รีเซต

ทีมวิจัยพบอาการ "ปวดหัว มีน้ำมูก เจ็บคอ" เชื่อมโยงโควิดสายพันธุ์เดลต้า

ทีมวิจัยพบอาการ "ปวดหัว มีน้ำมูก เจ็บคอ" เชื่อมโยงโควิดสายพันธุ์เดลต้า
TNN ช่อง16
15 มิถุนายน 2564 ( 07:22 )
307

วันนี้ (14 มิ.ย.64) ศาสตราจารย์ ทิม สเปกเตอร์ หัวหน้าทีมศึกษา Zoe Covid Symptom ระบุว่า ผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลต้า (Delta) จะมีอาการเหมือน “เป็นไข้หวัดรุนแรง” ในผู้ติดเชื้อที่เป็นเยาวชน แต่ก็เตือนว่า แม้จะมีอาการป่วยไม่มาก แต่ยังแพร่เชื้อให้คนอื่นติดโควิดได้ ดังนั้น หากใครมีอาการปวดหัว เจ็บคอ และมีน้ำมูก ซึ่งแม้จะดูเหมือนไข้หวัดธรรมดา ก็ควรติดต่อแพทย์เพื่อรับการตรวจโควิด

 

 

ระบบบริการสุขภาพแห่งชาติ หรือ NHS ของสหราชอาณาจักร เคยระบุว่า อาการของโควิด-19 ที่ประชาชนต้องเฝ้าระวัง และเมื่อเป็นแล้วควรไปรับการตรวจหาเชื้อ คือ 

 

 

- ไอต่อเนื่อง

- มีไข้ อุณหภูมิขึ้นสูง

- การรับกลิ่นหรือรับรสผิดปกติ

 

 

แต่ผลการศึกษาใหม่นี้ ซึ่งเก็บข้อมูลจากประชาชนหลายพันคน ทำให้ประชาชนต้องเฝ้าระวังอาการเพิ่มเติมที่เชื่อมโยงกับโควิดกลายพันธุ์เดลต้า นั่นคือ ปวดหัว เจ็บคอ และมีน้ำมูกด้วย

 

 

“นับแต่เดือนพฤษภาคม อาการของโควิด-19 ที่ผู้ตอบแบบสอบถามผ่านแอปฯ ได้ส่งเข้ามา ได้เปลี่ยนไปจากเดิม” โดยมีความเชื่อมโยงกับผู้ป่วยโควิดสายพันธุ์เดลต้าที่เพิ่มมากขึ้น และตอนนี้ 90% ของผู้ป่วยรายใหม่ในสหราชอาณาจักร ติดโควิดสายพันธุ์นี้ 

 

 

 

ศาสตราจารย์ ทิม สเปกเตอร์ ยอมรับว่า โควิดสายพันธุ์เดลต้า อาจมีผลต่อร่างกายแตกต่างจากโควิด-19 สายพันธุ์ดั้งเดิม โดยผู้ที่ติดแล้วอาจรู้สึกเหมือนเป็นไข้หวัดตามฤดูกาลทั่วไป แล้วยังไปสังสรรค์จนทำให้คนอื่นๆ ติดเชื้อไปด้วยได้ นี่จึงเป็นปัญหาใหญ่ โดยเฉพาะในเยาวชนที่คิดว่าเป็นแค่ไข้หวัด ไม่น่าเป็นโควิด เพราะเยาวชนจะปรากฎอาการของโควิดที่รุนแรงน้อยกว่าผู้สูงวัย แต่คำเตือนในตอนนี้ คือ หากมีอาการเหล่านี้ให้อยู่ที่บ้าน และไปเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด

 

 

ก่อนหน้านี้ มหาวิทยาลัยอิมพีเรียลคอลเลจ ลอนดอน ได้เปิดเผยผลการศึกษาประชาชนในแคว้นอังกฤษ ซึ่งมีผู้ป่วยโควิดสายพันธุ์อัลฟ่า (Alpha) จำนวนมาก พบว่า โควิดกลายพันธุ์อัลฟ่าก่อให้เกิดอาการที่ไม่ปรากฎในโควิด-19 ดั้งเดิมเช่นกัน อาทิ หนาวสั่น ไม่อยากอาหาร ปวดหัว ปวดกล้ามเนื้อ

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง