เมืองชเวโก๊กโก่ ฝั่งเมียนมา โดยเขาให้การว่ามาเยี่ยมญาติ ทางการเมียนมาส่งตัวกลับฝั่งไทยผ่านสะพานมิตรภาพไทย-พม่า แห่งที่ 1


หลังทางการเมียนมาส่งตัวเขากลับมาฝั่งไทยผ่านสะพานมิตรภาพไทย-พม่า แห่งที่ 1 โดยพล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร เปิดเผยว่า แม้จากการสอบปากคำคนขับรถและพยานแวดล้อมจะไม่พบว่าหวังชิงถูกบังคับ เนื่องจากเป็นผู้ว่าจ้างรถด้วยตนเองและผ่านด่านตรวจถึง 3 ด่าน แต่ทางเจ้าหน้าที่ยังต้องสอบคัดแยกอย่างละเอียดว่าเป็นการเดินทางสมัครใจหรือตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์


ประเด็นที่น่าสนใจคือ น้องชายของหวังชิงได้แจ้งความกับตำรวจเซี่ยงไฮ้ว่าพี่ชายถูกหลอกให้มาทำงานบริเวณชายแดนไทย-เมียนมา และการที่เขาข้ามไปยังเมืองเมียวดีซึ่งเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ มีทั้งกาสิโนและคอมเพล็กซ์ของกลุ่มจีนเทา ภายใต้การดูแลของกลุ่มกะเหรี่ยง ยิ่งเพิ่มความน่าสงสัยให้กับคดีนี้ ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังเร่งสอบสวนเพื่อหาจุดประสงค์ที่แท้จริงของการเดินทางครั้งนี้ ก่อนส่งตัวให้สถานทูตจีนและญาติดำเนินการต่อไป   


การหายตัวไปของหวังชิงไม่ได้เพียงแค่สร้างความสนใจในเรื่องส่วนตัวของคนดัง แต่ยังสะท้อนถึงปัญหาในพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมาที่เต็มไปด้วยเงื่อนไขของความท้าทาย ทั้งเรื่องความปลอดภัย ความเปราะบางของพื้นที่ และกิจกรรมผิดกฎหมาย การข้ามพรมแดนอย่างลับๆ อาจเป็นเพียงยอดภูเขาน้ำแข็งของปรากฏการณ์ที่กว้างกว่า


—คำถามสำคัญคือ เราจะป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีกได้อย่างไร?


ภาพ 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง