รีเซต

มติส.ว.บราซิลหนุน ตั้งข้อหาผู้นำก่อ "อาชญากรรต่อมนุษยชาติ" ล้มเหลวรับมือโควิด

มติส.ว.บราซิลหนุน ตั้งข้อหาผู้นำก่อ "อาชญากรรต่อมนุษยชาติ" ล้มเหลวรับมือโควิด
ข่าวสด
27 ตุลาคม 2564 ( 15:45 )
38
มติส.ว.บราซิลหนุน ตั้งข้อหาผู้นำก่อ "อาชญากรรต่อมนุษยชาติ" ล้มเหลวรับมือโควิด

มติส.ว.บราซิลหนุน - วันที่ 27 ต.ค. บีบีซี รายงานว่า คณะกรรมการวุฒิสภาของบราซิลลงมติสนับสนุนรายงานที่เรียกร้องในการตั้งข้อหากับประธานาธิบดีฌาอีร์ โบลโซนารู ผู้นำประเทศ รวมถึงข้อหาอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ หลังล้มเหลวในการจัดการการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ที่คร่าชีวิตในประเทศไปแล้ว 600,000 ราย เป็นอันดับที่สองของโลก รองจากสหรัฐอเมริกา

 

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ข้อเสนอแนะของวุฒิสภาต่อรายงานดังกล่าว คาดว่าจะส่งเช้าวันพุธที่ 27 ต.ค. ตามเวลาท้องถิ่น ไปถึงนายเอากุสโต อารัส อัยการสูงสุด เพื่อประเมินอีกครั้ง. อย่างไรก็ตาม เป็นที่คาดว่านายอารัสจะปกป้องประธานาธิบดีโบลโซนารู ซึ่งเป็นผู้แต่งตั้งนายอารัสเป็นอัยการสูงสุด. สำนักอัยการสูงสุดระบุว่า จะทบทวนอย่างรอบคอบทันทีที่ได้รับรายงานดังกล่าว.

 

นายเรนัน คัลเอย์รุส ส.ว.สายกลาง ผู้นำการเขียนรายงานดังกล่าว ระบุหลังมีมติส.ว.ว่า ความวุ่นวายของรัฐบาลประธานาธิบดีโบลโซนารูจะเป็นบันทึกบนหน้าประวัติศาสตร์ในฐานะผู้ทำให้ความยากจนของมนุษย์ตกอยู่ในระดับต่ำสุด

 

นายคัลเอย์รุสยังเรียกร้องให้คณะกรรมการวุฒิสภามีข้อเสนอแนะตั้งข้อหาอาชญากรรมมนุษยชาติกับผู้นำบราซิล เพื่อมีการส่งไปศาลอาญาระหว่างประเทศ (ไอซีซี) ต่อไป.

 

ทั้งนี้ รายงานดังกล่าวที่มีความยาว 1,300 หน้า กล่าวหาว่า รัฐบาลประธานาธิบดีโบลโซนารูดำเนินตามนโยบายที่ส่งผลให้เชื้อไวรัสโคโรนาระบาดไปทั่วประเทศ โดยหวังว่าจะบรรลุเป้าหมายในการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่. รายงานอธิบายอีกว่า ผู้นำบราซิลเป็นบุคคลหลักที่ต้องรับผิดชอบต่อความผิดพลาดที่เกิดขึ้นโดยรัฐบาลกลางในช่วงโรคระบาดใหญ่นี้.

 

นอกจากข้อหาอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ คณะกรรมการวุฒิสภามีข้อแนะนำในการตั้งข้อหาอีก 8 ข้อหา รวมถึงข้อหายุยงก่อเกิดอาชญากรรม ปลอมแปลงเอกสาร และละเมิดสิทธิทางสังคม. ประธานาธิบดีโบลโซนารูยังถูกกล่าวหาใช้เงินสาธารณะในทางที่ผิด และแพร่ข่าวปลอมเกี่ยวกับโรคระบาดใหญ่ด้วย.

 

รายงานยังมีข้อแนะนำในการดำเนินคดีกับบริษัท 2 บริษัท และบุคคลอื่นอีก 77 คน รวมถึงลูกชาย 3 คนของผู้นำบราซิล.

 

อย่างไรก็ตาม ตลอดกระบวนการไต่สวนดังกล่าว 6 เดือน ที่เน้นความอื้อฉาวและทุจริตภายในรัฐบาลบราซิล, ประธานาธิบดีโบลโซนารูยืนกรานว่า ทำสิ่งถูกต้องตั้งแต่ช่วงแรกของการระบาด และพันธมิตรของผู้นำบราซิลปฏิเสธข้อเสนอแนะของววุฒิสภาที่มีเมื่อวันอังคารที่ 26 ต.ค. โดยอ้างว่ามีแรงผลักดันจาก "แรงจูงใจทางการเมืองและการเลือกตั้ง" ทั้งสิ้น.

 

ที่สหรัฐอเมริกา อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ พันธมิตรของประธานาธิบดีโบลโซนารู ออกแถลงการณ์ยอมรับผู้นำบราซิล เนื่องจากเขาต่อสู้อย่างหนักเพื่อบราซิลและรักชาวบราซิล.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง