รีเซต

นักวิเคราะห์มอง Bitcoin ที่ $100K แค่ “เนินเล็กๆ” ก่อนลงต่อ $56K – แต่ Glassnode ย้ำ ยังไม่ถึงขั้น Panic

นักวิเคราะห์มอง Bitcoin ที่ $100K แค่ “เนินเล็กๆ” ก่อนลงต่อ $56K – แต่ Glassnode ย้ำ ยังไม่ถึงขั้น Panic
ทันหุ้น
7 พฤศจิกายน 2568 ( 10:41 )
8

นักวิเคราะห์มอง Bitcoin ที่ $100K แค่ “เนินเล็กๆ” ก่อนลงต่อ $56K – แต่ Glassnode ย้ำ ยังไม่ถึงขั้น Panic

นักวิเคราะห์จาก Bloomberg เตือน Bitcoinอาจร่วงต่อถึง $56,000 หลังราคาปรับตัวลงต่อเนื่องตลอดเดือนที่ผ่านมา แต่ข้อมูลจากฝั่งออนเชนกลับชี้ว่า ภาพรวมตลาดยังคงอยู่ใน “ภาวะปกติของรอบไซเคิล” ไม่ได้ตื่นตระหนกอย่างที่หลายคนกังวล

Mike McGlone นักวิเคราะห์ชื่อดังจาก Bloomberg โพสต์บน X เมื่อวันพฤหัสฯ ว่า

“Bitcoin ที่แตะ $100,000 อาจเป็นเพียง Speed Bump ระหว่างทางสู่ $56,000”

เขาอธิบายเพิ่มเติมว่า BTC มีแนวโน้มกลับไปแตะค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 48 เดือน (48-month MA) ซึ่งปัจจุบันอยู่ราว $56,000 เช่นเดียวกับในรอบก่อนๆ หลังจากราคาปรับขึ้นแรงเกินไป

ข้อมูลออนเชนชี้ Bitcoin อาจแตะจุดต่ำสุดแล้ว

อย่างไรก็ตาม ฝั่งนักวิเคราะห์ออนเชนกลับมองต่างออกไป โดย Glassnode ระบุว่า การร่วงลงสู่ระดับ $98,000 เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน อาจเป็น “จุดต่ำสุดระยะสั้น” ของรอบนี้ หลัง BTC หลุดระดับจิตวิทยา $100,000 เป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน

ขณะนี้ราคากลับมาฟื้นตัวเล็กน้อยอยู่ที่ราว $101,380 ตามข้อมูลจาก CoinMarketCap

บริษัท XWIN Research Japan เสริมว่า ตัวชี้วัด MVRV (Market Value to Realized Value) ของ Bitcoin ลดลงสู่โซนที่เคยเป็น “จุดกลับตัว” ในอดีต ซึ่งมักเกิดขึ้นก่อนราคาฟื้นตัว

Glassnode มอง “ขาลงรอบนี้” ยังอยู่ในโหมดปกติ

ในรายงานล่าสุด Glassnode ชี้ว่า ตัวชี้วัด Relative Unrealized Loss — ที่วัดมูลค่าขาดทุนสะสมเทียบกับมาร์เก็ตแคป — ปัจจุบันอยู่ที่เพียง 3.1% เท่านั้น
 

ตัวเลขนี้ถือว่า “ต่ำมาก” เมื่อเทียบกับตลาดหมีในปี 2022–2023 ซึ่งเคยแตะระดับสูงกว่า 10%

ตัวเลขปัจจุบันใกล้เคียงกับการปรับฐานกลางไซเคิลใน Q3–Q4 ปี 2024 และ Q2 ปี 2025 ซึ่งตลาดยังคงนิ่งสงบ ไม่มีสัญญาณ Panic Sell,” Glassnode ระบุ

อย่างไรก็ตาม ยังมีเสียงเตือนจากฝั่งนักลงทุนสถาบัน เช่น Vineet Budki ซีอีโอของ Sigma Capital ที่มองว่า BTC อาจร่วงได้ถึง 65–70% ภายใน 2 ปีข้างหน้า
 

พร้อมกันนี้ Cathie Wood ซีอีโอของ ARK Invest ก็เพิ่งปรับลดเป้าราคา Bitcoin ปี 2030 ลงอีก $300,000 หลังชี้ว่า “Stablecoin แย่งบทบาท Store of Value จาก Bitcoin”

สรุป

แม้ Bitcoin จะเผชิญแรงขายในระยะสั้นและเสียงเตือนจากนักวิเคราะห์ฝั่ง TradFi แต่ข้อมูลออนเชนส่วนใหญ่ยังไม่สะท้อนถึง “ภาวะตลาดหมีเต็มตัว”

Glassnode มองว่าการปรับฐานครั้งนี้เป็นเพียง “การรีเซ็ตราคาช่วงกลางไซเคิล” ซึ่งอาจเปิดโอกาสให้ตลาดฟื้นตัวได้อีกครั้งในระยะต่อไป

อ้างอิง : cointelegraph.com

ที่มา https://www.bitcoinaddict.com/news/bitcoin-price-correction-speed-bump-to-56k

Cathie Wood หั่นเป้า Bitcoin ลง $300,000 เหลือ $1.2 ล้าน ชี้ Stablecoin แย่งบทบาทเงินสำรอง

Cathie Wood ซีอีโอและผู้ก่อตั้งบริษัท ARK Invest ได้ปรับลดประมาณการราคาสูงสุดของ Bitcoin (BTC) ภายในปี 2030 ลงจากเดิม $1.5 ล้าน เหลือ $1.2 ล้าน โดยให้เหตุผลว่า “Stablecoin กำลังเข้ามาแย่งบทบาทของ Bitcoin” ในฐานะสินทรัพย์ที่ใช้เก็บมูลค่าในประเทศกำลังพัฒนา

Stablecoin แซงบทบาท Bitcoin ในตลาดเกิดใหม่

Cathie Wood กล่าวกับ CNBC ว่า

“Stablecoins กำลังเข้ามาทำหน้าที่แทนบางส่วนของสิ่งที่เราเคยคิดว่า Bitcoin จะเป็น”

มูลค่าตลาดรวมของ Stablecoin ทะลุหลัก 3 แสนล้านดอลลาร์ในปี 2025 และยังเติบโตต่อเนื่อง ที่มา: DeFiLlama

เธอกล่าวเพิ่มเติมว่า Stablecoin เติบโตเร็วกว่าที่คาดไว้มาก โดยเฉพาะในประเทศที่มีเงินเฟ้อสูงหรือถูกจำกัดการเข้าถึงเงินดอลลาร์ เช่น เวเนซุเอลา และ อาร์เจนตินา ซึ่งประชาชนต้องหาทางปกป้องมูลค่าเงินของตนเองผ่านสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีเสถียรภาพมากกว่า

ถึงแม้จะปรับลดเป้าราคา Bitcoin ลง 300,000 ดอลลาร์ แต่ Cathie Wood ยังย้ำว่าเธอยังคง “มองบวกในระยะยาวต่อ Bitcoin
โดยอธิบายว่า BTC ยังคงเป็น “ระบบการเงินโลก” ที่ทำหน้าที่คล้ายทองคำ แต่แตกต่างจาก Stablecoin ซึ่งเป็นเพียง “เงินสดที่ถูกโทเค็นบนบล็อกเชน”

เศรษฐกิจเกิดใหม่หันพึ่ง Stablecoin

ข้อมูลจาก Standard Chartered Bank คาดการณ์ว่า Stablecoin ที่ตรึงค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ อาจดึงเงินฝากกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ ออกจากระบบธนาคารดั้งเดิมในประเทศตลาดเกิดใหม่ภายในปี 2028

ประเทศที่เผชิญเงินเฟ้อรุนแรง เช่น เวเนซุเอลา และ อาร์เจนตินา กำลังเปลี่ยนมาใช้ Stablecoin เป็นที่เก็บออมมูลค่า โดยเฉพาะเหรียญ Tether (USDT) ที่กลายเป็นสกุลเงินทางเลือกในชีวิตประจำวัน

ตัวอย่างเช่น อัตราเงินเฟ้อของ โบลิวาร์ (Venezuelan Bolivar) พุ่งถึง 269% ในปี 2025 ตามข้อมูลจาก IMF ทำให้ประชาชนจำนวนมากต้องออมเงินผ่าน Stablecoin ที่อิงกับดอลลาร์แทนเงินท้องถิ่น

Stablecoin ครองมูลค่าคริปโตที่ได้รับในละตินอเมริกาตั้งแต่ปี 2022 ถึงปี 2024 ที่มา: Chainalysis

Stablecoin กลายเป็นช่องทางรอดของรัฐ?

ในปี 2024 ยังมีรายงานว่า รัฐบาลเวเนซุเอลา ใช้ Stablecoin เพื่อหลีกเลี่ยงการคว่ำบาตรจากสหรัฐฯ และทำธุรกรรมการค้าระหว่างประเทศ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมน้ำมัน

เหตุการณ์นี้ตอกย้ำให้เห็นว่า Stablecoin ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือของนักลงทุนเท่านั้น แต่ยังกลายเป็น “โครงสร้างพื้นฐานทางการเงินใหม่ของโลกกำลังพัฒนา” ที่เข้ามาแทนที่ระบบธนาคารเดิมและลดบทบาทของ Bitcoin ในบางพื้นที่

อ้างอิง : cointelegraph.com

ที่มา https://www.bitcoinaddict.com/news/cathie-wood-bitcoin-forecast-cut-stablecoins-take-over

JPMorgan ชี้ Bitcoin ยัง “ถูก” เมื่อเทียบกับทองคำ ประเมินมูลค่าที่แท้จริงอาจแตะ $170,000

แม้ราคา Bitcoin (BTC) จะร่วงลงต่ำกว่า $100,000 ในสัปดาห์นี้ แต่รายงานล่าสุดจาก JPMorgan กลับมองว่า Bitcoin ยัง “ดูถูก” เมื่อเทียบกับทองคำ โดยเฉพาะเมื่อปรับตามความผันผวนของตลาด

เปรียบเทียบความเสี่ยง: BTC ต่อทองคำ

นักวิเคราะห์ของ JPMorgan ระบุว่า เมื่อคำนวณอัตราความผันผวนของ Bitcoin ต่อทองคำในปัจจุบัน พบว่าอัตราส่วนอยู่ที่ 1.8 เท่า
หมายความว่า Bitcoin มีความเสี่ยงมากกว่าทองคำเพียง 1.8 เท่าเท่านั้น

หากนำตัวเลขนี้มาปรับใช้กับมูลค่าตลาดปัจจุบันของ Bitcoin ที่ราว 2.1 ล้านล้านดอลลาร์ นักวิเคราะห์คาดว่า มูลค่าที่เหมาะสมของ Bitcoin “ควรเพิ่มขึ้นอีก 67%” หรือคิดเป็นราคาตลาดในระดับ ประมาณ $170,000 ต่อเหรียญ

การคำนวณนี้สะท้อนให้เห็นว่า Bitcoin ยังมีอัพไซด์ที่สำคัญในอีก 6–12 เดือนข้างหน้า” — JPMorgan กล่าวในรายงาน

ตลาดปรับฐาน แต่อัพไซด์ยังเปิดกว้าง

คำคาดการณ์จาก JPMorgan เกิดขึ้นในช่วงที่นักวิเคราะห์ตลาดหลายรายเริ่มปรับลดประมาณการราคา Bitcoin ปี 2025 หลังเหรียญร่วงต่ำกว่าแนวจิตวิทยา $100,000

โดยบริษัท Galaxy Digital ปรับลดคาดการณ์ราคา Bitcoin ปี 2025 เหลือ $120,000 จากเดิม $185,000สาเหตุหลักมาจาก

  • การเทขายของวาฬ Bitcoin มากกว่า 400,000 เหรียญในเดือนตุลาคม
  • การไหลออกของเงินลงทุนไปยังสินทรัพย์ทางเลือก
  • และความผันผวนของเศรษฐกิจโลกจากภาษีนำเข้าและนโยบายการเงิน

อย่างไรก็ตาม Alex Thorn หัวหน้าฝ่ายวิจัยของ Galaxy กล่าวว่านี่คือ “ยุคแห่งความเป็นผู้ใหญ่ของ Bitcoinโดยมีลักษณะเด่นคือความผันผวนลดลง สถาบันเข้ามาถือครองเพิ่ม และ ETF กลายเป็นตัวดูดสภาพคล่องหลักในตลาด

ในมุมของ JPMorgan การที่ความผันผวนของทองคำเพิ่มขึ้นในช่วงทำจุดสูงสุดใหม่ กลับทำให้ Bitcoin ดู “น่าดึงดูดกว่า” สำหรับนักลงทุนที่มองหาสินทรัพย์ทางเลือก เพราะทองคำเริ่มมีความเสี่ยงใกล้เคียงกับ BTC แต่ผลตอบแทนของ Bitcoin ยังมีโอกาสเติบโตมากกว่า

อ้างอิง : cointelegraph.com

ที่มา https://www.bitcoinaddict.com/news/jpmorgan-bitcoin-fair-value-170k-vs-gold

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง