เบาหวานหายได้ รู้กลไกร่างกาย ปรับเปลี่ยนวิถีดูแลสุขภาพ

รายการ How are you? เป็น-อยู่-อย่างไร พูดคุยกับ หมอเจด นายแพทย์เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รองผู้อำนวยการรพ.มหาราช นครราชสีมา เจ้าของเพจ "หมอเจด" ที่ให้ความรู้ด้านการแพทย์และการดูแลสุขภาพ มาเล่าประสบการณ์ป่วยรุมเร้าหลายโรค เริ่มต้นจากน้ำหนักเกิน 100 กิโลกรัม หัวใจเต้นผิดปกติ มีภาวะนอนกรน สู่โรคเบาหวาน แต่วันนี้หายจากโรคนี้แล้ว คุณหมอทำได้อย่างไร?

ตรวจเจอ โรคเบาหวาน นอนกรน สารพัดปัญหาสุขภาพ

การเจาะเลือดดูน้ําตาลง่ายสุดก็คือดูน้ําตาลปลายนิ้ว ด้วยความเป็นหมอเราก็จัดชุดใหญ่ อย่างแรกแรกเลย น้ําตาลปลายนิ้ว ส่งผลเลือดไปตรวจดู ปรากฏว่าน้ําตาลสะสมครั้งแรก เลขที่ออก 13 บางคนคิดว่าเอ้ยแล้วยังไง ปกติมันไม่เคยเกิน 6.5 เราล่อไปอีกเท่าตัว พอวันความดัน ประมาณ 45/90 เราก็อ้าว เป็นความดันด้วยเหรอ

พอรู้ตัวเพื่อนที่เป็นหมอด้วยกันก็ส่งไปตรวจเพิ่ม พาไปตรวจตากับตรวจเท้า ซึ่งคนที่เป็นเบาหวานเนี่ยมันต้องตรวจตากับตรวจตีนตรวจเท้า ดุว่าเบาหวานขึ้นตาไหม ตรวจเท้าดูว่า เส้นประสาทที่เท้ามันยังรู้สึกไหม หายไปหรือยัง ปรากฎว่าผลตรวจออกมายังปกติ เขาก็สั่งยามาให้เรากิน ตอนที่เรารู้ตัวคือ อายุ 35-36 แล้ว แต่ผมก้รู้สึกว่าตัวเองยังปกติ ผมใช้คำพูดว่า ก็เบาหวาน ทุกคนก็เป็นกันเยอะแยะ

แล้วผมก็ไปตรวจ sleep test อาจารย์มาช่วยอ่าน บอกว่านอนกรนเยอะนะ ช่วงที่หยุดหายใจ ประมาณเกือบ 45 วินาที ออกซิเจนที่ปลายนิ้วต่ำกว่า 60 แปลว่าอะไร แปลว่าถ้านอนอยู่ที่โรงพยาบาล ต้องโดนปั๊มหัวใจแล้ว 

ต่อมาที่โรงพยาบาลผมมีเครื่องไฟโบรสแกน หรือว่า เครื่องตรวจดูว่ามีไขมันพอก ตับ เอามาให้เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลทดลองใช้ ผมขอคิวแรง ค่าตับมีอยู่ 3 ระดับ ของหมอขึ้นไปอยู่ระดับ 3 คือแย่สุด เรียกได้ว่าเยินแล้ว สุกแล้ว สุกมากกว่านี้จะเป็นปลาร้าแล้ว แต่ยังมีความโชคดีที่ไม่มีพังผิด

จุดเปลี่ยนที่ทำให้อยากลุกขึ้นมาดูแลสุขภาพ

ผมเชื่อว่าหลายคนมีจุดเปลี่ยนในชีวิตที่อย่างทำให้ดีขึ้น ผมมีลูก 2 คน ลูกคนโตผมคลอดช่วงโควิด แต่วันที่ลูกคนที่ 2 คลอด เราปล่อยภรรยาให้นมลูก ตอนกลางคืนเราหลับไปเลย เห็นภรรยาที่เพิ่งผ่าตัดมาให้นมลูก เรารู้สึกว่า เราจะอยู่อย่างนี้ต่อไปเหรอ ถ้าเป้นแบบนี้ต่อไปจะได้อุ้มลูกเหรอ วันที่ลูกคลอดตัวเองอายุ 40 กว่า เราอบากอยู่กับลูก เราบอกกับทุกคนว่าจุดมุ่งหมายสำคัญที่สุดในชีวิต เมื่อลูกอายุ 20 ปี อยากพาลูกไปเที่ยว เป็นสายแด๊ดดี๊ พาลูกนั่งดริ๊งค์ นั่งแฮงค์เอาต์ การที่จะทำอย่างนั้นได้ แปลว่า เราต้องอยู่ถึง 60 ปี โดยที่ต้องไม่มีโรค 

เลือก "ยาแรง" รักษาเบาหวานหาย

ผมต้องกําลังจะบอกว่าในช่วงที่ผ่านมาเนี่ย เรื่องของคําว่าโรคเบาหวานกับโรคความดัน เราได้ยินมาโดยตลอดว่ามันเป็นโรคที่ไม่มีทางรักษาหาย เบาหวานเป็นแล้วเป็นเลย ความดันเป็นแล้วเป็นเลย ขนาดผมเป็นหมอเองผมก็รู้สึกอย่างนั้น 

จนกระทั่งมีช่วงนึงนั่งดูยูทูบ ดูช่องข้อมูลต่างต่างนานาทั่วโลกเลย ทั้งหมอไทยทั้งหมอต่างประเทศ ขออนุญาตกล่าวถึง อาจารย์คือ อาจารย์ ธนศักดิ์ ยิ้มเกิด เป็นหมอไทยคนแรกที่บอกว่า "เบาหวานหายได้" แล้วฟังแล้วก็คิดว่าบ้ารึเปล่า เบาหวานอะไรหายได้ แต่ก็เข้าไปนั่งฟังแกหน่อย พอฟังความรู้จากอาจารย์ กลายเป็นคำว่า Diabetes Remission หรือว่า เบาหวานหายได้ 

ถ้าเราเข้าใจและปรับเปลี่ยน ทำให้ชีวิตเราอยู่ยาวนานมากขึ้น ผมเลือก "ยาแรง" ตัดสิ่งที่ทำให้เกิดเบาหวาน ก็คือ น้ำตาล เลยเนี่ย น่าจะดีขึ้น 

กลุ่มที่เรียกว่ายาแรง เราต้องมาเคลียร์กันก่อน ว่าคุณตั้งใจจะหายแน่นอน และคุณไม่งอม ยังดูแอคทีฟเป็นปกติ เพราะฉะนั้น หมอจะลดน้ำตาลทั้งหมดทั้งมวล ตัดออกก่อนอย่างแรก และถ้าเกิดยังกินยาอยู่ ยาบางตัวจะทำให้น้ำตาลต่ำ เราตัดยาที่ทําให้น้ําตาลเราต่ำลง ทั้งยากินและยาฉีด 

แปลว่า "ร่างกายผมจะไม่มีอะไรที่ทําให้น้ําตาลต่ําลงได้ ยกเว้นตัวข้าพเจ้าเอง"

ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน

แล้วผมไม่กินน้ำตาลไม่กินข้าวแล้วผมจะตายไหม อาจารย์บอกว่า คุณหมอเจด ไม่กินน้ำตาล ไม่กินข้าว ไม่กินแป้ง คุณไม่ตายหรอก ถ้าเข้าใจเรื่องกลไกการสร้างน้ำตาลให้กับร่างกาย คุณจะเข้าใจว่า ไม่จําเป็นต้องกินข้าวและแป้งก็ได้ 

จริงๆ แล้ว กลไกในการที่ร่างกายสร้างน้ําตาลเป็นพลังงานให้กับเซลล์ มันมีหลายอย่าง เราอาจจะใช้ไขมันแทน ซึ่งเราอาจจะชอบมากกว่าด้วยซ้ำ

อาจารย์บอกว่าลองเปลี่ยนวิธีกิน ลองเลือกดู เช่นกินแบบคีโตไดเอท กินแต่มันหมูกินแต่ชีสกินแต่อะไรแล้วไม่มีกินกินแป้งเลย ผมอาจจะไม่ค่อยไหว อาจารย์แนะนำว่า งั้นลองกินเนื้อ กินมันแทรกได้อาจารย์ไม่ได้ว่าอะไร ยิ่งดี เพราะคุณจะได้ทั้งโปรตีนและไขมันดีเข้าไปในร่างกาย จะได้ไม่เกิดปัญหาเรื่องของฮอร์โมนบางอย่าง

ก็เริ่มกินสเต๊ก โดยไม่ต้องกังวลว่าจะอิ่มหรือไม่อิ่มคุณกินให้เต็มที่เลย ผมกิน 3 ชิ้น4 ชิ้นได้เลย อาจารย์บอกว่าลองกินดู ก็กินกินบ่อยขนาดไหน

ปรากฏว่าเรากินสเต็กอย่างเดียวครับ โดยที่ไม่ต้องใส่น้ําราดไม่ใส่ปรุงใส่แค่เกลือและพริกไทยอย่างเดียวเนี่ย ผมบอกเลยเต็มที่ไม่เกิน 300 กรัม เพราะมันเอียนแล้วมันอิ่ม แต่ถ้าเป็นสมัยก่อนที่เรามีเฟรนช์ฟรายด์เรามีซอสมะเขือเทศ เรามีน้ําจิ้มจิ้ม หรือมีซีซันต่างต่างนานาเราดันกินได้หมด แล้วถ้าหิวตอนกลางคืน ก็กินไข่

กาแฟเราต้องปรับเปลี่ยนหมดเลย จะกินอเมริกาโน่ยังไงให้มันเท่ดี ก็บอกลูกน้องว่าช่วยคิดหน่อยสิ น้องลูกน้องบอกว่าอาจารย์อาจารย์ไปดูซีรี่ย์เกาหลีสิพระเอกอ่ะ กินไอซ์อเมริกาโน่แล้วเราก็อยากเท่แบบคนเกาหลี ก็กินไอซ์อเมริกาโน่ก็ได้

เพราะฉะนั้นอาหารที่กินส่วนใหญ่จะเป็นแค่โปรตีนกับไขมันดี บางทีใส่น้ํามันมะกอกไปหน่อย ใส่พวกเนยเข้าไปหน่อยได้ไม่มีปัญหา ส่วนเรื่องน้ําหรือเครื่องดื่ม เป็นเรื่องที่สําคัญ ผมกินอยู่ไม่กี่อย่างหนึ่งก็คือกาแฟดําเท่านั้น น้ำเปล่าผมกิน และชาวงเล็บว่าต้องเป็นชาใสเท่านั้น

ผมกินแบบนี้สัก 2-3 เดือน โดยที่ผมไม่ได้ออกกําลังกายเลย

ติดตามเจอร์นี่สู่การมีสุขภาพดีของหมอเจดเต็มๆ ได้ ที่ รายการ How Are You? เป็น-อยู่-อย่างไร ทาง Youtube: TNN Originals