สำรวจ “โมซัมบิก” ขุมทรัพยากรแห่งแอฟริกา โอกาสการลงทุนแห่งอนาคตของไทย

“โมซับบิก” ชื่อนี้อาจไม่คุ้นหูคนไทยนัก แต่ถ้าหากเอ่ยถึงดินแดนแอฟริกาที่เต็มไปด้วยอัญมณี โมซัมบิก คือ หนึ่งในประเทศที่น่าจับมองที่สุดในทวีป
ความมั่งคั่งจากธรรมชาติ ผสานกับการพัฒนาที่รวดเร็ว ทำให้โมซัมบิกกลายเป็นหนึ่งในโอกาสใหม่ของไทยบนดินแดนแอฟริกา
“โมซัมบิก” ชาติอัญมณีแห่งแอฟริกา
สาธารณรัฐโมซัมบิก ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของทวีปแอฟริกา พรมแดนติดแทนซาเนีย, มาลาวี, แซมเบีย, ซิมบับเว เอสวาตีนี และแอฟริกาใต้ ติดชายฝั่งมหาสมุทรอินเดีย
มีพื้นที่ 799,380 ตารางกิโลเมตร มีประชากรราว 34.8 ล้านคน เมืองหลวงคือ กรุงมาปูโต
โมซัมบิก ขึ้นชื่อว่า เป็นดินแดนแห่งอัญมณีของแอฟริกา เพราะมีทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ เช่น ถ่านหิน ก๊าซธรรมชาติ อัญมณี และแร่ต่าง ๆ เป็นแหล่งประมงนอกน่านน้ำ มีชายฝั่งทะเลยาวกว่า 2,400 กิโลเมตร
ข้อมูลจากกระทรวงการต่างประเทศ ระบุว่า โมซัมบิกอยู่ภายใต้อาณานิคมของโปรตุเกส ตั้งแต่ปี 1498 ก่อนจะได้รับเอกราชเมื่อปี 1975 จึงทำให้ภาษาโปรตุเกส เป็นภาษาราชการของประเทศ
ขณะเดียวกัน โมซัมบิกก็มีภาษากลุ่มชาติพันธุ์ต่าง ๆ ด้วย เช่น ภาษามาคูวา, เซนา, ลอมเว และซองกา เป็นต้น
คู่ค้าคนสำคัญของไทย
แม้จะเป็นประเทศที่เพิ่งก่อตั้งได้เพียง 50 ปี แต่โมซัมบิกก็มีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอย่างรวดเร็วและมีศักยภาพทางเศรษฐกิจสูงที่สุดประเทศหนึ่ง ในภูมิภาคแอฟริกาตอนใต้ นั่นจึงทำให้ไทยมองเห็นถึงโอกาสการลงทุนแห่งอนาคต
ปี 2567 โมซัมบิกเป็นประเทศคู่ค้าอันดับที่ 7 ของประเทศไทยในภูมิภาคแอฟริกา และอันดับที่ 58 ในโลก มีมูลค่าการค้ารวม 587.74 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ปัจจุบันไทยมีมูลค่าการลงทุนในสาธารณรัฐโมซัมบิกประมาณ 4,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นมูลค่าการลงทุนของไทยที่สูงที่สุดในภูมิภาคแอฟริกา
สรจักร บูรณะสัมฤทธิ เอกอัครราชทูต ณ กรุงมาปูโต กล่าว ประเทศโมซัมบิกเป็นประเทศที่มีทรัพยากรสำคัญ และโดดเด่นขึ้นมาในช่วง 10-15 ปีที่ผ่านมาเป็นอย่างมาก จริง ๆ แล้วแอฟริกามีทรัพยากรทุกประเทศ
“แต่ว่าในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา โมซัมบิกโดดเด่นด้วยการเป็นประเทศที่มีแหล่งสำรองทรัพยากรธรรมชาติประเภทก๊าซธรรมชาติ ใหญ่มากที่สุดประเทศหนึ่งในโลก ซึ่งนั่นคือจุดเริ่มต้นของความสำคัญของโมซัมบิกในบริบทที่ไทยหันมาให้ความสนใจ” ท่านทูต สรจักร กล่าว
ท่านทูต สรจักร กล่าวด้วยว่า สิ่งหนึ่งที่ประเทศไทยให้ความสำคัญในขณะนี้ คือทรัพยากรประเภทพลอย ทับทิม โมซัมบิกมีเหมืองใหญ่ที่สุดอยู่ทางตอนเหนือของประเทศ นอกจากนี้ก็มีจุดอื่น ๆ ที่ว่ากันว่ามีทอง รวมถึงทรัพยากรประเภท Rare Earth ต่าง ๆ เช่น ลิเทียม ซึ่งกำลังได้รับความสำคัญในปัจจุบัน ยังมีการกระจายอยู่ตามพื้นที่ต่าง ๆ หลายแห่งที่ยังไม่มีใครเข้ามาขุดค้น แต่ด้วยความที่จุดเด่นของโมซัมบิกคือ ก๊าซธรรมชาติ ตอนนี้การโฟกัสทุกอย่างจึงอยู่ที่ด้านพลังงาน
ปัจจุบัน มีคนไทยอาศัยอยู่ในโมซัมบิกประมาณ 100 คน ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพพนักงานร้านอาหารไทย ร้านนวด คนงานเหมืองเเร่ เเหล่งขุดเจาะก๊าซธรรมชาติ และค้าพลอย
ความท้าทายที่นักลงทุนต่างชาติต้องเผชิญ
ถึงจะเป็นหนึ่งในประเทศที่น่าดึงดูดให้ต่างชาติเข้ามาลงทุน แต่โมซัมบิกก็มีความท้าทายหลายด้านที่นักธุรกิจต่างชาติต้องเผชิญเช่นกัน
ยกตัวอย่างเช่น การประสบปัญหาการก่อการร้ายโดยกลุ่ม Islamic State-Mozambique และ Ansar al-Sunna ในพื้นที่ของจังหวัดกาโบ เดลกาโด ทางตอนเหนือของประเทศตั้งแต่ปี 2560 ซึ่งส่งผลกระทบต่อการลงทุน ในโครงการก๊าซธรรมชาติ
ความไม่แน่นอนทางการเมือง และกฎหมาย ระบบที่ไม่มีเสถียรภาพ ย่อมส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของบริษัทต่างชาติ ที่อาจทำให้เกิดการชะลอตัว หรือ ระงับโครงการลงทุนบางแห่ง
นอกจากนี้ โมซัมบิกกำลังประสบปัญหาทางเศรษฐกิจ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีการชะลอตัว และรัฐบาลได้เข้าสู่โครงการกู้ยืมเงินของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ
“อนุสาวรีย์ซามอรา มาเชล” สัญลักษณ์แห่งอิสรภาพ
นอกจากเป็นประเทศที่อุดมไปด้วยอัญมณี และมีทรัพยากรธรรมชาติที่สมบูรณ์ โมซัมบิก ก็ยังเต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์มากมาย เพราะโมซัมบิก เป็นประเทศที่เพิ่งได้รับเอกราชเมื่อ 50 ปีที่แล้ว
ผู้นำการก่อปฏิวัติ คือ “ซามอรา มาเชล” ประธานาธิบดีคนแรกของสาธารณรัฐโมซัมบิก และเมื่อเขาเสียชีวิต จึงได้มีการก่อสร้างอนุสารีย์เขาขึ้น ที่บริเวณใจกลางจัตุรัสแห่งอิสรภาพ หน้าศาลาว่าการกรุงมาปูโต
อนุสาวรีย์มีความสูง 9 เมตร และหนัก 4.8 ตัน ตั้งอยู่บนฐานหินอ่อนสูง 2.7 เมตร เป็นรูปปั้นทองแดงขนาดใหญ่ที่แสดงภาพของประธานาธิบดีมาร์แชล กำลังชูนิ้วชี้ขวาขึ้น
อนุสาวรีย์นี้เป็นสัญลักษณ์แห่งความภาคภูมิใจและประวัติศาสตร์ของชาวโมซัมบิก เป็นการรำลึกถึงผู้นำปฏิวัติที่นำประเทศไปสู่เอกราชในปี 1975 และเสียชีวิตจากอุบัติเหตุเครื่องบินตกในปี 1986
ซามอรา มาเชล เป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์ของโมซัมบิก เขาคือ ผู้นำก่อการปฏิวัติ ต่อสู้กับกองทัพโปรตุเกส เพื่อปลดปล่อยประเทศให้เป็นอิสระ และก้าวขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีคนแรกของโมซัมบิก หลังได้รับเอกราช
แม้ช่วงการปกครองประเทศ มาเชลจะต้องเผชิญกับความท้าทาย ทั้งสงครามกลางเมือง และการแทรกแซงจากต่างชาติ แต่เขาก็ได้รับการยกย่องในฐานะผู้นำที่พยายามรวมชาติ ต่อสู้เพื่อเอกราช และสร้างความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวของชาวโมซัมบิก
แหล่งข้อมูลอ้างอิง:
https://www.mfa.go.th/th/content/5d5bd20e15e39c3060027acb?cate=5f1aba0039164819fc32c0ba
https://www.bbc.com/news/world-africa-13890416
https://worldhistoryedu.com/samora-machel-life-and-major-accomplishments/
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
