Motor Show 2021 : 15 มอเตอร์ไซต์เด่น ประจำงานมอเตอร์โชว์ 2021
เปิดฉากยิ่งใหญ่ 34 ค่ายรถยนต์-จักรยานยนต์ร่วมงาน กระตุ้นเศรษฐกิจไทย สำหรับ งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2021 โดยบริษัทกรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) และในงานได้ยกสุดยอดมอเตอร์ไซต์ที่เป็นไฮไลท์ในงานที่ตอบโจทย์ให้กับนักขับขี่แต่ละประเภท 15 รุ่นดังนี้
Harley-Davidson Pan America 1250
Harley-Davidson Motors สร้างนิยามแห่งการผจญภัยใหม่ ส่ง Pan America™ 1250 รถมอเตอร์ไซค์แอดเวนเจอร์ทัวร์ริ่งรุ่นแรกของแบรนด์ เร่งเครื่องเต็บสูบเขย่าวงการด้วยนวัตกรรมสุดล้ำและระบบส่งกำลังรูปแบบใหม่ เผยโฉมให้เห็นเป็นครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกภายในงาน Bangkok International Motor Show ระหว่างวันที่ 24 มีนาคม ถึง 4 เมษายน 2564 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ เมืองทองธานี
Harley-Davidson นำความเชี่ยวชาญด้านการออกแบบและหลักการทางวิศวกรรมมาใช้ในการสร้างสรรค์ Pan America 1250 และ Pan America 1250 Special เพื่อตอบโจทย์การขับขี่รถสไตล์แอดเวนเจอร์ทัวร์ริ่งที่แท้จริง ซึ่งมาพร้อมกับนวัตกรรมสุดล้ำและสมรรถนะเต็มเปี่ยม ในราคาเริ่มต้น 899,000 บาท รถมอเตอร์ไซค์รุ่น Pan America เสริมสมรรถนะการขับขี่ด้วยขุมพลัง V-Twin รุ่นใหม่อย่าง Revolution® Max 1250 ที่มีอัตราส่วนการอัด 1,252 ซีซี. ออกแบบพิเศษเพื่อให้ทำงานได้อย่างเต็มที่ในหลายย่านความเร็ว และเมื่อต้องการกำลังและความเร็ว ของรอบเครื่องสูง (high RPM)
นอกจากนี้ Pan America ยังเป็นรถมอเตอร์ไซค์คันแรกของวงการที่มีระบบ Adaptive Ride Height หรือระบบกันสะเทือนแบบใหม่ ที่จะช่วยปรับระดับความสูงของตัวรถอัตโนมัติ ปรับตัวรถให้อยู่ในระดับต่ำ เมื่อหยุดรถ และปรับระดับให้สูงพอดีในขณะขับขี่เมื่อรถเริ่มออกตัว รถมอเตอร์ไซค์แอดเวนเจอร์ทัวร์ริ่งคันนี้ยังมีไฮไลท์อื่นๆ อีกมากมาย อาทิ ล้อซี่ลวดแบบไร้ยางใน ตัวแทนแห่งความทนทานและสะท้อนถึงเทคโนโลยีสุดล้ำเพื่อเสริมสมรรถนะให้แก่ตัวรถโดยการลดน้ำหนักของยางในออกไป
Pan America มีเฉดสีให้เลือกอย่างหลากหลายเพื่อบ่งบอกความเป็นตัวตนของคุณ อาทิเช่น Vivid Black และ River Rock Gray ส่วนรุ่น Pan America 1250 Special มีเฉดสีให้เลือกถึง 4 สี ได้แก่ Vivid Black, Gauntlet Gray Metallic, Deadwood Green และสีทูโทน Baja Orange/Stone Washed White Pearl โดยทุกสีนั้นจะมาพร้อมกับลวดลายโลโก้ Harley-Davidson ที่ถูกออกแบบไว้บนตัวถังรถ
Suzuki Gixxer SF
Suzuki All New Gixxer SF ได้ถูกออกแบบภายใต้ Concept “Lifestyle Sport Bike” ที่พัฒนาในด้านของดีไซน์ที่ทันสมัย ที่ได้รับแรงบันดาลใจการออกแบบสไตล์ยุโรป พร้อมทั้งสมรรถนะที่สามารถตอบสนองการใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างดีเยี่ยม ทั้งการใช้ชีวิตในเมือง หรือการใช้ในการท่องเที่ยวได้ทุกที่ เป็นรถจักรยานยนต์ที่สามารถตอบโจทย์ในทุกกิจกรรม ไปได้ทุกที่ด้วย Feature ที่หลากหลาย พร้อมด้วยสมรรถนะของเครื่องยนต์ที่การันตีและถ่ายทอด DNA จาก Super Bike ของ Suzuki โดยตรง ที่จะทำให้ทุกการใช้ชีวิตของคุณเป็นเรื่องง่าย แต่ยังคงความเป็น Sport Bike ได้อย่างสมบูรณ์แบบที่เป็นนิยามความสปอร์ตใหม่ในแบบของคุณ “Your Track Redefined”
ด้วยเครื่องยนต์ขนาด 249.1 ซีซี แบบ SOHC ที่มีสมรรถนะสูงพร้อมความทนทาน ออกแบบและพัฒนา เพื่อตอบสนองในทุกอัตราเร่งที่ละเอียดแม่นยำ ส่งผลให้ทุกครั้งที่เปิดคันเร่งจะได้ความรู้สึกที่ทะยานอย่างเร้าใจและทรงพลัง อีกทั้งยังได้นำเทคโนโลยีจากรถจักรยานยนต์ที่ใช้ในสนามแข่งระดับโลก MotoGP และเทคโนโลยี SOCS (Suzuki Oil Cooling System) ระบบระบายความร้อนด้วยน้ำมัน ที่ ซูซูกิ คิดค้นและใช้เป็นเจ้าแรก ส่งถ่ายน้ำมันเครื่องไปยัง Oil Cooler และวนกลับมาหล่อเย็นบริเวณด้านบนของเสื้อสูบ เพื่อลดความร้อนจากการจุดระเบิด อีกทั้งยังมีน้ำหนักที่เบา ให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ สามารถให้สมรรถนะสูงสุดได้อย่างที่ใจต้องการ อัตราเร่งเร้าใจในทุกรอบความเร็ว อีกทั้งยังมีขนาดกะทัดรัด, ประหยัดน้ำมัน, ทนทาน และดูแลได้อย่างง่ายดาย
ไฟหน้าแบบ LED ออกแบบให้มีความสปอร์ต เร้าใจ ตั้งแต่แรกเห็น พร้อมให้ทัศนวิสัยที่ชัดเจนในค่ำคืน หรือแม้แต่ในเวลากลางวัน มาพร้อมไฟท้ายรูปทรงปราดเปรียวแบบ LED ถูกออกแบบให้มีความกระทัดรัด แต่ เท่ สปอร์ต สว่างชัดเจนในทุกมุมมอง มาตรวัด Digital แบบ Full LCD แสดงผลครบทุกฟังก์ชั่น การใช้งาน เกี่ยวกับตัวรถได้ครบครัน อ่านง่ายชัดเจน และง่ายดาย ในทุกช่วงเวลาไม่ว่าจะเป็นกลางวันหรือกลางคืนสปอร์ตล้ำสมัย
ระบบสตาร์ทอัจฉริยะแบบ Push Start สตาร์ทง่ายเพียงสัมผัส ทำให้ทุกการขับขี่ของคุณง่ายขึ้นไม่ว่าเครื่องยนต์ขณะสตาร์ทจะมีอุณหภูมิที่ต่ำหรือสูงก็ตาม กล่องสมองกล ECM จะทำการควบคุมมอเตอร์สตาร์ทให้ทำงานโดยอัตโนมัติจนกว่าเครื่องยนต์จะสตาร์ทติดและผู้ขับขี่ไม่จำเป็นต้องกดสวิตช์สตาร์ทค้างไว้จนกว่าเครื่องยนต์จะเริ่มทำงาน มั่นใจด้วยดิสก์เบรกหน้าขนาดใหญ่ขนาด 300 มม. แบบสปอร์ตไบค์ตัวจริงพร้อมคาลิปเปอร์จาก BYBRE By Brembo อุปกรณ์และระบบเบรกระดับเวิล์ดคลาส และดิสก์เบรกหลัง พร้อมระบบ ABS ควบคุมแรงเบรกได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยอัตโนมัติ
Suzuki V-Strom 1050XT
รถจักรยานยนต์สปอร์ตแอดเวนเจอร์ทัวร์เรอร์ ที่ตอบสนองความต้องการและไลฟ์สไตล์ของผู้ขับขี่ได้อย่าง ไร้ขีดจำกัด พร้อมดีไซน์ที่โดดเด่นด้วยการออกแบบด้านหน้าปากนกตามแบบฉบับของ ซูซูกิ อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีเส้นตรงตั้งแต่ปลายด้านบนของถังน้ำมัน ส่งผลให้ดูเด่นชัดและมีความสปอร์ตมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นดีไซน์ที่ถูกถ่ายทอดมาจาก “เจ้าแห่งทะเลทราย” อย่าง DR-Z และ DR-BIG ในอดีต
โลดแล่นไปได้ทุกที่อย่างอิสระ แม้ในการขับขี่บนที่ลาดชันหรือภูเขาสูง ผสานประสิทธิภาพของเครื่องยนต์แบบ V-Twin 90 องศา ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยสมรรถนะ พร้อมด้วยระบบอิเลคทรอนิกส์ที่ล้ำสมัย เช่น Suzuki Intelligent Ride System (S.I.R.S) ตลอดจนได้พัฒนาและอำนวยความสะดวกสบายให้ผู้ขับขี่มากยิ่งขึ้นด้วยกล่อง Inertial Measurement Unit (IMU) ที่ทำหน้าที่ประมวลผลลักษณะการขับขี่องศาของตัวรถในหลายรูปแบบ อีกทั้งยังมีระบบต่างๆ ที่บรรจุไว้ในรถจักรยานยนต์ V-Strom 1050XT คันนี้ ไม่ว่าจะเป็น Motion Track Brake System, Hill Hold Control System และ Slope Dependent Control System ทั้งยังให้สมรรถนะ พร้อมฟิลลิ่งในการทรงตัวที่ดีเยี่ยม ซูซูกิ V-Strom 1050XT จึงเป็นคำตอบและพร้อมที่จะตอบสนองความต้องการของผู้ขับขี่ที่หลงใหลในสไตล์แอดเวนเจอร์อย่างแท้จริง เพราะนี่คือ “Master of Adventure
Suzuki GSX-S 750
นับว่าเป็นกระแสรถจักรยานยนต์สไตล์สตรีทสปอร์ตยอดนิยมอีกครั้ง กับ Suzuki GSX-S750 ที่ได้รับการยอมรับในตลาดอย่างกว้างขวางถึงสมรรถนะที่ยอดเยี่ยมจนได้รับรางวัล Thailand Bike of the Year 2021 ในรุ่น Best Naked Middle Weight มาครองได้อย่างเต็มภาคภูมิ และในปีนี้ ซูซูกิ ได้นำ New GSX-S750 ใหม่ล่าสุดมาให้ทุกท่านได้ชมได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด และเป็นเจ้าของได้อย่างง่ายดาย ด้วยสีใหม่ถึง 3 สี สีน้ำเงิน/ดำ, สีเทา/ดำ และสีดำด้าน ที่เร้าใจตั้งแต่แรกเห็น
Suzuki New GSX-S750 ได้รับการถ่ายทอดทางวิศวกรรมจากรถแข่ง MotoGP สู่รถจักรยานยนต์ทางเรียบแนวสตรีทไบค์ สไตล์ Naked ทางซูซูกิ จึงมีคอนเซ็ปต์ “สตรีทไบค์ที่มีรูปลักษณ์ที่ดุดัน พร้อมกับการขับขี่ที่สะดวกสบาย” ให้กำลังแรงในทุกย่านความเร็ว แต่สามารถควบคุมและบังคับรถได้ง่ายดายและอย่างแม่นยำในทุกการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ DOHC 4 สูบเรียง ขนาด 749 ซีซี 4 จังหวะ พร้อมด้วยหัวฉีดอัจฉริยะที่เพิ่มรูหัวฉีดเป็น 10 รู เพื่อทำให้หัวฉีดสามารถฉีดน้ำมันได้ละเอียดมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้เพิ่มสมรรถนะและจุดระเบิดได้ดีมากยิ่งขึ้น นี่คือรถจักรยานยนต์ที่ถูกจูนอัพมาเพื่อสายสตรีทไบค์โดยเฉพาะ เครื่องยนต์ระดับตำนานของ GSR750 ที่ถูกออกแบบให้เครื่องตอบสนองได้ในทุกอัตราเร่ง ความเร้าใจ ด้วยความนุ่มนวลสูงสุด และตอบสนองได้อย่างทันที, การควบคุมอัตราเร่งได้อย่างทันใจ ใหม่ล่าสุดกับการเพิ่มรูระบายของ Crank Case เพื่อลดอัตราการสูญเสียระหว่างการปั๊มน้ำมัน พร้อมการเพิ่มพลังกำลังสูงสุด ในขณะเดียวกันยังสามารถผ่านค่ามาตรฐาน ไอเสียระดับยูโร 4 เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
อีกทั้งมีระบบ Suzuki Easy Start ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถสตาร์ทเครื่องยนต์ได้อย่างง่ายดายเพียงปลายนิ้วสัมผัสและระบบ Traction Control ผู้ขับขี่สามารถเลือกใช้ระบบได้ถึง 3 โหมด โหมดสปอร์ต, โหมดขับขี่ในเมือง และโหมดถนนเปียกลื่น ทำให้ควบคุมรถได้อย่างมั่นใจ และป้องกันการลื่นไถลในทุกสภาพการขับขี่ นี่คือที่สุดแห่งสายพันธุ์สปอร์ตตัวจริง
Suzuki V-Strom 650XT
Suzuki V-Strom 650XT รถจักรยานยนต์สไตล์ แอดเวนเจอร์ ทัวร์เรอร์ ตอกย้ำความเป็น “เจ้าแห่งการผจญภัย” การันตีด้วยตำแหน่ง Bike of the Year 2021 ในรุ่น Best Weight พร้อมเปิดตัวในงาน Bangkok International Motor Show 2021 กับ 3 สีใหม่ล่าสุด สีเหลือง, สีเทา และสีแดง/ดำ ที่จะปลุกเร้าอารมณ์ของเหล่านักเดินทางอีกครั้ง มาพร้อมกับเทคโนโลยีที่อัดแน่นไปด้วย Features ต่างๆ ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สนุกไปกับทุกการเดินทาง และพร้อมที่จะบันทึกประสบการณ์หน้าใหม่ให้เกิดขึ้นได้อย่างเต็มรูปแบบด้วยรถจักร ยานยนต์ Dual-purpose อันเลื่องชื่อ สมกับเป็น “เจ้าแห่งการผจญภัย”
มาพร้อมกับเครื่องยนต์แบบ DOHC V-Twin 90 องศา 645 ซีซี ส่งผ่านด้วยระบบเกียร์ 6 สปีด ระบายความร้อนด้วยน้ำ และระบบ Traction Control 3 ระดับ โดยจะมีการประมวลผลจากเซ็นเซอร์ที่ติดตั้งถึง 5 จุด ทำให้ควบคุมรถได้อย่างมีประสิทธิภาพ โครงสร้างตัวถังและสวิงอาร์มของ New Suzuki V-Strom 650XT ได้รับการออกแบบให้มีน้ำหนักเบาและแข็งแรงด้วยการใช้เฟรมอะลูมิเนียมอัลลอยด์ แบบทวิน-สปา (Twin-Spar Aluminum-Alloy Frame and Swingarm) จึงช่วยซับแรงสั่นสะเทือนได้อย่างดีเยี่ยม
และการทรงตัวเป็นยอดแม้การขับขี่ด้วยความเร็วสูง
เพิ่มความนุ่มนวลในการขับขี่ด้วยล้ออะลูมิเนียมแบบซี่ลวด ยางแบบ Tubeless ที่มีประสิทธิภาพในทุกสภาพถนน และช่วยซับแรงสั่นสะเทือนได้ดีในทุกการขับขี่ เบรกหน้าแบบ Twin Disc และหลังแบบ Single Disc พร้อมระบบเบรก ABS หน้า-หลัง ช่วยป้องกันล้อล็อคแบบอัตโนมัติ เมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน อีกทั้งมาตรฐาน Made In Japan ที่ผลิตและนำเข้าจากญี่ปุ่นทั้งคัน บ่งบอกถึงคุณภาพแบบ Japanese DNA ได้แบบ 100%
Suzuki V-Strom 650XT ใหม่ทั้ง 3 สี จึงเป็นคำตอบในความท้าทายทุกการขับขี่ พบกับตัวจริงที่งาน Bangkok International Motor Show 2021 และเป็นเจ้าของรถ Dual-purpose เจ้าแห่งการผจญภัย ในราคา 371,000 บาท
Honda X-ADV750
All New Honda X-ADV750 รถ SUV Bike ระดับท็อป ได้รับการยกระดับเทคโนโลยีครั้งสำคัญภายใต้แนวคิด “Let Your Instinct Lead The Way” พัฒนาสู่การเป็น Adventure Urban Vehicle อย่างสมบูรณ์แบบ มาพร้อมฟังก์ชันใหม่ Honda Smartphone Voice Control System เชื่อมต่อสมาร์ทโฟนกับตัวรถผ่านแอปพลิเคชันของฮอนด้า สั่งการได้ด้วยเสียง ขับขี่ได้อย่างมั่นใจด้วยปุ่มควบคุมมัลติฟังก์ชันที่แฮนด์เดิลบาร์โดยไม่ต้องละสายตาจากท้องถนน มาพร้อมขุมพลังใหม่ 2 สูบ ขนาด 750 ซีซี พร้อมด้วยคันเร่งไฟฟ้า (Throttle by Wire) ให้การตอบสนองดีเยี่ยม และสามารถปรับตั้งค่าการขับขี่ได้ถึง 5 โหมด เปิดตัววางจำหน่ายด้วยราคา 425,000 บาท
Honda CB1300 SUPER FOUR และ BOLD’OR
New Honda CB1300 SUPER FOUR และ CB1300 BOLD’OR พัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิด “The Ultimate Legacy ที่สุดของตำนาน บนทุกเส้นทาง” โดดเด่นด้วยดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ ระบบไฟส่องสว่างแบบ LED รอบคัน ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 1,300 ซีซี 4 สูบเรียง DOHC 16 วาล์ว มาพร้อมระบบ Assist Slipper Clutch และ Riding Modes ให้เลือกถึง 3 รูปแบบ ได้แก่ Standard, Sport และ Rain ขับขี่สะดวกสบายด้วยระบบควบคุมความเร็ว Cruise Control มั่นใจในประสิทธิภาพของระบบช่วงล่าง หน้า-หลัง จาก SHOWA ที่ปรับตั้งค่าได้อย่างละเอียด CB1300 SUPER FOUR วางจำหน่ายด้วยราคา 575,000 บาท และ CB1300 BOLD’OR ราคา 600,000 บาท
Honda Rebel 1100
New Honda Rebel 1100 ที่สุดของตระกูล Rebel Series พัฒนาภายใต้คอนเซปต์ “Ride Your Rule ขบถ...เพื่อกำหนดนิยามใหม่” ผสานความดิบและความดุดันเข้ากับเทคโนโลยียุคใหม่ได้อย่างลงตัว
โดดเด่นด้วยไฟหน้าแบบ Full LED มอบแรงบิดทรงพลังด้วยเครื่องยนต์ 1,100 ซีซี 2 สูบเรียง ระบายความร้อนด้วยน้ำ ให้พละกำลังสูงสุด 87 แรงม้า ที่ 7,000 รอบต่อนาที ทำแรงบิดสูงสุด 98 นิวตันเมตร ที่ 4,750 รอบต่อนาที และความจุถังเชื้อเพลิงอยู่ที่ 13 ลิตร มาพร้อมระบบ Assist Slipper Clutch ในรุ่น MT และ Dual Clutch ในรุ่น DCT รองรับการเดินทางไกลด้วยระบบ Cruise Control เปิดตัววางจำหน่ายด้วยราคา 399,000 บาท สำหรับรุ่น MT และราคา 429,000 บาท สำหรับรุ่น DCT
Honda Lead125
New Honda LEAD125 รถ เอ.ที. ที่พร้อมตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของคนเมือง ภายใต้คอนเซปต์ “มอเตอร์ไซค์ของคนมีของ” สง่างามเรียบหรูทุกมุมมอง ตัวรถออกแบบบนพื้นฐานของความเป็นสมาร์ทซิตี้ไบค์ ผสานฟังก์ชันการใช้งานสำหรับคนเมืองได้อย่างสมบูรณ์แบบ มาพร้อมเครื่องยนต์ eSP ขนาด 125 ซีซี ระบายความร้อนด้วยน้ำ ให้แรงม้าสูงสุดที่ 11 แรงม้า ที่ 8,500 รอบต่อนาที ทำแรงบิดสูงสุด 10.7 นิวตันเมตร ที่ 5,000 รอบต่อนาที ขับเคลื่อนด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติแบบสายพาน น้ำหนักตัวรถอยู่ที่ 114 กิโลกรัม ถังเชื้อเพลิงขนาด 6 ลิตร
จุใจกับพื้นที่ใต้เบาะ U-Box ขนาดใหญ่ถึง 37 ลิตร สามารถเก็บหมวกกันน็อกได้ 2 ใบ เพิ่มความสะดวกด้วยคอนโซลหน้าขนาดใหญ่ พร้อมช่องชาร์จไฟสำรองแบบ AC socket รองรับการใช้งานได้เอนกประสงค์ยิ่งขึ้นด้วยแร็กท้ายขนาดใหญ่เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน และยังสามารถกดเปิดฝาเติมน้ำมันได้อย่างสะดวกโดยไม่ต้องลงจากรถ New Honda LEAD125 มีให้เลือก 3 เฉดสี ได้แก่ สีขาว, สีแดง และสีดำ เปิดตัววางจำหน่ายด้วยราคาแนะนำ 55,500 บาท
Honda Monkey
Monkey หนึ่งในมอเตอร์ไซค์คันจิ๋วที่มีทั้งรายละเอียดที่เนี๊ยบกริ๊บ เช่น การย้อนอดีตถังน้ำมันเหล็กมาสู่ปัจจุบัน ความยากคือขั้นตอนการผลิตที่ทุกคนลืมการใช้ชิ้นงานเหล็ก แต่เรานึกสนุกนํากลับมาใช้งาน และลูกเล่นสนุกๆ Customized แบบเต็มที่ ที่เปลี่ยนนิยามใหม่ของความซน จนกลายเป็นของน่าเล่น ไอเท็มที่ต้องครอบครอง
กว่า 2 ปีที่กระดาษดีไซน์ต้องถูกขยําและรื้อใหม่รอบแล้วรอบเล่า ตลอดการผลิตเพื่อคงไว้ซึ่งพันธุกรรมความซนแบบ Master of ASOBI ซึ่งหมายถึงการเล่นสนุก รวมไปถึงความโดดเด่นแตกต่างของตัวเองโดยดีไซน์เนอร์ตัวจริงชาวญี่ปุ่นที่เคยออกแบบ Monkey เมื่อครั้งอดีต จึงเต็มเปี่ยมไปด้วย จิตวิญญาณของ Monkey อย่างไม่ลดน้อยถอยลงไป
วิวัฒนาการความซนที่ไม่มีวันเปลี่ยน ไฟหน้าทรงกลม และเบาะนั่งเดี่ยวที่แยกกับตัวถังน้ํามัน รวมถึงท่วงท่าอันเป็นเอกลักษณ์ในการขับขี่ แบบสามเหลี่ยมทรงข้าวปั้น Onigiri แฮนด์ยกสูงหลั่นระดับเป็น Unique Balance เข่าคู้ขึ้น แขนฉากแนบตัว คล้ายลิงตัวจ้อยตามฉายา Monkey
Honda Super Cub
Honda Super Cub มอเตอร์ไซค์มีความเรียบง่ายแต่มีสไตล์ไม่เหมือนใคร มาพร้อมกับเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์การใช้งานแบบรอบด้าน คุ้มค่าทุกการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ใหม่ Honda Smart Engine ด้วยฟีเจอร์การใช้งานสะดวกครบครัน ความสวยงามดั้งเดิมเหนือกาลเวลาที่คงสเน่ห์เฉพาะตัว นอกจากนี้ตัวรถยังใช้ตัวถังใหม่ทำให้รถน้ำหนักเบาลงถึง 3 กิโลกรัม ช่วยให้ขับขี่ง่าย มั่นคง และคล่องตัวมากยิ่งขึ้น ด้านไฟหน้าเป็นแบบทรงกลม LED สวยงามทันสมัย ส่องสว่างคมชัดทุกเส้นทาง ส่วนกระจกมองข้างมาในแบบทรงกลมเสริมความคลาสสิกตามแบบฉบับ Super Cub
Honda Smart Engine เทคโนโลยีเครื่องยนต์ใหม่ล่าสุดจากฮอนด้า ครบครันด้วยสมรรถนะและความประหยัดที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ เครื่องยนต์ 110 ซีซี ระบบหัวฉีดแบบ PGM-FI ที่พัฒนาระบบจำยน้ำมันเชื้อเพลิงที่สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ประสิทธิภาพเครื่องยนต์ดีเยี่ยมกำลังและอัตราเร่งดีขึ้น ขับขี่ง่ายคล่องตัว ทนทานใช้งานได้นาน แถมประหยัดน้ำมัสูงสุด 71.4 กม./ลิตร
นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ใหม่ ได้แก่ LCD Digital Multi-Meter หน้าปัดเรือนไมล์ใหม่ ผสานเทคโนโลยี จอแสดงผล Digital LCD สวยคมชัด โชว์ข้อมูลชัดเจน, เบาะยาวตอนเดียวพร้อมมือจับหลังโครเมียม กว้างนั่งสบาย บรรทุกก็อุ่นใจ ตอบโจกย์ทุกการใช้งาน และโช้กใหม่แข็งแรงทนทาน เพอิ่มระยะยุบตัวของโช้กหน้า-หลัง ซับแรงกระแทกและทรงตัวได้ดีจะบรรทุกหรือขึ้นเนินก็มั่นใจ
Yamaha MT-07
Yamaha MT-07 ที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Dark Side of Japan และตอนนี้เป็นหนึ่งในมอเตอร์ไซค์ที่ขายดีที่สุดในตลาดยุโรปตลอดกาลของ Yamaha และเป็นเรื่องง่ายที่จะเห็นว่านักบิดจำนวนมากเลือกขี่ Hyper Naked ที่น่าตื่นเต้นคันนี้
เครื่องยนต์ครอสเพลน 2 สูบ CP2 ขนาด 689 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 73.4 แรงม้า ที่ 9,000 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 67 นิวตันเมตร ที่ 6,500 รอบต่อนาที ผ่านมาตรฐาน Euro5 ได้รับการออกแบบมาเพื่อมอบแรงบิดที่ก้าวร้าวอย่างเห็นได้ชัด เพื่อการเร่งที่เร้าใจพร้อมความประหยัด นอกจากนี้ยังโดดเด่นด้วยชุดแฟริ่งรอบคันใหม่และช่องดักอากาศที่มีเส้นสายคมชัด ยิ่งขึ้นช่วยเสริมรูปลักษณ์ของ Hyper Naked ให้ดูแข็งแกร่ง ส่วนเบาะนั่งออกแบบใหม่ช่วยให้ตำแหน่งการขับขี่ดีขึ้น
สำหรับราคาของ Yamaha MT-07 เปิดตัวอยู่ที่ 289,000 บาท
Yamaha XSR155
Yamaha XSR155 รถจักรยานยนต์สไตล์ Sport Heritage ความทรงจำเดินทางไปพร้อมกับเทคโนโลยี ดีไซน์ข้ามกาลเวลา Custom ได้ในแบบที่เราเป็น เครื่องยนต์ 155 CC VVA แรงเร้าใจ ไปได้ไกลกว่า ในทุกประสบการณ์การขับขี่ ไฟหน้า LED ทรงกลมสไตล์ Heritage ผสานเทคโนโลยีที่เหนือชั้น สว่างชัดทุกระยะการขับขี่ เพิ่มความปลอดภัยในทุกเส้นทาง ไฟท้าย LED ทรงกลมสไตล์ Heritage ตัวจริง ส่องสว่างชัดเจน สอดรับกับดีไซน์ของตัวรถ
หน้าจอแสดงผล LCD Meter สไตล์ Heritage ครบทุกฟังก์ชั่น มาพร้อมตำแหน่งบอกเกียร์ ผสานความล้ำสมัยได้อย่างลงตัว เบาะนั่งตอนเดียวสไตล์ HERITAGE ดีไซน์พิถีพิถัน นั่งสบาย รองรับการเดินทางตลอดเส้นทางการขับขี่ ส่วนยางมาเป็น DUAL PURPOSE ดีไซน์พิเศษ รองรับเส้นทางที่แตกต่างได้หลากหลายเส้นทางการขับขี่
Husqvarna Vitpilen 401
Husqvarna Vitpilen 401 ใช้พื้นฐานจาก KTM Duke 390 แต่แตกต่างด้วยการออกแบบในเส้นสายตัวถังที่นุ่มลึก ดูดีมีชาติตระกูล ซึ่งดูแล้วเป็นสไตล์เรโทรคาเฟ่ที่ไม่ซ้ำซากจำเจในกลุ่มมอเตอร์ไซค์ขนาดเล็ก
ตกแต่งตัวรถด้วยด้วยไฟหน้าทรงกลมแบบ LED ตัวรถมาพร้อมกับเครื่องยนต์ตามมาตรฐาน BS VI ขุมพลังสูบเดี่ยวขนาด 373.2 ซีซี 4 วาล์ว DOHC ระบายความร้อนด้วยของเหลว ทำกำลังออกมาสูงสุด 44 แรงม้า มีแรงบิดสูงสุด 37 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ส่งกำลังสู่ล้อหลังด้วยโซ่ โครงสร้างของ Vitpilen 401 มาในแบบ trellis frame ที่มีน้ำหนักเบา นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับระบบกันสะเทือนของ WP โดยโช้กด้านหน้ามีขนาด 43 มม. แบบหัวกลับ, เบรก ByBre พร้อมระบบ ABS ดูอัลแชนเนลของ Bosch, ดิสก์เบรกหน้าขนาด 320 มม., ดิสก์เบรกด้านหลังขนาด 230 มม.
สำหรับในรุ่น Vitpilen ตัวรถจะใช้สีขาว ซึ่งตามความหมายในภาษาสวีเดนแปลว่า “ลูกศรสีขาว”
KTM 790 Adventure R
790 Adventure R ได้รับการออกแบบตามที่ KTM ได้บอกว่ามันคือมอเตอร์ไซค์แอดเวนเจอร์ ที่สามารถลุยเส้นทางออฟโรดหนักๆ ได้สบาย โครงสร้างเป็นแบบ Steel Trellis Frame ช่วงล่างหน้า-หลังมีระยะยุบตัว 240 มม. พร้อมโช้ค WP Xplor ล้อหน้าขนาด 21 นิ้ วและล้อหลัง 18 นิ้ว
ระบบเทคโนโลยีช่วยการขับขี่ประกอบไปด้วย ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี, ระบบเบรค ABS ขณะเข้าโค้ง, เบรค ABS สำหรับเส้นทางออฟโรด (เซ็นเซอร์ที่อยู่เบรคหลังจะหยุดทำงาน ส่วนเซ็นเซอร์เบรคหน้าจะทำงานเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และเซ็นเซอร์ตัวตรวจจับการเอียงของรถจะไม่ทำงาน) ส่วนในโหมด Off Road Ride และ Advanced Rally ผู้ขับขี่สามารถปรับแต่งความสามารถของตัวรถได้อย่างอิสระให้เหมาะสมกับการใช้งาน นอกจากนี้ยังมี Quickshifter, Cruise Control, ระบบเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนผ่าน KTM MY RIDE เพื่อการใช้งานที่หลากหลาย
เครื่องยนต์ยังเป็นรหัส LC8c ขนาด 799 ซีซี แบบ 2 สูบ จับคู่กับระบบส่งกำลัง 6 สปีด และคันเร่งไฟฟ้าจาก KTM มอบพละกำลังสูงสุด 95 แรงม้า ที่ 8,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 88 นิวตันเมตร ที่ 6,600 รอบ/นาที พร้อมถังน้ำมัน 20 ลิตร ที่สามารถเดินทางไกลถึง 400 กม. ในถังเดียว
ข้อมูลข่าว : BangkokMotorshow
ภาพ cover โดย Hans Christian Andersen จาก Pixabay