รีเซต

ผู้ประกาศข่าว NBT แจงไทม์ไลน์ ยันไม่ได้ติดโควิดจากช่างแต่งหน้า "ดีเจมะตูม"

ผู้ประกาศข่าว NBT แจงไทม์ไลน์ ยันไม่ได้ติดโควิดจากช่างแต่งหน้า "ดีเจมะตูม"
TNN ช่อง16
22 มกราคม 2564 ( 13:56 )
112

จากกรณี "ผู้ประกาศข่าวชาย" สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์ หรือ NBT ติดเชื้อโควิด-19 เมื่อช่วงเช้าวันนี้ โดยขณะนี้ทางกรมแจ้งให้กรมควบคุมโรคเข้ามาสอบสวนโรคแล้ว และจะมีรถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัยพระราชทานเข้ามาให้บริการสวอป เพื่อตรวจหาเชื้อโควิด-19 ให้พนักงานของช่องเอ็นบีทีทั้งหมด เพื่อความสบายใจ และป้องกันการแพร่ระบาด ส่วนจำนวนผู้ที่มีความเสี่ยงสูง เสี่ยงปานกลาง เสี่ยงต่ำ ยังไม่สามารถระบุชัดเจนได้ว่า มีทั้งหมดกี่คน เพราะยังต้องรอการสอบสวนโรคอีกครั้ง

ล่าสุด สถานี NBT เปลี่ยนสถานที่จัดรายการข่าวเที่ยงวันนี้ โดยไม่ได้ใช้ห้องออกอากาศเหมือนปกติ รวมทั้งมีการกั้นฉากใสระหว่างผู้ประกาศชายหญิงที่ปฎิบัติหน้าที่ โดยเป็นมาตรการเข้มข้นที่เพิ่มขึ้น หลังพบผู้ประกาศข่าว ส.กรกช ยอดไชย ติดเชื้อโควิด-19

รายการข่าวเที่ยง NBT ชี้แจงว่า นาย ส. กรกช ยอดไชย ผู้ประกาศที่ติดเชื้อ ไม่ได้ทำหน้าที่อ่านข่าวเที่ยง อย่างที่มีกระแสข่าวก่อนหน้านี้ แต่ทำหน้าที่ข่าวค่ำ รวมทั้งไม่ได้ติดจากช่างแต่งหน้าของ "ดีเจมะตูม" เนื่องจากช่างแต่งหน้าคนดังกล่าวไม่ได้เข้ามาที่สถานี NBT รวมทั้งผลการตรวจหาเชื้อของช่างแต่งหน้าคนดังกล่าว พบว่าผลเป็นลบ

สำหรับไทม์ไลน์ ผู้ประกาศชายที่ติดเชื้อได้แจ้งรายละเอียดดังนี้

วันที่ 8 ม.ค.64 ทำงานที่บ้าน

วันที่ 9 ม.ค.64 ไปซื้อของที่ซูเปอร์มาเก็ต โดยสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา

วันที่ 10 ม.ค.64 ไปอ่านข่าวที่สถานี NBT

วันที่ 11 ม.ค.64 ทำงานที่บ้าน และช่วงเย็นเข้ามอ่านข่าวที่สถานี NBT

วันที่ 12 ม.ค.64 ทำงานที่กรมประชาสัมพันธ์ และช่วงเย็นไปอ่านข่าวที่ NBT

วันที่ 13 ม.ค.64 ทำงานที่กรมประชาสัมพันธ์ สวมหน้ากากอนามัย แต่ไม่ตลอดเวลา

วันที่ 14 ม.ค.64 ทำงานที่กรมประชาสัมพันธ์ สวมหน้ากากอนามัย แต่ไม่ตลอดเวลา

วันที่ 15 ม.ค.64 ทำงานที่บ้าน

วันที่ 16 ม.ค.64 ไปกินข้าวกับเพื่อนที่โรงแรมเรเนซองส์ ราชประสงค์

วันที่ 17 ม.ค.64 อยู่บ้าน เย็นไปอ่านข่าวค่ำที่สถานี NBT

วันที่ 18 ม.ค.64 ทำงานที่กรมประชาสัมพันธ์ สวมหน้ากากอนามัย แต่ไม่ตลอดเวลา ถอดออกในช่วงรับประทานอาหาร และไปทำงานที่ NBT

วันที่ 19 ม.ค.64 ทำงานที่กรมประชาสัมพันธ์ สวมหน้ากากอนามัย แต่ไม่ตลอดเวลา มีเพื่อนอยู่ในห้องด้วยกันประมาณ 5 คน ช่วงเย็นไปอ่านข่าวค่ำที่สถานี NBT

วันที่ 20 ม.ค.64 ทำงานที่บ้าน โดยเริ่มมีอาการปวดหัวครั่นเนื้อครั่นตัว กินยาพาราเซตามอลแล้วไม่หาย จึงไปพบแพทย์ มีการซักประวัติ แต่เบื้องต้นแพทย์คิดว่าเป็นไข้เลือดออก จึงนอนพักที่โรงพยาบาลและตรวจเลือด จนช่วงค่ำทราบจากผลตรวจเลือดว่าติดเชื้อไวรัส แต่ยังไม่ทราบว่าเป็นไวรัสตัวไหน แพทย์จึงตรวจแบบหาเชื้อในโพรงจมูก แล้วกักตัวที่บ้าน

วันที่ 21 ม.ค.64 ทำงานที่บ้าน

วันที่ 22 ม.ค.64 ทำงานที่บ้าน และทราบผลการติดเชื้อในช่วงเช้า ย้ายเข้ารักษาตัวที่ห้องความดันลบ

ส่วนไทม์ไลน์อย่างละเอียดนั้น กำลังอยู่ระหว่างขั้นตอนการสอบสวนโรค เบื้องต้น ทางรายการข่าวเที่ยง NBT ระบุว่า ผู้ประกาศชายคนดังกล่าว ทราบข่าวจากเพื่อน จึงไปตรวจหาเชื้อ และพบว่าติดเชื้อ และเป็นผู้ป่วยแบบมีอาการ ส่วนมาตรการควบคุมโรคที่ทาง NBT มีแผนปฎิบัติในวันนี้ คือ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง (สปคม.) ลงพื้นที่สอบสวนโรค ที่จุดตรวจคัดกรอง สวท. ถนนวิภาวดี หรือ สถานี NBT โดยมีรถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัยพระราชทานจำนวน 2 คัน ไปเก็บตัวอย่าง NPS ให้กับพนักงานจำนวน 1,200 คน คาดว่าจะดำเนินการเสร็จ เวลา 19.00 น

ล่าสุด ผู้ประกาศคนดังกล่าว ได้ชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว "So Korakot Yotchai" พร้อมขอโทษทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง และแจงไทมไลน์ก่อนติดโควิด-19 ว่า

"ขอโทษทุกคนนะครับ

ขอไล่เรียงรายละเอียดคร่าวๆนะครับ เมื่อวันพุธ (20/01/64) เย็นๆ ขณะอยู่ที่บ้าน สอร์รู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัว และปวดหัวค่อนข้างแรง เลยกินพาราแล้วก็นอนไป ตื่นเข้ามา WFH รู้สึกมีอาการไข้ต่ำๆ และยังคงปวดหัวอยู่ เลยไปหาหมอ เมื่อถึง รพ. ก็เข้าสู่กระบวนการซักประวัติ ซึ่งหมอคิดว่าเป็น ไข้เลือดออก เลยแนะนำให้นอน รพ. ช่วงค่ำๆ ผลตรวจเลือดออกมาว่า มีการติดเชื้อไวรัส แต่ไม่รู้ว่าตัวไหน จึงขอ swab ตอน 2 ทุ่มกว่าๆ จากนั้น ก็มีการคอนเฟิร์มผลตอน ตี 5 วันนี้ และย้ายเข้ามาพักที่ห้องความดันลบ

ทันทีที่ทราบผล สอร์ก็รีบแจ้งทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งที่ทำงานทั้ง 2 แห่ง เพื่อให้ดำเนินการตามแผนที่ได้เตรียมไว้อย่างเคร่งครัด รวมทั้งเพื่อนๆ บุคคลใกล้ชิดทั้งหมด ให้ไปตรวจแล้ว ในระหว่างนี้ทุกคนอาจจะต้องวุ่นวายกันหน่อยนะครับ

และกรณีมีข่าวช่างแต่งหน้าที่ช่องไปแต่งหน้าให้คุณมะตูม ได้รับแจ้งจากตัวช่างเองว่า ไปตรวจตั้งแต่ทราบข่าวคุณมะตูม และผลออกมาว่าไม่ติดนะครับ

ขอให้ทุกคนปลอดภัยนะครับ ต้องขอโทษทุกคนอีกครั้งครับ"


เกาะติดข่าวที่นี่

website: www.TNNTHAILAND.com
facebook : TNNONLINE
facebook live : TNN Live
twitter : TNNONLINE
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNONLINE
Instagram : TNN_ONLINE
TIKTOK : @TNNONLINE

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง