รีเซต

SCGP รายได้แสนล้านจ่อ เล็งเลื่อนชั้นสู่ดัชนีMSCI

SCGP รายได้แสนล้านจ่อ เล็งเลื่อนชั้นสู่ดัชนีMSCI
ทันหุ้น
29 ตุลาคม 2563 ( 08:30 )
113
SCGP รายได้แสนล้านจ่อ เล็งเลื่อนชั้นสู่ดัชนีMSCI

ทันหุ้น –สู้โควิด –SCGP ลั่นปี 2564 รายได้ทะลุแสนล้านบาท จ่อรับรู้รายได้จากธุรกิจ SOVI และกำลังผลิตใหม่ที่เพิ่มขึ้น เตรียมทุ่มงบกว่า 1.2 หมื่นล้านบาท ลุย M&A ธุรกิจแพ็คเกจจิ้งในแถบอาเซียน ตั้งเป้าติดดัชนี MSCI ในปีหน้า หวังดึงต่างชาติถือหุ้นเพิ่ม


นายวิชาญ จิตร์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP เปิดเผยว่า ในปี 2564 บริษัทประมาณการรายได้จะมากกว่า 100,000 ล้านบาท จากปี 2563 ที่คาดว่าจะมีรายได้ที่ 8.9 หมื่นล้านบาท จากปีก่อนเนื่องจากธุรกิจจะมีการรับรู้รายได้จากการเข้าควบรวมกิจการ (M&A) กับ Bien Hoa Packaging Joint Stock Company หรือ (SOVI) เข้ามาเพิ่มเติม นอกเหนือจากมีกำลังผผลิตใหม่จากทั้งในและต่างประเทศ


สำหรับดีล M&A ของ SOVI ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์กล่องลูกฟูก (Corrugated Containers) รายใหญ่ในประเทศเวียดนาม ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โฮจิมินห์ กำลังอยู่ในขั้นตอนของการตรวจสอบสินค้าคงคลังรอบสุดท้าย คาดว่าการทำธุรกรรมจะแล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคมนี้ ซึ่งทำให้บริษัทมีรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากกิจการดังกล่าวประมาณ 2 พันล้านบาท


*เร่งอัพกำลังการผลิต


ขณะเดียวบริษัทอยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการขยายกำลังผลิตเพิ่มเติม 3 โครงการ ซึ่งคาดใช้เงินลงทุนกว่า 7,700 ล้านบาท ได้แก่ โครงการขยายกำลังการผลิตกระดาษบรรจุภัณฑ์ (Packaging Paper) ในประเทศอินโดนีเซีย (คาดเปิดผลิตไตรมาส 2/2564) , โครงการขยายกำลังการผลิตกระดาษบรรจุภัณฑ์ (Packaging Paper) ในประเทศฟิลิปปินส์ (คาดเปิดผลิตไตรมาส 3/2564) และโครงการขยายกำลังการผลิตบรรจุภัณฑ์แบบอ่อนตัว (Flexible Packaging) ในประเทศไทย (คาดเปิดผลิตไตรมาส 3/2564) หวังสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจทางหนึ่ง


ส่วนงบลงทุนปี 2564 เบื้องตั้งไว้ราว 1.2 หมื่นล้านบาท เพื่อรองรับการควบรวมกิจการ (M&A) ธุรกิจแพ็คเก็จจิ้งประเภทกระดาษและโพลีเมอร์ในแถบอาเซียน ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างศึกษาในต่างประเทศราว 2-3 ราย คาดชัดเจนปีหน้า


*หวังขึ้นชั้นติด MSCI


ด้านนายกุลเชฏฐ์ ธาราจันทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการเงิน SCGP กล่าวเสริมว่า บริษัทวางเป้าหมายหากได้รับการเข้าคำนวณในดัชนี "MSCI Index" ในปีหน้า คาดจะเริ่มคำนวณวันที่ 10 พฤศจิกายนนี้ หลังจากเข้าคำนวณใน SET 50 เรียบแล้ว ซึ่งหากทุกอย่างเป็นไปตามที่วางไว้ คาด SCGP จะได้รับความสนใจจากต่างชาติเพิ่มขึ้น จากปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนการถือหุ้นจากนักลงทุนสถาบันต่างชาติอยู่ประมาณ 3%


สำหรับงบการเงินช่วง 9 เดือนของปีนี้เติบโตอย่างแข็งแกร่งท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน โดยมีรายได้จากการขาย 6.19 หมื่นล้านบาท เติบโต 5% จากช่วงเดียวกันปีก่อน มีกำไรสุทธิ 4,971 ล้านบาท เติบโต 22% จากช่วงเดียวกันปีก่อน จากความสามารถในการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ และมีปัจจัยเกื้อหนุนจากการเติบโตอย่างต่อเนื่องของความต้องการใช้สินค้าจำเป็นที่ใช้ในชีวิตประจำวัน


โดยกลุ่มสินค้าที่เติบโตได้ดี คือ บรรจุภัณฑ์สำหรับสินค้าอุปโภคบริโภค บรรจุภัณฑ์สำหรับอีคอมเมิร์ซ และบรรจุภัณฑ์สำหรับฟู้ดเดลิเวอรี่ ในขณะที่กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์เริ่มมีการฟื้นตัวในไตรมาส 3/2563ได้รับผลกระทบจากการที่ผู้บริโภคชะลอการซื้อสินค้าคงทนที่มีมูลค่าสูงในช่วงก่อนหน้านี้ รวมถึงความต้องการบรรจุภัณฑ์ในประเทศเวียดนามที่เติบโตขึ้นภายหลังจากสถานการณ์โรคระบาด COVID-19 เริ่มคลี่คลาย และจากการขยายธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะจากการควบรวมกิจการกระดาษบรรจุภัณฑ์ในประเทศอินโดนีเซียและบรรจุภัณฑ์จากวัสดุสมรรถนะสูงและพอลิเมอร์ในประเทศไทยที่ทำให้ SCGP มีรายได้และกำไรเติบโตอย่างต่อเนื่อง

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง