รีเซต

ให้ไม่เกิน 3 ทุ่ม! เชียงใหม่คลายล็อก ร้านอาหารขายแอลกอฮอล์ให้ลูกค้านั่งดื่มในร้านได้

ให้ไม่เกิน 3 ทุ่ม! เชียงใหม่คลายล็อก ร้านอาหารขายแอลกอฮอล์ให้ลูกค้านั่งดื่มในร้านได้
ข่าวสด
21 มิถุนายน 2564 ( 23:07 )
126
ให้ไม่เกิน 3 ทุ่ม! เชียงใหม่คลายล็อก ร้านอาหารขายแอลกอฮอล์ให้ลูกค้านั่งดื่มในร้านได้

 

เชียงใหม่ออกคำสั่ง ผ่อนปรนมาตรการโควิด เปิดร้านสักหรือเจาะผิวหนังได้ รวมทั้งร้านจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่ม สามารถบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ได้ไม่เกิน 21.00 น. แต่ยังคงให้ปิดสถานที่บางแห่งเป็นการชั่วคราว

 

 

วันที่ 21 มิ.ย.2564 นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผวจ.เชียงใหม่ ฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ลงนามคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ที่ 67 / 2564 เรื่อง ผ่อนคลายมาตรการบางสถานที่และให้ปิดสถานที่บางแห่งเป็นการชั่วคราว หลังจากมีการปรับระดับการกำหนดพื้นที่สถานการณ์ของจ.เชียงใหม่ จากพื้นที่ควบคุมเป็นพื้นที่เฝ้าระวังสูง เพื่อให้เป็นไปอย่างเหมาะสม รวมทั้งผ่อนคลายมาตรการควบคุมต่าง ๆ ให้ประชาชนสามารถประกอบกิจกรรมอันจำเป็นต่อการดำรงชีวิตและการประกอบอาชีพได้มากขึ้น

 

 

โดยให้ยกเลิกคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ที่ 63/2564 เรื่อง ผ่อนคลายมาตรการบางสถานที่และให้ปิดสถานที่บางแห่งเป็นการชั่วคราว ลงวันที่ 8 มิถุนายน 2564 โดยให้สถานที่สักหรือเจาะผิวหนังหรือส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายสามารถเปิดดำเนินการได้ แต่ยังคงให้ปิดสถานที่ดังต่อไปนี้

 

 

1. สถานบริการ สถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายกับสถานบริการ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ สถานประกอบกิจการอาบน้ำ สถานประกอบกิจการอาบอบนวด 2. โต๊ะสนุกเกอร์ บิลเลียด สถานที่เล่นโบว์ลิ่ง 3.ร้านเกม ตู้เกม และร้านอินเทอร์เน็ต

 

 

ส่วนร้านจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่ม ให้บริโภคอาหารและเครื่องดื่มในร้านได้ภายในกำหนดเวลาปกติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยห้ามการบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ณ บริเวณร้าน (ในร้านและพื้นที่ต่อเนื่อง) ตั้งแต่เวลา 21.00 น. เป็นต้นไป และห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ หรือสถานประกอบการอื่นที่มีลักษณะคล้ายกัน ให้เปิดดำเนินการได้ตามเวลาปกติของสถานที่นั้น ๆ และงดเว้นการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย

 

 

โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 21 มิถุนายน 2564 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง หากผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนี้ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท ตามมาตรา 51 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558

ข่าวที่เกี่ยวข้อง