เยอรมนีเริ่มใช้ “แท็กซี่ไร้คนขับ” ผสานระบบขนส่งสาธารณะ แก้ปัญหาคนขับไม่พอ

ลังเงิน (Langen) เมืองเล็ก ๆ ทางใต้ของนครแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนีสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นเมืองแรกในประเทศ ที่นำระบบรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ หรือ “แท็กซี่ไร้คนขับ” เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของระบบขนส่งสาธารณะ เพื่อให้บริการแก่ประชาชนในพื้นที่ แก้ปัญหาขาดแคลนคนขับรถ
บริการนี้มีชื่อว่า คีรา (KIRA) ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อผสานรวมการใช้งานยานพาหนะอัตโนมัติเข้ากับระบบการขนส่งสาธารณะทั่วไป ซึ่งได้เปิดทดลองใช้งานไปแล้วเมื่อวันจันทร์ที่ 26 เมษายนที่ผ่านมา ตั้งเป้าให้เป็นทางเลือกที่ใช้งานได้จริง แทนการขนส่งสาธารณะรูปแบบอื่น ๆ ภายในปี 2030 โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบท
ทางทีมผู้พัฒนาโครงการกล่าวว่า ปัจจุบันนี้ ในเขตพื้นที่ชนบทของประเทศเยอรมนี มีบริการรถโดยสารในพื้นที่ไม่เพียงพอ ซึ่งปัญหานี้อาจจะแย่ลงในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เนื่องจากการขาดแคลนคนขับรถ ที่เพิ่มขึ้น
โดยปัจจุบันมีสถิติระบุว่าคนขับรถโดยสารสาธารณะในพื้นที่ชนบทของเยอรมนีกว่าร้อยละ 40 มีอายุเกิน 55 ปี ซึ่งหมายความว่าในอีกสิบปีข้างหน้า คนขับรถเหล่านี้ อาจจะไม่สามารถทำงานได้อีกต่อไป จึงเป็นที่มาของการใช้งานแท็กซี่ไร้คนขับ มาช่วยเสริมการเดินทางในชนบทให้คล่องตัวมากขึ้น
สำหรับ คีรา (KIRA) คล้ายกับบริการเรียกรถรับส่งผ่านแอปพลิเคชันทั่วไป โดยผู้ใช้งานเพียงแค่ระบุจุดรับและจุดหมายปลายทางที่ต้องการ จากนั้นรถจะขับมารับถึงที่ และนำเราไปถึงที่หมาย โดยทั้งหมดนี้เป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นโดยระบบอัตโนมัติ ไม่ต้องใช้คนขับแต่อย่างใด
ส่วนรถที่ใช้งาน ระบุว่าเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ติดตั้งระบบขับขี่อัตโนมัติ และมีการควบคุมการทำความเร็วสูงสุดที่ 130 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยให้ระยะทางวิ่งประมาณ 400 กิโลเมตร
อย่างไรก็ตามขณะนี้โครงการแท็กซี่ไร้คนขับดังกล่าว ยังมีให้บริการเฉพาะในเมืองลังเงิน ประเทศเยอรมนีเท่านั้น แต่หากเป็นไปตามแผน ผู้พัฒนาคาดว่าจะมีการเปิดให้บริการแก่ผู้โดยสารในเมืองที่อยู่ใกล้เคียงภายในปลายปีนี้