สรุป 5 ประเด็น ครม.เศรษฐกิจ ล่าสุด ใครได้ประโยชน์บ้าง

ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจ (ครม.เศรษฐกิจ) เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2568 ซึ่งมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธาน ได้เห็นชอบชุดมาตรการเร่งรัดเศรษฐกิจปลายปี โดยมีเป้าหมายกระตุ้นการท่องเที่ยวและการใช้จ่ายของภาครัฐ เพื่อให้เม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจเร็วขึ้น นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า มาตรการทั้งหมดครอบคลุมทั้งภาคประชาชน ผู้ประกอบการ และหน่วยงานของรัฐ รวม 5 ประเด็นสำคัญ
มาตรการแรกคือ การลดหย่อนภาษีจากค่าใช้จ่ายท่องเที่ยวในประเทศ โดยประชาชนสามารถนำค่าใช้จ่ายจากการเดินทางมาหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้สูงสุดไม่เกิน 20,000 บาท แบ่งเป็นเมืองหลักหักได้ 1 เท่า และเมืองรองหักได้ 1.5 เท่า มาตรการนี้เริ่มตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม ถึง 15 ธันวาคม 2568 เพื่อกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงปลายปี กลุ่มที่ได้ประโยชน์โดยตรงคือผู้มีรายได้ที่ยื่นภาษีและมีแผนท่องเที่ยวปลายปี ขณะเดียวกันยังช่วยผู้ประกอบการในเมืองรองที่ได้รับแรงดึงดูดจากสิทธิภาษี และผู้ให้บริการในธุรกิจปลายทาง เช่น โรงแรม ร้านอาหาร และชุมชนท่องเที่ยว
ประเด็นที่สอง คือ การเร่งใช้งบอบรมและสัมมนาของหน่วยงานภาครัฐ โดยรัฐบาลกำหนดให้หน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เบิกจ่ายงบประมาณสำหรับกิจกรรมอบรม สัมมนา หรือศึกษาดูงานให้ได้อย่างน้อย 60% ภายในเดือนมกราคม 2569 เพื่อให้เงินภาครัฐหมุนเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจโดยเร็ว กลุ่มที่ได้รับประโยชน์คือโรงแรม ศูนย์ประชุม และผู้ให้บริการในธุรกิจ MICE (Meeting, Incentive, Convention, Exhibition) ที่จะมีรายได้เพิ่มขึ้น รวมถึงธุรกิจบริการในจังหวัดท่องเที่ยวที่มักพึ่งพากลุ่มสัมมนาในช่วงโลว์ซีซัน
มาตรการที่สาม คือ การลดภาษีสถานบริการ 50% จากอัตราเดิม 10% เหลือ 5% จนถึงสิ้นเดือนมีนาคม 2569 เพื่อบรรเทาภาระผู้ประกอบการธุรกิจกลางคืน เช่น ผับ บาร์ คลับ โรงแรม และสถานบันเทิงต่างๆ ที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ รัฐบาลยังเตรียมจัดระเบียบให้สถานบริการเข้าสู่ระบบอย่างถูกต้อง เพื่อให้ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีเพิ่มเติมในอนาคต มาตรการนี้จะช่วยให้ผู้ประกอบการมีต้นทุนลดลง ขณะเดียวกันนักท่องเที่ยวก็จะได้รับราคาบริการที่เป็นธรรมมากขึ้น
มาตรการที่สี่ คือ การหักค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงโรงแรมได้ 2 เท่า โดยผู้ประกอบการสามารถนำค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม ปรับปรุงอาคาร หรือพัฒนาบริการโรงแรมมาหักภาษีได้สองเท่าของค่าใช้จ่ายจริง จนถึงเดือนมีนาคม 2569 มาตรการนี้กระตุ้นให้เกิดการลงทุนในภาคบริการ โดยเฉพาะธุรกิจโรงแรมขนาดกลางและขนาดเล็ก ซึ่งจะส่งผลต่อเนื่องไปยังผู้รับเหมา ผู้ผลิตวัสดุก่อสร้าง และแรงงานในท้องถิ่น รวมถึงช่วยยกระดับคุณภาพการท่องเที่ยวของประเทศในระยะยาว
มาตรการสุดท้าย คือ การตั้ง KPI เร่งรัดเบิกจ่ายงบประมาณปี 2569 โดยรัฐบาลตั้งเป้าให้ส่วนราชการเบิกจ่ายงบประมาณรวมไม่ต่ำกว่า 93% และงบลงทุนไม่ต่ำกว่า 75% เพื่อให้การเบิกจ่ายของรัฐเกิดผลต่อเศรษฐกิจจริง กลุ่มที่ได้รับประโยชน์โดยตรงคือผู้ประกอบการภาคก่อสร้าง ผู้รับจ้างภาครัฐ และชุมชนในพื้นที่โครงการลงทุนที่จะได้รับการจ้างงานและรายได้เพิ่มขึ้น ถือเป็นหนึ่งในกลไกสำคัญของนโยบาย “Quick Big Win” ที่นายกรัฐมนตรีต้องการให้เห็นผลชัดเจนตั้งแต่ต้นปีงบประมาณ
โดยรวมแล้ว มาตรการทั้ง 5 ข้อของ ครม.เศรษฐกิจ ครั้งนี้ถือเป็นชุดนโยบายเร่งด่วนที่มุ่งสร้างแรงกระเพื่อมทางเศรษฐกิจในช่วงปลายปีให้ประชาชนและภาคธุรกิจได้รับประโยชน์ร่วมกัน ทั้งด้านภาษี การท่องเที่ยว และการเบิกจ่ายงบประมาณ เพื่อให้ระบบเศรษฐกิจไทยกลับมาฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
