รีเซต

สลด!! สัปเหร่อ ชี้วิกฤตหนักครวญเผาศพป่วยโควิดพุ่ง วิงรอก 4 วัดต่อวัน

สลด!! สัปเหร่อ ชี้วิกฤตหนักครวญเผาศพป่วยโควิดพุ่ง วิงรอก 4 วัดต่อวัน
มติชน
28 สิงหาคม 2564 ( 16:33 )
49
สลด!! สัปเหร่อ ชี้วิกฤตหนักครวญเผาศพป่วยโควิดพุ่ง วิงรอก 4 วัดต่อวัน
สลด!!  สัปเหร่อ ชี้วิกฤตหนักครวญเผาศพป่วยโควิดพุ่ง  วิงรอก 4 วัดต่อวัน เหตุขาดแคลนบางคนเริ่มติดเชื้อ

 

 

เมื่อวันที่ 28 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ (จุดรับแจ้งเหตุ อ.สังขละบุรี) ช่วยกันลำเลียง ร่างของ นางเสาร์ คล่องกฤต อายุ 72 ปี ซึ่งเสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ออกจากโรงพยาบาล ซึ่งตลอดระยะเวลาที่นำร่างลงมาจากอาคารของโรงพยาบาล มายังเมรุ วัดสมเด็จ ซึ่งอยู่ห่างจากโรงพยาบาลฯ ประมาณ 700 เมตร เจ้าหน้าที่ได้ขับรถวนรอบเมรุ จำนวน 3 รอบ ก่อนจะช่วยกันนำร่างของผู้เสียชีวิตใส่เตาเผา พร้อมเริ่มทำการเผาทันที ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปราย โดยมี นายสิทธิกร คล่องกฤต อายุ 36 ปี เจ้าของร้านซ่อมรถจักรยานยนต์แห่งหนึ่งใน อ.สังขละบุรี ซึ่งเป็นลูกชายของผู้เสียชีวิต เดินทางมายืนมองร่างที่ไร้วิญญาณของแม่ ในศาลาสวดพระอภิธรรม

 

 

โดย นายสิทธิกร ได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ที่บ้านของตนเองอาศัยอยู่ด้วยกันทั้งหมด 5 คน มี ตนเอง ภรรยา ลูก 2 คน และ แม่ของตน อายุ 72 ปี ที่สุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง เนื่องจากมีโรคประจำตัวหลายโรค โดยเมื่อวันที่ 14 ส.ค.ที่ผ่านมา ภรรยา และลูกของตน มีอาการไข้ ตนจึงได้พากันไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยชุดตรวจ Antigen Test Kit (ATK) ที่เทศบาลตำบลวังกะ ได้เปิดบริการบริเวณเมืองใหม่ ในเขตเทศบาลฯ ก่อนจะพบว่า แม่ ภรรยา และลูกทั้งสองคน มีผลบวก จึงได้เริ่มเข้าสู่กระบวนการกักตัวที่บ้านระหว่างที่รอผลการสวอปซ้ำที่โรงพยาบาล ต่อมาในวันที่ 16 ส.ค.ที่ผ่านมา ผลยืนยันว่าทั้ง 4 คน ติดโควิด-19 โรงพยาบาลสังเขละบุรี จึงได้มารับตัวเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลสังขละบุรี ซึ่งภรรยา และลูกทั้งสองคน มีอาการดีขึ้นตามลำดับ แต่แม่ของตนเองซึ่งมีอายุมาก และมีโรคประจำตัวหลายโรค จึงทำให้อาการทรุดและเสียชีวิตในที่สุด ตนเองเป็นคนเดียวในบ้านที่ไม่ติดโควิด-19 และกักตัวครบ 14 วันแล้ว

 

 

ด้าน นายหนุ่ย ไม่มีนามสกุล อายุ 27 ปี สัปเหร่อ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าว ถึงการทำงานในช่วงนี้ ที่จำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นทุกวัน จึงเป็นเหตุให้เริ่มมีผู้เสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 มีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้น ล่าสุดเผาศพไปแล้วจำนวน 8 ราย ซึ่งทำให้การทำหน้าที่สัปเหร่อ ต้องป้องกันด้วยการสวมชุด PPE และปฏิบัติตามคำแนะนำของสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ทุกครั้งหลังเสร็จงานจะต้องทำการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ และ อาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้าทันทีที่กลับถึงบ้านพัก โชคดีตนเองมียังไม่มีครอบครัวจึงไม่ต้องห่วงใคร ตอนนี้ตนเองวิ่งรอกเผาศพ ให้วัด 4 แห่ง ในพื้นที่ อ.สังขละบุรี ประกอบด้วย วัดศรีสุวรรณ วัดสมเด็จ ในเขตเทศบาลตำบลวังกะ วัดป่าหิมพานต์ และ วัดซองกาเลีย ในพื้นที่ ต.หนองลู ซึ่งอยู่ห่างออกไป เนื่องจากขาดแคลนสัปเหร่อ เพราะสัปเหร่อบางคนเริ่มติดโควิด-19 ส่วนบางคนครอบครัวกังวล เลยต้องหยุดงาน

 

 

ขณะที่ นายสุรศักดิ์ จุลเวช หัวหน้ามูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ (สังขละบุรี) เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ช่วงนี้เจ้าหน้าที่มีภารกิจเพิ่มขึ้น นอกจากช่วยเหลือกรณีประสบอุบัติเหตุทั่วไปแล้ว ยังต้องสนับสนุนโรงพยาบาลในการลำเลียงผู้ป่วยจากโรงพยาบาลฯไปยังศูนย์พักคอย (CI) รวมทั้งโรงพยาบาลสนาม และการลำเลียงผู้ป่วย จากโรงพยาบาลสนาม มายังโรงพยาบาลสังขละบุรี เพื่อ X-Ray ปอด ซึ่งก็ได้กำชับอาสาสมัครทุกคน ให้เพิ่มระมัดระวังในการทำงานทุกครั้ง ด้วยการสวมชุด PPE และปฏิบัติตามขั้นตอนที่ได้ผ่านการฝีกอบรม ร่วมกับทีมโรงพยาบาลสังขละบุรี ทั้งนี้เพื่อป้องกันตนเองและครอบครัว ให้ปลอดภัย จากโควิด-19

ข่าวที่เกี่ยวข้อง