จบเรื่องตรวจหมูแช่แข็ง 2 แสนกิโลฯ พณ.สงขลาแจ้งความห้องเย็น ยัน 'เบทาโกร' ไม่เข้าข่ายกักตุน

ข่าววันนี้ เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 21 มกราคม ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดสงขลา นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นำทีมหน่วยงานที่ร่วมตรวจสอบเนื้อหมูแช่แข็งห้องเย็นใน อ.จะนะ จ.สงขลา เมื่อวันที่ 19 ม.ค.ที่ผ่านมา ประกอบด้วย น.ส.ฉัตร์สุดา ชุมแสง หัวหน้าสำนักงานพาณิชย์จังหวัดสงขลา นายณัฐชัย วรสุทธิ์ หัวหน้าด่านกักกันสัตว์สงขลา นายสัตวแพทย์กิติกรณ์ เจนไพบูลย์ ปศุสัตว์จังหวัดสงขลา และ พล.ต.ต.อาชาน จันทร์ศิริ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา แถลงความคืบหน้าอีกครั้งหลังจากบริษัท เบทาโกรเกษตรอุตสาหกรรม พัทลุง และบริษัท ปิติฟูดส์ จำกัด ได้นำเอกสารหลักฐานมาแสดงต่อพาณิชย์จังหวัดสงขลาเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา

น.ส.ฉัตร์สุดาระบุว่า ได้ดำเนินการใน 3 ประเด็น ได้แก่ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.จะนะ แล้วกรณี “ปิติซีฟูดส์” ไม่ได้แจ้งปริมาณการครอบครองเนื้อสุกรตามประกาศของกระทรวงพาณิชย์ ส่วน “เบทาโกร” มีข้อสงสัยเรื่องการแจ้งปริมาณไม่ตรงกับที่เก็บไว้ในห้องเย็น โดยแจ้งไว้ประมาณ 5 หมื่นกิโลกรัม ทั้งนี้ เมื่อเทียบกับตัวเลขในห้องเย็นที่มีอยู่ 2 แสนกิโลกรัม จึงมีส่วนต่างประมาณ 150,000 กิโลกรัม

น.ส.ฉัตร์สุดากล่าวว่า จากการตรวจสอบเอกสารและการชี้แจงของบริษัทระบุว่าส่วนที่ไม่ได้แจ้งนั้น เนื่องจากในเอกสารแบบแจ้งไม่ได้มีรายการสินค้าเนื้อหมูที่ครอบครองให้แจ้ง อาทิ หมูบด ขาหมู ซี่โครง และหมูสามชั้นแผ่น เมื่อตรวจสอบแล้วก็ตรงกับเอกสารการฝากในห้องเย็น จึงไม่ได้ถือว่าแจ้งความเท็จกับเจ้าหน้าที่ นอกจากนั้นยังได้มีการตรวสอบบัญชีควบคุมการนำเข้าและนำออกสินค้าทั้ง 2 บริษัท พบว่ามีการรับเข้า นำออกเป็นปกติตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2564 ถึงเดือนมกราคม 2565 จึงไม่เข้าข่ายกักตุนสินค้า

ผู้ว่าฯสงขลายืนยันว่า นอกจากห้องเย็นแห่งนี้แล้ว จังหวัดได้สั่งการให้มีการตรวจสอบห้องเย็นที่มีอยู่ทั้ง 16 อำเภอว่ามีการกักตุนเนื้อหมูไว้หรือไม่ ซึ่งมีการรายงานกลับมาแล้วหลายพื้นที่ โดยเฉพาะใน อ.สิงหนคร ที่มีห้องเย็นมากที่สุด จำนวน 4 แห่ง พบว่าไม่ได้มีการกักตุนเนื้อหมูไว้แต่อย่างใด