รีเซต

รู้จัก ‘ความอ้วน’ ศัตรูตัวร้ายของคนทุกวัย นอกจาก ‘กิน’ เกิดจากอะไรได้บ้าง

รู้จัก ‘ความอ้วน’ ศัตรูตัวร้ายของคนทุกวัย นอกจาก ‘กิน’ เกิดจากอะไรได้บ้าง
TNN ช่อง16
9 สิงหาคม 2565 ( 16:12 )
196

คำว่า ‘อ้วน’ พูดเบาๆก็เจ็บ ปัญหาความอ้วนนอกจากจะส่งผลกระทบต่อความมั่นใจในรูปลักษณ์ภายนอกแล้ว ความอ้วน นั้นยังส่งผลต่อสุขภาพในบุคคลบางราย หรือ อาจเป็นสาเหตุก่อให้เกิดโรคที่มีผลกระทบร้ายแรงตามมาได้ ดังนั้นการลดน้ำหนักจึงเป็นวิธีการขจัดปัญหาดังกล่าวไม่ให้เกิดขึ้นในระยะยาว แต่ก่อนที่จะแก้ปัญหานั้นเราต้องศึกษากันก่อนว่า ความอ้วนนั้นปัญหาเกิดจากอะไร ?  บางครั้งอาจจะไม่ได้มาจากการรับประทานอาหารเพียงอย่างเดียว 

สาเหตุที่ทำให้อ้วน 

- อ้วนเพราะอายุเยอะขึ้น 

เมื่อคนเราอายุเยอะขึ้น มวลกล้ามเนื้อที่น้อยลง  ทำให้ระบบเผาผลาญทำงานช้าลง ส่งผลไปถึง การดึงพลังงานจากอาหารที่รับประทานไปใช้งานช้าลง จึงทำให้เกิดไขมันสะสมไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกาย 

-  อ้วนเพราะความเครียด 

เวลาคนเราเครียดนั้น เส้นประสาทได้รับความตึงเครียด ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล ส่งผลให้ร่างกายมีรูปร่างอ้วนมากขึ้น

- อ้วนเพราะไม่ออกกำลังกาย

แคลอรีจากอาหารที่เรารับประทานเข้าไป การจะถูกเผาผลาญได้ จะต้องเกิดจากการออกกำลังกาย จะช่วยให้ร่างกายเพิ่มประสิทธิภาพในการเผาผลาญได้ดียิ่งขึ้น

- อ้วนเพราะนอนหลับไม่เพียงพอ 

ผู้ที่นอนไม่ตรงเวลา หรือนอนน้อย จะทำให้ระบบเผาผลาญเกิดการต่อต้านต่ออินซูลิน นอกจากจะทำให้อ้วนแล้ว ยังเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานอีกด้วย

- อ้วนเพราะโรคที่เกี่ยวกับต่อมไทรอยด์ 

ผู้ที่ป่วยเป็น ไฮโปไทรอยด์ ร่างกายจะทำงานได้ช้าลง เพราะ การผลิตฮอร์โมนออกมาน้อย

- อ้วนเพราะอุณหภูมิในสภาพอากาศที่ลดลง 

เมื่ออากาศหนาวเย็น ร่างกายจะควบคุมอุณหภูมิในร่างกายอุ่นขึ้นเพื่อต้านอากาศที่หนาวเย็น โดยเพิ่มประสิทธิภาพในการเผาผลาญให้ดียิ่งขึ้น

- อ้วนจากพฤติกรรมการลดน้ำหนักอย่างผิดวิธี 

ใครหลายๆคนเคยเป็นเมื่อต้องการลดความอ้วน เลยรับประทานอาหารน้อยลง หรือ รับประทานอาหารแบบไม่ครบ 5 หมู่ แม้แต่กระทั่งงดอาหารเช้า แม้ว่าจะทำให้เรารู้สึกผอมลงก็ตาม  แต่จะส่งผลเสียต่อระบบการเผาผลาญแคลอรี ทำให้เรากลับมาอ้วนเหมือนเดิม 

ความอ้วนมีกี่ประเภท?

โรคอ้วนที่ผลร้ายต่อสุขภาพมีอยู่ 2 ประเภท คือ

- อ้วนลงพุง เป็นการสะสมของไขมันบริเวณช่องท้องและอวัยวะภายใน เช่น ตับ ไต ลำไส้ กระเพาะอาหารและอื่นๆ

- อ้วนทั้งตัว  คือการมีไขมันทั้งร่างกายมากกว่าปกติ โดยมิได้จำกัดอยู่ที่ตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่งโดยเฉพาะ

แบบไหนถึงเรียกว่า ‘อ้วน’ แล้วนะ ต้องรีบลดด่วน 

ความอ้วนนั้นเราสามารถวัดค่าได้นอกจากคนทักแล้ว ยังสามารถทำได้ด้วยการคำนวนค่า ดัชนีมวลกาย - BMI โดยค่า BMI คือค่าดัชนีที่ใช้ชี้วัดความสมดุลของน้ำหนักตัว (กิโลกรัม) และส่วนสูง (เซนติเมตร) ซึ่งสามารถระบุได้ว่า ตอนนี้รูปร่างของคนคนนั้นอยู่ในระดับใด ตั้งแต่อ้วนมากไปจนถึงผอมเกินไป

Body Mass Index (BMI) มีสูตรการคำนวณ = น้ำหนักตัว (กิโลกรัม )/ ส่วนสูง ( เมตร ) ยกกำลังสอง  สูตรคำนวณเหมาะสำหรับใช้ประเมินผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป ประโยชน์ของการวัดค่า BMI เพื่อดูอัตราเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่าง ๆ ตรวจสอบภาวะไขมันและความอ้วน ดังนั้นการทำให้ร่างกายอยู่ในเกณฑ์ปกติจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งกับผู้ที่ต้องการรักษาสุขภาพในระยะยาว

สูตรคำนวณหาดัชนีมวลกาย มีดังต่อไปนี้ 

วิธีคำนวณ BMI ในการหาค่าดัชนีมวลกาย = น้ำหนักตัว กิโลกรัม ÷ ส่วนสูง  เมตร  ยกกำลังสอง

ยกตัวอย่างเช่น ผู้หญิง น้ำหนัก 50 กิโลกรัม ส่วนสูง 160 เซนติเมตร 

 ดัชนีมวลกาย (BMI) = 50 ÷ (1.60 * 1.60)

ดัชนีมวลกาย (BMI) = 50 ÷ 2.56 

ดัชนีมวลกาย (BMI) = 19.5 

 เมื่อได้คำตอบค่าคำนวณดัชนีมวลกายแล้ว ให้นำตัวเลขนี้ไปเปรียบเทียบตารางเกณฑ์ BMI ตามเพศสภาพของตัวเอง หรือ ใช้โปรแกรมคำนวน คลิกที่นี่ 

30.0 ขึ้นไป = อ้วนมาก 

ค่อนข้างอันตราย เสี่ยงต่อการเกิดโรคร้ายแรงที่แฝงมากับความอ้วน หากค่า BMI อยู่ในระดับนี้ จะต้องปรับพฤติกรรมการทานอาหาร และควรเริ่มออกกำลังกาย และหากเลขยิ่งสูงกว่า 40.0 ยิ่งแสดงถึงความอ้วนที่มากขึ้น ควรไปตรวจสุขภาพ และปรึกษาแพทย์

25.0 - 29.9  = อ้วน 

อ้วนในระดับหนึ่ง ถึงแม้จะไม่ถึงเกณฑ์ที่ถือว่าอ้วนมาก ๆ แต่ก็ยังมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคที่มากับความอ้วนได้เช่นกัน ทั้งโรคเบาหวาน และความดันโลหิตสูง ควรปรับพฤติกรรมการทานอาหาร ออกกำลังกาย และตรวจสุขภาพ

 18.6 - 24 น้ำหนักปกติ = เหมาะสม 

น้ำหนักที่เหมาะสมสำหรับคนไทยคือค่า BMI ระหว่าง 18.5-24 จัดอยู่ในเกณฑ์ปกติ ห่างไกลโรคที่เกิดจากความอ้วน และมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่าง ๆ น้อยที่สุด ควรพยายามรักษาระดับค่า BMI ให้อยู่ในระดับนี้ให้นานที่สุด และควรตรวจสุขภาพทุกปี

น้อยกว่า 18.5 = ผอมเกินไป 

น้ำหนักน้อยกว่าปกติก็ไม่ค่อยดี หากคุณสูงมากแต่น้ำหนักน้อยเกินไป อาจเสี่ยงต่อการได้รับสารอาหารไม่เพียงพอหรือได้รับพลังงานไม่เพียงพอ ส่งผลให้ร่างกายอ่อนเพลียง่าย การรับประทานอาหารให้เพียงพอ และการออกกำลังกายเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อสามารถช่วยเพิ่มค่า BMI ให้อยู่ในเกณฑ์ปกติได้

หลังจากสำรวจตนเองกันเรียบร้อยว่า ความอ้วน ที่เกิดขึ้นจากตนเองนั้น มาจากสาเหตุไหน และ เมื่อลองทำแบบทดสอบค่า BMI  ของตนเองแล้วปรากฏว่าอ้วนจริงๆแบบไม่ได้มโน คงต้องพิจารณาแล้วว่าถึงเวลาจะต้องลดความอ้วนกำจัดศัตรูตัวร้ายตัวนี้ออกไปจากร่างกายได้แล้วหรือยัง? 


ข้อมูลจาก  : โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 3 อินเตอร์ / โรงพยาบาลขอนแก่นราม /โรงพยาบาลบางปะกอก/โรงพยาบาลเพชรเวช 

ภาพจาก  :  AFP

ข่าวที่เกี่ยวข้อง