‘ประภัตร’ เผย ก.เกษตรฯ-คลัง ปรับเกณฑ์ใหม่ พร้อมเยียวยากรณีลัมปี สกิน 1 ก.ย.
นายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงการประกาศใช้หลักเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติด้านการเกษตรฉบับใหม่ (371/2564) ว่า กระทรวงเกษตรฯ ร่วมกับกระทรวงการคลัง ประกาศใช้หลักเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยด้านการเกษตรฉบับใหม่ ตามที่กระทรวงเกษตรฯ เสนอเพื่อปรับปรุงอัตราการให้ความช่วยเหลือให้มีความเหมาะสมยิ่งขึ้นจากหลักเกณฑ์เดิมตั้งแต่ปี 2556 ซึ่งร่างหลักเกณฑ์วิธีปฏิบัติปลีกย่อยเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือด้านการเกษตรผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ.2564 โดยมีขอบเขตการจ่ายเงินทดรองราชการว่า จะต้องเป็นการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินด้านการเกษตร แก่ผู้ประสบภัยที่ขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนกับหน่วยงานที่กำกับดูแลแต่ละด้านของกระทรวงเกษตรฯ ก่อนเกิดภัยพิบัติ ซึ่งมีหลายด้าน อาทิ ด้านพืช ด้านประมง และด้านปศุสัตว์ เป็นต้น
นายประภัตร กล่าวว่า ส่วนความคืบหน้าสถานการณ์การระบาดของโรคลัมปี สกิน ในโค กระบือ นั้น ในส่วนของการจ่ายเงินเยียวยากรณีโค กระบือ เสียชีวิตจากโรคลัมปี สกิน คาดว่าจะเริ่มจายเงินเยียวยาให้กับเกษตรกรที่ยื่นเอกสารเข้ามาและผ่านการตรวจสอบตามกระบวนการของกรมปศุสัตว์เรียบร้อยแล้ว ภายในวันที่ 1 กันยายนนี้ หรือไม่เกินสัปดาห์หน้า ซึ่งจะจ่ายจากบัญชีของสำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรฯ เข้าบัญชีของเกษตรกรโดยตรง
นายประภัตร กล่าวอีกว่า อีกทั้งกรมปศุสัตว์ยังได้มีการปรับเกณฑ์การช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติเกือบทุกชนิดสัตว์ และมีอัตราเพิ่มขึ้นสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยคาดว่าเกษตรกรผู้ประสบภัยจากโรคลัมปี สกินจะเป็นกลุ่มแรกที่ได้รับการช่วยเหลือตามอัตราใหม่ โดยหลักเกณฑ์ฯ ระบุว่าผู้ประสบภัยพิบัติในกรณีที่เป็นการจัดหาอาหารสัตว์ วัคซีนและเวชภัณฑ์รักษาสัตว์ เพื่อการฟื้นฟู สุขภาพสัตว์เลี้ยงและการจัดหาอาหารสัตว์ตามราคาท้องตลาด หรือตามความจำเป็นเหมาะสม การให้ความช่วยเหลือกรณีแปลงหญ้าเลี้ยงสัตว์ของเกษตรกรตายหรือเสียหายจนไม่สามารถฟื้นฟูหรือเยียวยาให้กลับสู่สภาพเดิมได้ ให้ดำเนินการช่วยเหลือเป็นเงินในอัตราไร่ละ 1,980 บาท แต่ไม่เกินรายละ 30 ไร่
นายประภัตร กล่าวอีกว่า การให้การช่วยเหลือกรณีสัตว์ตายหรือสูญหายให้ช่วยเหลือตามจำนวนที่เสียหายจริงแต่ไม่เกินเกณฑ์การช่วยเหลือโดยดำเนินการช่วยเหลือ อาทิ โค ได้ไม่เกินรายละ 5 ตัว อายุน้อยกว่า 6 เดือน 13,000 บาท อายุ 6 เดือนถึง 1 ปี 22,000 บาท อายุมากกว่า 1 ปีถึง 2 ปี 29,000 บาท อายุมากกว่า 2 ปีขึ้นไป 35,000 บาท กระบือ ไม่เกินรายละ 5 ตัว อายุน้อยกว่า 6 เดือน 15,000 บาท อายุ 6 เดือนถึง 1 ปี 24,000 บาท อายุมากกว่า 1 ปีถึง 2 ปี 32,000 บาท อายุมากกว่า 2 ปีขึ้นไป 39,000 บาท สุกร รายละไม่เกิน 10 ตัว อายุ 1 ถึง 30 วัน 1,500 บาท อายุมากกว่า 30 บาทขึ้นไป 3,000 บาท แพะ แกะ ไม่เกินรายละ 10 ตัว อายุ 1-30 วัน 1,500 บาท อายุมากกว่า 30 วัน 3,000 บาท ไก่พื้นเมือง ไก่งวง ไม่เกินรายละ 300 ตัว อายุ 1-21 วัน 30 บาท อายุ 21 วันขึ้นไป 80 บาท ทั้งนี้ ยังมี ไก่ไข่ ไก่เนื้อ เป็ดไข่ เป็ดเนื้อ นกกระทา นกกระจอกเทศและห่านตามอัตราที่กำหนด
นายประภัตร กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ กรมปศุสัตว์ได้ออกมาตรการต่างๆ ในการควบคุมโรค ทำให้สถานการณ์การระบาดเริ่มดีขึ้นตามลำดับ และตอนนี้กรมปศุสัตว์ได้ดำเนินการสั่งวัคซีนป้องกันโรคลัมปี สกิน (แอลเอสดีวี) เข้ามาเพิ่มอีก 5 ล้านโดส ซึ่งใช้งบกลางในการจัดซื้อ วงเงินประมาณ 684 ล้านบาท โดยจะมีการนำเข้ามาถึงประเทศไทยภายในวันที่ 6 กันยายน 2564 ล็อตแรก 2.5 ล้านโดส และจะทยอยเข้ามาอีกในล็อตที่สอง และล็อตที่สาม จนครบ 5 ล้านโดส ซึ่งกรมปศุสัตว์ได้มีการวางแผนจัดสรรวัคซีนไว้แล้ว ยึดตามหลักรวดเร็ว ทั่วถึง เป็นธรรม ตามสัดส่วนของจำนวนประชากรสัตว์ทั่วประเทศ โดยขณะนี้หน่วยงานในสังกัดของกรมปศุสัตว์ในพื้นที่ต่างๆ มีการทำแผนวัคซีนเรียบร้อยแล้ว และสามารถดำเนินการได้ทันทีที่วัคซีนมาถึง