ตำรวจ ปส. รวบแก็งค์ขนยาข้ามชาติ ยึดไอซ์บิ้กล็อตกว่า 1.5 ตัน เตรียมจ่อออกทะเล ที่ อ.ท่าใหม่ จันทบุรี
ตำรวจปราบปรามยาเสพติด และ กองบังคับการข่าวกรองยาเสพติด ติดตามสืบสวนสะกดรอยไปจับกุมเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดที่ทำหน้าที่รับจ้างขนลำเลียงยา รวม 10 คน ซึ่งสามารถจับกุมตัวทั้งหมดได้ที่ท่าเรือของรีสอร์ทเกาะนกใหญ่ ต.ตะกาดเง้า อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี และบริเวณใกล้เคียง พร้อมตรวจยึดของกลางได้แก่ ไอซ์บรรจุในห่อชาตราทุเรียน ใส่ในกระสอบ ๆ ละ 20 ห่อ พบอยู่บนเรือสปีดโบ้ทที่จอดเทียบท่า 23 กระสอบ พบในรถยนต์กะบะแบบตู้ทึบ ทะเบียน จ.ลพบุรี อีก 52 กระสอบ รวม 75 กระสอบ น้ำหนักรวม 1,500 กก.ขณะเดียวกันยังยึดรถของกลางเป็นรถยนต์เก๋ง จำนวน 4 คัน รถยนต์กะบะ 2 คัน และอาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 มม.อีก 1 กระบอก
โดยก่อนจะไปจับกุมตัวได้ฝ่ายสืบสวนมีข้อมูลว่า เครือข่ายขนยาเสพติดกลุ่มนี้ เป็นเครือข่ายขนยาข้ามชาติ ซึ่งจะใช้เรือสปีดโบ้ทเป็นพาหนะไปส่งยาเสพติดให้กับเรือสินค้ากลางทะเล มีนายอนันต์ อายุ 50 ปี อาชีพไต้ก๊งเรือ มีพฤติการณ์น่าเชื่อว่า เป็นหัวหน้าทีมลำเลียง เดินทางบินตรงมาจากจังหวัดสงขลาเข้ากรุงเทพมหานครพร้อมแฟนสาว จึงจัดกำลังคอยติดตาม จนพบว่าทั้งสองเช่ารถเก๋งจากสนามบินดอนเมืองไป อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี จนกระทั่งเข้าไปที่รีสอร์ทเกาะนกใหญ่ ซึ่งมีท่าเทียบเรือและอยู่ไม่ไกลจากจุดออกทะเล ก่อนพบกับผู้ร่วมขบวนการอีก 3 คน ซึ่งเปิดห้องเช่ารอ ในจำนวนนี้มีเยาวชนอายุ 16 ปีมาร่วมด้วย โดยตำรวจคอยเฝ้าซุ่มดูและสะกดรอยติดตามเป็นระยะ ทำให้ทราบว่าเครือข่ายมีความเคลื่อนไหวคอยติดต่อประสานงานกับผู้ร่วมขบวนการคนอื่นๆเพื่อแบ่งหน้าที่กันอย่างชัดเจน ทั้งคนลำเลียงทางบก ที่ไปรับไอซ์ของกลางจากริมถนนพระรามสอง จ.สมุทรสาคร ก่อนช่วยกันขนลำเลียงลงเรือสปีดโบ๊ท เพื่อจะไปส่งขึ้นเรือขนส่งสินค้าที่ลอยลำรออยู่กลางทะเล แต่ตำรวจเข้าสกัดจับได้ก่อน
จากการสืบสวน พบว่าผู้ต้องหาทั้ง 10 คน เป็นเครือข่ายลูกน้องของกัปตันตุ้ย หรือ นายชาญชัย ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีลำเลียงไอซ์ 2,000 กก.ข้ามชาติ เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.2566 ที่ อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ขณะนี้หลบหนีการจับกุมไปประเทศเมียนมา และยังคงอยู่เบื้องหลังคอยสั่งการ และจากการสอบปากคำผู้ต้องหายอมรับว่ารับคำสั่งจากกัปตันตุ้ย โดยจะได้รับค่าจ้างตั้งแต่ 50,000-300,000 บาท และรับจ้างขนลำเลียงยาเสพติดมาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3
พล.ต.ท.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย ผบช.ปส.เปิดเผยว่าการจับกุมครั้งนี้ถือเป็นการจับกุมได้พร้อมกันทั้งขบวนการลำเลียง ทั้งทีมลำเลียงทางบกและทางทะเล จึงขอเตือนไปยังผู้ที่คิดจะเข้ามาสู่ขบวนการเช่นนี้ ครั้งแรกนั้นอาจรอด แต่ครั้งต่อมามีโอกาสถูกจับกุมและโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต ไม่คุ้มกับค่าจ้างที่ได้รับ